หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

"ขงจื๊อ"– Confucius : มหากาพย์ภาพยนตร์ 2010 มุมสะท้อนนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่"

รูปภาพของ เฉินซิ่วเชง

"ขงจื๊อ"– Confucius : มหากาพย์ภาพยนตร์ 2010 มุมสะท้อนนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่

ภาพยนตร์แนวมหากาพย์เรื่องแรกในปี 2010 ของจีน เป็นภาพยนตร์เรื่อง "ขงจื๊อ" เพิ่งออกฉายเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ขงจื๊อเป็นนักคิดและนักปรัชญาสังคมที่มีชื่อเสียงของจีน คำสอนของขงจื๊อนั้นมีอิทธิพลฝังรากลึกลงไปไม่เฉพาะในสังคมจีนเท่านั้น หากยังหยั่งรากในประเทศเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ

 

หลักปรัชญาของขงจื๊อเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนบุคคล และศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคมความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ ลัทธิขงจื๊อมุ่งแก้ไขปัญหาการเมืองและสังคมจีนในสมัยชุนชิว ซึ่งเป็นยุคที่เกิดจลาจล โดยเน้นให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสงบเรียบร้อย

 

ทั้งนี้จะถือหลักมนุษยธรรมและจารีตประเพณี ซึ่งตั้งอยู่บนหลักพื้นฐานแห่งสัมพันธภาพ 5 ประการ ได้แก่ เมตตาธรรม มโนธรรม จริยธรรม สัตยธรรม ปัญญาธรรม ขงจื๊อสั่งสอนลูกศิษย์โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ลูกศิษย์ของขงจื๊อจึงมีทุกชนชั้น ทำให้เกิดชนชั้นปัญญาชนขึ้นในสังคมจีน ปัญญาชนเหล่านี้มีเป้าหมายอยู่ที่การเข้ารับราชการ โดยหวังว่าปัญญาความรู้ความสามารถที่ได้รับการอบรมมาจะเป็นประโยชน์ต่อการปกครองบ้านเมือง แถมยังเป็นการสร้างชื่อเสียงและฐานะให้กับตนเอง ครอบครัว วงศ์ตระกูลอีกด้วย

 

ภาพยนตร์เรื่องขงจื๊อใช้เงินลงทุนสร้าง 150 ล้านหยวน หรือประมาณ 750 ล้านบาท ผู้ร่วมสร้างภาพยนตร์นี้มีหูเหมย ผู้กำกับหญิงระดับแนวหน้าคนหนึ่งของจีน เปาเต๋อซี นักถ่ายทำภาพยนตร์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเอเชีย คงจำกันได้ ผลงานถ่ายภาพยนตร์เรื่องพยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (Crouching Tiger, Hidden Dragon) ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม เฉินฮั่น ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องสามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือ ส่วนนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีคือ โจว เหวินฟะ โจวซุ่น และเฉินเจี้ยนปินเป็นต้น

 

 

Confucius เป็นหนังจีนฟอร์มยักษ์อีกหนึ่งเรื่อง ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 60 ปี การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นเกียรติให้กับการครบรอบวันเกิดของขงจื๊อ ปีที่ 2,560 นอกจากจะมีความเป็นไปได้สูงว่าหนังจะทำเงินถล่มทลาย หลังเปิดฉายในช่วงวันชาติจีนปีนี้แล้ว ยังได้รับการคาดหมายว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นตัวแทนภาพยนตร์จีน เข้าประกวดบนเวทีออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมของปี 2011 อีกด้วย

 

โดยทั่วไปภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะมีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะงั้นไม่ว่าผู้กำกับเก่งขนาดไหนก็ยากที่จะสะท้อนอัตชีวประวัติขงจื๊อออกมาให้ครวบถ้วนในช่วงเวลาเท่านั้น การนำเสนอแก่นแท้ของภาพลักษณ์ขงจื๊อภายในเวลาสั้น ๆ เพียง 2 ชั่วโมงจึงเป็นเรื่องสำคัญและยากยิ่ง คณะผู้สร้างหนังเรื่องนี้จึงตกลงนำเสนออัตชีวประวัติขงจื๊อตั้งแต่เป็นนายอำเภอเหวินซั่นในรัฐหลู่เมื่ออายุ 51 ปี เพราะเป็นการเริ่มต้นชีวิตการเมืองของท่าน จนถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้ 73 ปี ครึ่งแรกของภาพยนตร์สะท้อนชีวิตการเมืองของขงจื๊อ ครึ่งหลังได้เล่าถึงการเดินทางไปรัฐต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่หลักการปกครองที่เน้นคุณธรรมแก่อ๋องรัฐต่าง ๆ

 

เมื่อกล่าวถึงแรงบันดันใจในการถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ หูเหมย ซึ่งเป็นผู้กำกับเล่าว่า เมื่อ 5 ปีก่อน เธอคิดจะทำเรื่องขงจื๊อเป็นละครทีวี 60 ตอน โดยจะเล่าประวัติขงจื๊อตั้งแต่เกิดจนถึงแก่กรรม แต่ท้ายสุดเธอตัดสินใจทำเป็นภาพยนตร์ เพราะคิดว่ามีอิทธิพลสูงกว่า แต่ก็หนักใจว่าจะถ่ายทำออกมายังไง อย่างไรก็ตามเมื่อตัดสินใจแล้วยอกยังไง หูเหมยก็ยินดีที่จะสู้ ดังนั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้หูเหมยจึงเลือกแง่มุมใหม่ ๆ ในการสะท้อนภาพลักษณ์ขงจื๊อ

 

หูเหมยบอกว่า "ในสายตาคนทั่วไป ขงจื๊อเป็นนักปราชญ์ และนักการศึกษาที่ยิ่งใหญ่ แต่น้อยคนที่จะสังเกตว่าท่านยังเป็นนักการเมืองผู้เฉลียวฉลาดด้วย

เพราะฉะนั้น ภาพยนตร์เรื่ิองนี้จึงเลือกที่จะนำเสนอแง่มุมในการเป็นนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของขงจื๊อ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงประสบการณ์ที่สำคัญยิ่งในชีวิตขงจื๊อ ซึ่งก็คือเดินทางไปรัฐต่าง ๆ เผยแพร่หลักการปกครองด้วยคุณธรรมของตน"

ลัทธิขงจื๊อ (Confucianism) เป็นศาสนาหรือลัทธิ ที่มีขงจื๊อ (551 - 479 ปีก่อน ค.ศ.) เป็นผู้วางรากฐานให้กับลัทธิขงจื๊อที่มุ่งแก้ไขปัญหาการเมืองและสังคมของจีนในสมัยจลาจล โดยเน้นให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสงบสุขเรียบร้อย ทั้งนี้จะถือหลักการเรื่องมนุษยธรรมและจารีตประเพณี ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักแห่งสัมพันธภาพ 5 ประการ ได้แก่ เมตตาธรรม มโนธรรม จริยธรรม สัตยธรรม ปัญญาธรรม (สอดคล้องกับหลักศีล 5 ของพุทธศาสนา)มีบุคคลบางคนกล่าวว่า ศาสนาขงจื๊อเป็นระบบศีลธรรมหรือหน้าที่พลเมืองดีมากกว่าศาสนา เพราะขงจื๊อมิได้ส่งเสริมให้มีความเชื่อถือในพระเจ้าที่เป็นตัวตน หรือการสวดอ้อนวอน ตลอดจนการบูชาพระผู้เป็นใหญ่ แม้ขงจื๊อจะสอนหนักไปทางจริยธรรมและหน้าที่พลเมืองดี แต่หนังสือบางเล่มที่ขงจื้อแต่งไว้ก็ได้กล่าวถึงเทพเจ้า และอำนาจของเทพเจ้าที่มีอยู่เหนือโลก เช่นคัมภีร์อี้จิง หรือคัมภีร์ว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงได้กล่าวถึง ซ่างตี้ หรือเซี่ยงตี่ ซึ่งเป็นผู้สร้างโลก เป็นที่น่าสังเกตว่า ขงจื๊อ เขียนคัมภีร์อี้จิง อันว่าด้วยจักรวาลและการสร้างโลกนั้น เป็นเพียงการรวบรวมความเชื่อของเก่าที่มีมาดั้งเดิมเกี่ยวกับการสร้างโลก ตามความเห็นและความเชื่อถือของคนโบราณ

ขงจื๊อสั่งสอนลูกศิษย์โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ลูกศิษย์ของขงจื๊อจึงมีทุกชนชั้น ทำให้เกิดชนชั้นปัญญาชนขึ้นในสังคมจีน ปัญญาชนเหล่านี้มีเป้าหมายอยู่ที่การเข้ารับราชการ โดยหวังว่าปัญญาความรู้ความสามารถที่ได้รับการอบรมมาจะเป็นประโยชน์ต่อการปกครองบ้านเมือง และยังเป็นการสร้างชื่อเสียงและฐานะให้กับตนเอง ครอบครัว วงศ์ตระกูลอีกด้วย ลัทธิขงจื๊อ เรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า แนวคิดหยู ซึ่งหมายถึงแนวคิดของปัญญาชน ผู้ที่ศึกษาแนวคิดของขงจื๊อและนักคิดคนอื่นๆ ในกลุ่มนี้เรียกกันในสมัยโบราณว่า ปัญญาชนหยู หรือชาวหยู ปัจจุบันลัทธิขงจื๊อแม้จะหมดบทบาทในด้านการเมือง แต่ในด้านวัฒนธรรม ลัทธิขงจื๊อยังฝังลึกอยู่ในสังคมจีนนานนับเป็นศตวรรษจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีน

หลักความรู้ขงจื้อ

ศาสตร์สี่แขนง

ที่ขงจื๊อวางรากฐานไว้ ได้แก่ วัฒนธรรม ความประพฤติ ความจงรักภักดี และ ความซื่อสัตย์ โดยวัฒนธรรมเน้นถึงการเคารพบรรพบุรุษและพิธีการโบราณ ยึดถือผู้อาวุโสเป็นหลัก แต่ไม่ยึดติดหรืออายที่จะหาความรู้จากคนที่ต่ำชั้นหรืออายุน้อยกว่า

แปดหลักการพื้นฐานในการเรียนรู้

ได้แก่ สำรวจตรวจสอบ ขยายพรมแดนความรู้ จริงใจ แก้ไขดัดแปลงตน บ่มความรู้ ประพฤติตามกฎบ้านเมือง ประเทศต้องได้รับการดูแล นำความสงบสุขมาสู่โลก

ลำดับการเรียนรู้

ได้แก่ พิธีกรรม ดนตรี ยิงธนู ขี่ม้า ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์

คุณธรรมทั้งสาม

ที่ได้จากการเรียนรู้ ได้แก่ ภูมิปัญญา เมตตากรุณา และความกล้าหาญ

สี่ขั้นตอนหลักการสอน

ได้แก่ ตั้งจิตใจไว้บนมรรควิธี ตั้งตนในคุณธรรม อาศัยหลักเมตตาเกื้อกูล สร้างสรรค์ศิลปะใหม่

สี่ลำดับการสอน

ได้แก่ คุณธรรมและความประพฤติ ภาษาและการพูดจา รัฐบาลและกิจการบ้านเมือง และสุดท้ายคือวรรณคดี


เรื่องเชื่อมโยง

· ขงจื้อ..หนังที่รอชมเรื่องต่อไป

· กลับไปหา "ขงจื๊อ"....ต้นแบบนักปราชญ์ทางการศึกษาการเมืองการปกครอง..คุณธรรมจริยธรรมใช้กับนักการเมืองได้หรือไม่ ขงจื๊อมีคำตอบ

 

 

ขอขอบคุณ-อ้างอิง

· สถานีวิทยุซีอาร์ไอ - CHINA RADIO INTERNATIONAL

· http://th.wikipedia.org

 

ขอบคุณhttp://www.oknation.net


รูปภาพของ เฉินซิ่วเชง

การพัฒนาคนตามหลักการสอนขงจื๊อมากว่า 2,000 ปี

ต้องยอมรับว่า "โจว เหวิน ฟะ" คือสุดยอดดาราระดับโลกที่สามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของยอดนักปราชญ์ นักการศึกษา นักสอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ดนตรี ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชนชาติจีนซึ่งใช้หลักคุณธรรมจริยธรรมนักปกครอง ยุทธศาตร์การปกครอง ได้เนียนสมกับเป็นดาราระดับโลก

ดูแล้วเชื่อทันทีว่า..นี่แหละ ขงจื๊อ...

ในหนังบอกเรื่องราวการต่อสู้เพื่อให้แผ่นดินแม่ของตนเองให้อยู่รอดและเจริญรุ่งเรือง

การนำเสนอออกแนวดราม่า การเขียนบทกระชับ ตรงประเด็น นำไปสู่จุดมุ่งหมายได้เร็ว

ดูสนุก ทั้งฉากยิ่งใหญ่สมราคา ( เข้าใจว่าเป็นหนังจากแผ่นดินใหญ่ ลืมถามเจ้าของหนังซะด้วย )

ฉากสงคราม ฉากการเจรจาเป็นพันธมิตรระหว่างแว่นแคว้น ฯลฯ ดูกี่ครั้งก็เห็นความยิ่งใหญ่อลังการ์ของแว่นแคว้นในประวัติศาสตร์

เกาหลีชิดซ้ายไปเลยครับ...

การเมืองการปกครองนั้น ขงจื๊อได้ให้แง่คิดชนิดที่เป็น "ตำราสำเร็จรูป" ของนักปกครอง ให้มองที่ปากท้องของประชาชนเป็นสำคัญ

เจ้าแคว้นเว่ย...ถามขงจื๊อว่า แคว้นนี้คนมาก ประชาชนพอมีพอกิน แต่ทำไมบ้านเมืองจึงวุ่นวาย

ขงจื๊อบอกว่าบ้านเมืองจะสงบได้ มิใช่ใช้แค่กฎหมายควบคุมบังคับ แต่ต้องให้ประชาชนได้รับการศึกษา ได้รับความรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม

หากประชาชนมีคุณธรรมจริยธรรม ก็ไม่ต้องกังวลว่าบ้านเมืองจะไม่สงบเจริญรุ่งเรือง

นั่งดูหนังไป ก็คิดตามไปเรื่อยๆ นึกถึงสภาพสังคมไทยที่กำลังยุ่งยากทางการเมือง เนื่องจากประชาชนแบ่งก๊ก แบ่งสี ไม่เคารพกฎหมาย ไม่ใช้หลักคุณธรรม จริยธรรมในการแก้ปัญหา

ประชาชนขาดหลักคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตบ้านเมืองย่อมมีปัญหา

ช่วงที่ขงจื๊อ มีชีวิตเป็นห้วงเวลาประมาณ 500 ปี ก่อนคริสตศักราช ในตามประวัติบอกว่า ขงจื๊อเป็นนายอำเภอเพียงปีเดียวก็ทำให้อำเภอนั้นปราศจากโจรผู้ร้าย จึงได้รับการสนับสนุนจากอ๋องจิง เชิญมาเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ภายหลังได้ตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทย แต่ถูกเสนาบดีใหญ่กลั่นแกล้ง จนต้องลาจากแว่นแคว้นแผ่นดินแม่ ออกตระเวณไปสั่งสอนลูกศิษย์แถบแม่น้ำซูกับแม่น้ำสี อยู่หลายปี

ขงจื๊อได้มีโอกาสพบปะกับเล่าจื๊อ และนำปรัชญาบางเรื่องมาประยุกต์ใช้ในการบริหารบ้านเมือง

หลักปรัชญาของขงจื๊อนั้นเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนตัว และศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคม และ ความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ

หลังจากออกตระเวณไปตามแว่นแคว้นต่างๆ มีการแบ่งแยกดินแดน มีการสงครามรบพุ่ง ลูกศิษย์ลูกหาของขงจื๊อ ที่มีฝีมือทางการรบ การทหารได้กลับไปช่วยชาติ

ท้ายที่สุด ขงจื๊อ ได้กลับบ้านเกิด แคว้นลู่ อันเป็นมาตุภูมิ และได้วางรากฐานปรัชญา การศึกษา จริยธรรม นับเป็นอีกลัทธิหนึ่งที่สืบทอดกันมากว่า 2,000 ปี ถือได้ว่าหลักจริยธรรม การปกครองของขงจื๊อ มีอิทธิพลต่อประเทศแถบเอเชียอยู่มาก

ศาสตร์สี่แขนงที่ขงจื๊อวางรากฐานไว้ ได้แก่ วัฒนธรรม ความประพฤติ ความจงรักภักดี และ ความซื่อสัตย์ โดยวัฒนธรรมเน้นถึงการเคารพบรรพบุรุษและพิธีการโบราณ ยึดถือผู้อาวุโสเป็นหลัก แต่ไม่ยึดติดหรืออายที่จะหาความรู้จากคนที่ต่ำชั้นหรืออายุน้อยกว่า

แปดหลักการพื้นฐานในการเรียนรู้
ได้แก่ สำรวจตรวจสอบ ขยายพรมแดนความรู้ จริงใจ แก้ไขดัดแปลงตน บ่มความรู้ ประพฤติตามกฎบ้านเมือง ประเทศต้องได้รับการดูแล นำความสงบสุขมาสู่โลก

ลำดับการเรียนรู้ ได้แก่ พิธีกรรม ดนตรี ยิงธนู ขี่ม้า ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์

คุณธรรมทั้งสาม ที่ได้จากการเรียนรู้ ได้แก่ ภูมิปัญญา เมตตากรุณา และความกล้าหาญ

สี่ขั้นตอนหลักการสอน ได้แก่ ตั้งจิตใจไว้บนมรรควิธี ตั้งตนในคุณธรรม อาศัยหลักเมตตาเกื้อกูล สร้างสรรค์ศิลปะใหม่

สี่ลำดับการสอน ได้แก่ คุณธรรมและความประพฤติ ภาษาและการพูดจา รัฐบาลและกิจการบ้านเมือง และสุดท้ายคือวรรณคดี

เป็นหนังดูสนุกตามแบบฉบับภาพยนตร์บันเทิง

ครบเครื่องในองค์ประกอบของหนัง ที่ต้องบอกว่าแค่ดูฉากและดนตรีประกอบเป็นจุดเด่น

ได้แง่คิดในทางการเมืองมากมาย เฉพาะบทหนังที่เน้นคำคมที่เป็นปรัชญาการเมืองการปกครอง ดูไปผงกหัวตามไปด้วย อาจเป็นเพราะเราอยู่ฝ่ายเรียกร้องคุณธรรมจริยธรรมจากนักการเมือง นักปกครองก็เป็นได้

ที่สำคัญที่สุด เป็นเรื่องสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง

สส.และนักการเมืองทุกระดับต้องไม่พลาด โดยเฉพาะคนที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน ไปดูเถอะ

หลักคำสอนของขงจื๊อรู้สึกจะเป็น "นโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์" ด้วยซ้ำไป

ทำไงได้เรื่องการศึกษากับการพัฒนาคน เป็นหลักสอนของขงจื๊อมากว่า 2,000 ปี

แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ล้าสมัย...ยังเป็นเรื่องหลักที่ทุกรัฐบาลจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ทำให้ประชาชนได้รับการศึกษา ทำให้ประชาชนยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม รวมไปถึงข้าราชการทุกฝ่าย

น่าจะไปดูเพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่า หลักการปกครอง การบริหารประเทศชาติที่จะสร้างความสงบสุขแก่ประชาชนนั้นต้องเน้น "คุณธรรมจริยธรรม" เป็นสำคัญ

หากไปดูหนังเรื่องก็จะรู้ว่า "คนรักแผ่นดินเกิด" แบบขงจื๊อ เค้าทำตัวอย่างไร

ดูแล้วสบายใจที่เมืองไทยได้หนังดีๆ มาให้ดูที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง

  ขอบคุณ สาระจาก  แคน ไทเมือง

(ข้อมูลบางส่วนจากวิกิพีเดีย)

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal