หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

หลิวหย่งหวาแนะนำตัวค่ะ

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

                      สวัสดีค่่ะ หนูชื่อ นางสาวหลิวหย่งหวา มีชื่อไทยว่า นางสาวจรัสดาว หลิ่ววัฒนาวาณิช ค่ะ จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโท มหาวิทยาลัยจงซานสาขาเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศค่ะ

หนูเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์ คุณปู่ คุณย่า คุณตา และคุณยาย เป็นชาว ถังซาน มณฑลกว่างตง เมืองเหมยโจว อำเภอเฟิ่งซุ่น คุ่ะปา-มาหนูก็เกิดเฟิงซุ่นค่ะ หนูจึงเป็นเชื้อสายชาวฮากกาเฟิ่งซุ่น 100 เปอร์เซ็นต์นะคะ แต่หนูก็รักประเทศไทยมาก ๆ และภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยเชื้อสายจีน มีสัญชาติไทยค่ะ โดยเฉพาะหนูภูมิใจมาก ๆ ที่ประเทศไทยของเรา มีราชาแห่งราชันย์ คือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ของพวกเราชาวไทยทุกคนนะคะ

ปัจจุบันหนูอายุสามสิบยังแจ๋วอยู่เลยค่ะ มาอาศัยอยู่ที่กว่างโจว ทำธุรกิจส่วนตัว ค่ะ ตอนนี้ขออนุญาตไม่เปิดเผยนะคะ

หนูได้เข้ามาอ่านและเป็นแฟนประจำของฮากกาพีเพิลได้ปีกว่าแล้วค่ะ วันนี้ ได้ตัดสินใจอย่างแน่นอนแล้วว่า อย่างไรเสีย จะล๊อคอินเข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเสียที เพื่อจะได้มีสิทธิออกความเห็นบ้าง นะคะ หวังว่าคุณพี่ทั้งหลาย ที่หนูแอบติดตามผลงานอยู่ จะต้อนรับหนูนะคะ ส่วนพวกที่ยังคิดว่าตัวเองยังเป็นหนุ่มสาวอยู่ สามารถติดต่อกันได้นะคะ ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ แต่ขอเป็นหน้าจอนี้เลยนะคะ คุณพี่ทั้งหลาย หนูหมายถึง เกอเกอ ทุก ๆ ท่าน ที่มีความคิดความเห็น และบทความที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ขออนุญาตเอ่ยนามสักเล็กน้อยนะคะ เกอเกอจองหยิ่นฮยุ๋ง หนูก็ติดตามผลงานของเกอเกอนะคะ คุณอาคมอีกค่ะ อีกหลายท่านมากเลยคิดไม่ออก อ๋อมีเกอเกอวี่ฟัดอีกท่านหนึ่ง น่ารักดีนะคะ หนูคิดว่าเกอเกอเขามีความเห็นที่ตรงไปตรงมาดี ว่าง ๆ เขียนเรื่องราวของเกอเกอให้หนูและคนอื่น ๆ อ่านเพิ่มอีกนะคะ อีกท่านที่ขาดไม่ได้ อาฉีเกอเกอ ค่ะ ถ้าหนูเข้าใจไม่ผิด เกอเกอเป็นเจ้าของเว็ปไซด์ฮากกาพีเพิืลนี้ใช่ไหมคะ ขอบพระคุณมาก ๆ ๆ เลยนะคะที่สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้พวกเราชาวไทยเชื้อสายฮากกาได้มีเวทีแสดงออกในภาษาไทยน่ะค่ะ เจ่เจ๋เฉินซิ่วเชงก็เป็นสุภาพสตรีที่เก่งมาก ๆ นะคะหนูรู้่สึกชื่นชมและแอบเป็นแฟนคลับของเจ่เจ๋มานานตั้งแต่เข้ามาครั้งแรกเลยละค่ะ รู้สึกว่า เจ่เจ๋จะเป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับออกแบบอะไรประมาณนี้ใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้น ต้องเรียกเจ่เจ๋ว่า เฉินเหล่าซือจะดีกว่าไหมคะ 

หนูเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในวันนี้ เพราะรู้สึกดีใจที่เรามีเนื้อหาดี ๆ และอยากเป็นส่วนหนึ่งในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์น่ะค่ะ ที่สำคัญอยากเรียนถามท่านผู้รู้ทั้งหลาย ในส่วนที่หนูไม่รู้และอยากรู้ด้วยนะคะ อ้อ เกือบลืมไปเลยค่ะ อีกท่านหนึ่งที่หนูติดตามมาตั้งแต่เข้ามาอ่านเป็นครั้งแรกและประทับใจจนต้องตามมาตลอดคือเหล่าซือยับสินฝ่า ค่ะ ขอเรียกตามเกอเกอวี่ฟัดเลยนะคะ เพราะหนูเห็นว่า ที่เกอเกอวี่ฟัดให้คำนิยมเหล่าซือยับสินฝ่านั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งแล้วล่ะค่ะ ถ้าหนูเดาไม่ผิด เหล่าซือยับสินฝ่า ออกเสียงในผู่ทงฮว่า ว่า เย่ซินหวา หรือปล่าวคะ ถ้าหวาตัวเดียวกับหนู หนูจะดีใจมากเลยค่ะเหล่าซือ หนูขอเป็นกำลังใจให้กับเหล่าซือ ในการเผยแพร่ความรู้และอุดมการณ์ที่น่านับถือไปตลอดเลยนะคะ หนูเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ที่อยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่จีน ที่จะเป็นกำลังใจให้กับเหล่าซือและเป็นแฟนคลับของเหล่าซือตลอดไปค่ะ

ยังมีอีกหลาย ๆ ท่านที่หนูเอ่ยนามไม่หมด ต้องขออภัยนะคะ

หนูหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตอนนี้หนูได้เป็นสมาชิกอันอบอุ่นของครอบครัวฮากกาพีเพิลอย่างเป็นทางการแล้ว คงจะมีเกอเกอ ตี้ตี้ เม่ยเม่ย เจ่เจ๋ ทั้งหลาย และเพื่อน ๆ ทุก ๆ คน จะต้อนรับหนูนะคะ เรียกหนูว่า อาหวา หรือ หย่งหวา ก็ได้ค่ะ

การที่หนูเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัว มีบางอย่างที่หนูอยากจะระบายและออกความคิดเห็น เพราะอึดอัดมานานแล้ว ไว้วันต่อไปก่อนนะคะ ค่อยเสนอตัวออกความเห็นบ้าง ตอนนี้ อากาศหนาวมาก มาอยู่กว่างโจวก็หลายปี เพิ่งได้สัมผัสกับฝนหิมะเอาในปีนี้ล่ะค่ะ

ขอให้ทุกท่านที่เมืองไทยมีสุขภาพแข็งแรง ประสบกับความสำเร็จตลอดไปนะคะ 

ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ สากล ให้กับทุกท่านค่ะ

หลิวหย่งหวา


รูปภาพของ อาฉี

ยินดีครับ

แนะนำตัวมาเยอะ ที่แท้ก็คนบุรีรัมย์เหมือนอาแมไง(เกิดที่บ้านบัว) และอาปาไหงก็มาจากเฟิ่งซุ่นเหมือนกัน ก็ขอตอบรับด้วยความยินดียิ่งครับ

และที่เว็บนี้เกิดขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเราทุกคน ก็ขอมอบให้เว็บนี้เป็นของทุกคน ไม่อยากให้ผูกติดกับบุคคล เว็บนี้จะได้มีอายุยืนยาวกว่าคนใดคนหนึ่ง

และขอขอบคุณสำหรับคำอวยพร ก็ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงต้อนรับลมหนาวได้อย่างมั่นคง เจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปครับ

 

รูปภาพของ Mr.Xiong

ยินดีต้อนรับครับ

ยินดีต้อนรับครับ  หวังว่าประสบการณ์ในต่างแดนคงจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ให้กับพวกเราในชุมชนครับ

รูปของอาปักxiongเด่นสุด

ใช้อาโออิเลยนะอาปัก อิอิ

แสดงว่าอาปักก็ติดตามผลงานด้วยละสิ^^

เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายอยู่แล้ว ชิมิ

รูปภาพของ Mr.Xiong

อาจุ้งฟะ

อาจุ้งฟะรอบรู้จริงๆเรื่องน้อง AOI แสดงว่าคอเดียวกันแล(ฮา) ให้เรียกไหง่ว่าอากอ หรือ อาสุก จะเหมาะกว่า เพราะถ้าเป็นอาปักอายุไหงต้องแก่กว่าพ่อหงี่ 

หงี่อยู่หาดใหญ่แถวไหนเหรอ  ว่างๆจะได้ไปนั่งจิบชา หรือ กินขนมหวานร้านชิก๋าหงิ๋นกัน   รับรองคุยกันไฟแลบแน่  ถ้าสนใจก้อค่อยโพสต์เบอร์โทรหลังไมค์กัน   อืมเยาวชนที่สะเดาด้วยนะไม่ว่าจะเป็นล้อกิมซื้อ,กัมปนาท ฯ

ถ้ามีเวลาเชิญติดต่อมาครับ  คนกันเองทั้งนั้น

熊永发

 

อยู่ทุ่งเสาครับ^^

บ้านอยู่ทุ่งเสาครับอากอxiong

จะให้ไหง่ลงรูปMiyabiแข่งกันไหมละอากอxiong

จะให้ไหง่เอาน้องมิยาบิมาเป็นตัวแทนไหง่มั้ยละอากอxiong

ฮา. แต่ไหง่ว่าใช้รูป จูกัดเหลียง(ขงเบ้ง) ล่ะดีแล้ว  ไหง่ชอบขงเบ้งมากๆ

ไหง่เป็นคนชอบวางแผนการรบชอบเป็นแนวหลัง เมื่อก่อนไหง่มีเกมส์วางแผนการรบเต็มเลย

โดยเฉพาะวางแผนการรบ3ก๊กชอบมาก เล่นฝ่ายเล่าปี่เพราะชอบขงเบ้งเล่นจนรวมแผ่นดินจีน

ได้เป็นว่าเล่น ^^

ถ้าอยากรู้จักน้องมิยาบิก็ดูMVเพลง ปอดแหกของพี่ป้างนครินทร์นะครับ

รูปภาพของ Mr.Xiong

จูกัดเหลียง

ความชอบเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล  ในตัวละครของสามก๊ก  การอ่านสามก๊กหากพิจารณาเป็นตอนๆแล้วนำข้อคิดมาใช้ก็เป็นประโยชน์ไม่น้อยในชีวิตประจำวัน   ตัวละครที่ควรเอาเยี่ยงอย่างในทัศนคติของไหง่น่าจะเป็น จูล่ง กับ สุมาอี้นะ  ส่วนเล่าปี่กับจูกัดหลียงเป็นเพราะผู้เขียนเน้นให้เรารู้จักมาก และมีการเอ่ยถึงบ่อย  จึงมองว่าเป็นก๊กที่มีความสามารถที่สุด  บุคคลที่มองข้ามไม่ได้ก็มีอีกนะ เช่น ยี่เอ๋ง,เตียวเสี้ยนฯลฯ  ถ้าชอบลองหาอ่านดู

 

รูปภาพของ วี่ฟัด

ชักจะแก่แดดไปแล้วจุ้งฟะ

อาจุ้งฟะเอ๋ยไหง่ว่าหงีชักจะแก่แดดมากไปแล้วนะไหงว๊า. ที่จริงไหงกำลังรวบรวมสมาธิเพื่อจเขียนตอบหลิวหย่งหวาเม่ยเม่ยอยู่ แต่อดเห็นความแก่แดดแก่ลมของหงีไมได้ทำให้ตะบะไหง่แตกจึงต้องมาเขียนเตือนหงีหน่อย เคยได้ยินว่าหงีต้องการเข้าวิศวอุตสาหกรรม ให้ได้ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะเข้าตำราแบบเพลงของอินโนเซ้นต์ รุ่นหงีคงไม่ทัน แต่หงีลองไปถามอาศุขหยินฮยุ่งซิเขารู้ดีรายนั้นเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอินโนเซ้นต์ทีเดียว แต่ถ้าถามไหง่ไหง่รู้ดีเพราะดิอินโนเซ้นต์เป็คนราชบุรีคนที่ยังพอมีชื่อเสียงในยุคปัจจุบันก็คือ ชาตรี คงสุวรรณ ไงหงีรู้จักหรือเปล่า สาธยายมาตั้งนานหงีคงสงสัยว่าเพลงอะไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไหง่จะนำเสนอเลย เพลงนั้นคือเพลงสอบตก รู้จักเปล่า
" ดูตำราตั้งตีห้าตีหกมันก็ยังสอบตกเป็นเพราะเหตุอะไร
ดูตำราคั้งตีห้าตีหกแต่ดูเว๊ปไซต์ ล.......า ......จะไม่ตกได้อย่างไร "

ไม่รักกันจริงไม่เตือน นะ จะ บอก ให้

ตอบอาปักวี่ฟัด

ไหง่ต้องขออภัยครับอาปักวี่ฟัด

ไหง่แค่ล้อเล่นนะครับ ไม่กล้าจริงๆหรอกครับ แต่ไหง่ชอบฟังเพลงของป้างนครินทร์

ครับเพราะว่าพี่เค้าร้องเพลงเพราะดีครับ ไหง่ยอมรับแบบลูกผู้ชายเลยนะครับว่าเมื่อก่อนเคยดูพวกเว็ป ลา.....ๆ..

แต่ไหง่ชอบดูพวกข่าวคราวทหารมากกว่าครับ ก็อย่างที่บอกไหง่ชอบเรื่องกองทัพ ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อครับ เดี๋ยวไหง่ไม่ดูหรอกครับพวกอย่างว่า

ทั้งแสนยานุภาพกองทัพเสี่ยมหล่อ ทัพถ่องซาน ฯลฯ  ติดตามผลแมนยูบ้างครับ

ไหง่ก็จะเผื่อเวลาอ่านหนังสือไว้ตอนกลางวันเพื่อหาความรู้ถ้าไม่เข้าใจก็เปิดเข้ามาดูอินเตอร์เน็ตบ้างครับ

^^ ตอเซี๊ยะ ที่กรุณาตักเตือนไหง่เพราะความเป็นห่วงครับอาปัก

ขอความกรุณาทางเว็บมาสเตอร์ช่วยลบคอมเม้นของไหง่ที่เกิดปมด้วยครับ

ไหง่ต้องขอกราบอภัยอีกครั้งถ้าหากไม่สมควร

รูปภาพของ YupSinFa

จุ้งฟะหงีเป็นขงเบ้งเหรอ?

จุ้งฟะคนเก่ง หงีช่างเข้าใจหารูปมาใส่แทนตัวจริงจังเลยนะ ไหงเดาว่าต้องเป็นรูปวาดแทนตัวของ "ขงเบ้ง" หรือ จูกัดเหลียง หรือ จูเก๋อเลี่ยง "นักวิชาการสติเฟื่อง ในเรื่อง สามก๊ก ขงเบ้งนี้ ไหงมองในมุมส่วนตัวของไหงนะ 1.ไหงคิดว่าไม่มีตัวจริงในประวัติศาสตร์ หรอก น่าจะเป็นตัวละครที่ "หลอกว้านจง" ท่านแต่งขึ้นมามากกว่า

ว่าแต่ว่าน้อง AOI นี่ใครกันเหรอ?

ตอบอาปักสินฝ่า

ไหง่คิดว่าขงเบ้งมีอยู่จริงครับ

มีหลุมศพอยู่ที่เขาเตงกุนสาน

คนจีนเรามีความเชื่อเรื่องเซ่นไหว้ผี

ขงเบ้งเองก็มีการเซ่นไหว้ผีทหารฝ่ายซูมาอี้ที่โดนไฟครอบทั้งเป็นที่มาจากกลยุทธของขงเบ้งเอง  ทำให้ขงเบ้งกลัวบาปกรรม

จึงต้องเซ่นไหว้โดยใช้หมั่นโถแทนหัวของทหาร จึงเป็นที่มาของหมั่นโถที่พวกเรากินทุกวันนี้

ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นทำให้ขงเบ้งเจ็บป่วยจนสิ้นบุญขณะอยู่ในช่วงพักรบ ณ.ทิศอีสาน

ทำให้เกียงอุยเป็นกุนซือผู้สืบต่อจากขงเบ้ง แต่ก็ต่อสู้กับฝ่ายซูมาอี้ไม่ไหว เพราะคำสั่งอันโง่เขลาของพระเจ้าเล่าเสี้ยน ที่เชื่อคนง่ายลุ่มหลงนางโลม ไม่ใส่ใจเหตุการณ์บ้านเมือง

และชอบบังคับขงเบ้งให้อยู่แต่ในเมืองหลวง

รูปนี้คุ้น

ในห้องพักคนงานไหง ห้องน้ำคนงาน ติดรูปนี้ใช้เลย ถึงว่าคุ้น ค้น  (เดียวขอไหงมั่งไม่ว่ากันนะ ฮิฮิ)

รูปภาพของ จ๊องหยิ่นฮยุ๋ง

ถ้าอยากรู้จักอาโออิ

ถ้าอยากรู้จักอาโออิ ก็ดูเรื่อง "ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น" ได้ครับ (ไม่ติดเรท...ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ)

รูปภาพของ วี่ฟัด

เหิ่นเกาซิ่ง อาหลิวหย่งหวา

           ไหง่ขอบอกเลยว่าเดี๋ยวนี้เว็ปชุมชนคนฮากกานี้ไม่ใช้ ธรรมดานะครับ ไม่ใช่ใครจะแสดงความคิดเห็นแบบมั่วๆได้ มีบุคคลที่มีความรู้ ปัญญาชน เข้ามาอ่านเข้ามาดูอยู่มากมาย มีอาจารย์ระดับปริญญาเอก ดุษฎีบัณฑิต เข้ามาชมอยู่มากมาย เมื่อวานนี้มีอาจารย์ดอกเตอร์ศิริเพ็ญ จากสถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรม เอเซีย มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ามาแอ๊ดเฟชบุคไหง่ อาจารย์บอกว่า เข้ามาดูเว็ปของเราบ่อยๆ และได้สมัครเป็นสมาชิกแล้ว แต่ไม่เคยโพสต์ ขณะนี้อาจารย์ได้รับทุนจากกองทุนสนับสนุนการวิจัย ทำวิจัยเรื่อง " ไวยากรณ์ภาษาฮากกาในกรุงเทพ "  จึงแสดงให้เห็นได้ว่าใครจะมาแสดงข้อคิด ข้อเห็น แบบมั่วๆ เอาเรื่องทิฐฐิประจำตัวมาแสดงแบบขี้เท่อนั้นทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะที่นี่คือ " ฮากกาเอ็นไซโคปีเดียแห่งประเทศไทย "

             อาหลิวหย่งหวา ไหงยินดีมากเมื่อรู้ว่ามีคนมาคอยอ่านความคิดความเห็นแบบตรงไปตรงมา เพราะไหงยึดถือคำขวัญของลูกเสืออย่างเคร่งครัดว่า " เสียชีพอย่าเสียสัตย์ " พวกเราในชุมชนคนฮากกานี้ถือได้ว่าเราต่างเป็นพี่เป็นน้องกัน แล้วเราจะมาเฟคกันหาพระแสง (ด้ามยาว ) อะไรกันอีก เลือดของความเป็นพี่น้องชาวฮากกาไม่ว่าปั้นหรือฉิมย่อมข้นกว่าน้ำเสมอ หงีว่ามะ

            อาหลิวหย่งหวา จบการศึกษาจาก จงซานต้าเสวี๊ย นั้น จงซานต้าเสวี๊ยถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในกวางเจา ถ้าจะเปรียบเทียบทั้งประเทศ จงซานต้าเสวี๊ย จะอยู่ในลำดับใกล้ๆทอปเท็นของประเทศจีน ยิ่งจบการค้าระหว่างประเทศ โอโฮ้ สุดยอด ในเว็ปนี้เคยมีคนเข้ามาถามเกี่ยวกับการไปค้าขายที่เมืองจีนอยู่บ่อยๆ ไหง่คิดว่าอาหลิวหย่งหวาคงจะช่วยหาคำตอบให้กับผู้ต้องการไปทำธุระกิจที่เมืองจีน ไหง่ก็ไปเมืองจีนบ่อยๆ ไปมาประมาณ 15 ครั้งได้มั้ง ช่วงสงกรานต์ ไหงก็จะไปที่เหมยเซี่ยน เพื่อไป้จู่เซียน อากุง อาผอ ไหง่เคยไปเหมยเซี่ยนมาสี่ครั้งแล้ว เคยตระเวณ ไปทั่วๆกวางตุ้งมาบ้างแล้ว ไปครั้งนี้จะมีคนเดินทางไปหลายท่าน ทั้งอายับ อาจารย์พอล อาจารย์เฉินซิ่วฉุก แล้วยังมีอีกหลายๆท่าน คงจะสนุสนานมาก บางทีอาจจะมีโอกาศไปเยี่ยมเยียน อาหลิวหย่งหวา บ้าง

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

ถึงวี่ฟัดเกอเกอค่ะ

              สวัสดีค่ะวี่ฟัดเกอเกอ หนูขออนุญาตเรียก วี่ฟัดว่า เกอเกอ ดีกว่านะคะ ถึงแม้ว่าหนูจะเห็นภาพถ่ายของเกอเกอ ในงานรวมตัวกันที่กรุงเทพ นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร แล้วในงานเลี้ยงชุมชนครั้งล่าสุด วี่ฟัดเกอเกอท่าทางใจดีและน่ารักมาก ๆ ค่ะ ถ้าหนูได้พบเจอกับวี่ฟัดเกอเกอ ตัวจริง ๆ ก็ดีนะคะ อ่านพบว่าวี่ฟัดเกอเกอ กับ เพื่อน ๆ มีอาซินหวาเกอเกอ อาจารย์พอลของวี่ฟัดเกอเกอด้วย พูดถึงอาจารย์พอล หนูขออนุญาตเรียกอาจารย์ว่า พอลเกอเกอ หรือ เหล่าซือพอล ตามแต่ที่หนูจะนึกได้นะคะ หนูตื่นเต้นจังเลยค่ะ ที่จะได้เจอตัวจริงของท่านทั้งหลาย ที่หนูติดตามผลงานของเกอเกอทุกท่านอยู่ ว่าแต่ว่า จองหยิ่นฮยุ๋งเกอ ท่านจะมาด้วยหรือปล่าวคะ อาฉีเกออีกค่ะไม่ทราบว่าจะได้มาอีกหรือปล่าว? อีกท่านหนึ่งที่หนูอยากเจอตัวมากที่สุด คือ เหล่าซือเฉินซิ่วเชง ค่ะ แต่ก็ยังดีใจที่ว่า เหล่าซือฉินซิ่วฉุกจะมาด้วยใช่ไหมคะ ขอให้เชิญชวนเฉินเหล่าซือมาด้วยให้ได้นะคะ

              หนูชื่นชอบแนวทางและอุดมการณ์ของวี่ฟัดเกอเกอ กับ อาหวาเกอ ค่ะ เพราะหนูคิดว่า นิสัยของตัวหนู เหมือนกับ เกอเกอ ทั้งสองเลยค่ะ หนูถึงชอบความเห็น ของวี่ฟัดเกอเกอ และงานเขียนของอาหวาเกอ ค่ะ เพราะหนูมีความภาคภูมิใจที่หนูได้เกิดมาเป็นคนไทยเชื้อสายฮากกาน่ะสิคะ วี่ฟัดเกอ เชื่อไหมคะว่า หนูอยู่ประเทศจีนมา 1 รอบนักษัตร หนูชอบไปเที่ยวที่ตัวเมืองเหมยโจวมาก ๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าหนูจะเกิดมาในครอบครัวของชาวฮากกาฮงสุน แต่หนูโชคดีค่ะ ที่ปามาของหนู ท่านมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลมาก ๆ ท่านพูดภาษาจีนกลางกับพวกลูก ๆ ในบ้านนะคะ คนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย น้อยมากที่จะพูดกับลูก ๆ เป็นภาษาถิ่นของตัวเอง แต่ครอบครัวหนู ปามาพูดจีนกลางใส่เลยค่ะ พูดถึงท่านทั้งสอง หนูก็อดคิดถึงท่านไม่ได้ เพราะเวลาที่หนูได้อยู่กับท่าน แค่ไม่ถึง 20 ปีเลยค่ะ ใช่แล้ว ท่านทั้งสองจากหนูไปตอนหนูกำลังเรียนอยู่ปี 1 ที่ขอนแก่น โดยอาปาจากไปก่อน ปีถัดมาอามา ก็ตามไปด้วยความรักที่ท่านไม่เคยอยู่ห่างจากกันเลย น่าเสียดายที่ท่านไม่มีโอกาสได้พบกับความสำเร็จของหนู 

           หนูเป็นลูกคนสุดท้องค่ะ ในบรรดาลูก ๆ ของท่าน ทั้งหมด 7 คน โดยหนูเป็นลูกหลงค่ะ ท่านทั้งสอง มีหนูเอาตอนที่อาปามีอายุได้ 59 ปี และอามา 51 ปี ไม่น่าเชื่อนะคะว่าในสมัยนั้น ผู้หญิงอายุ 51 ปีจะมีลูกได้

           อาปากับอามา ทั้งสองท่าน เดินทางมาพร้อมกันสองสามีภรรยา ในปี 1949 ก่อนที่ท่านประธานเหมาเจ๋อตง จะประกาศสถาปนาประเทศจีนใหม่ ดังนั้น ท่านทั้งสองจึงไม่มีญาติพี่น้องอยู่ในประเทศไทยแม้แต่คนเดียวค่ะ และเดี๋ยวนี้ พวกเรา 7 คนพี่น้อง ต่างล้วนกลับมาอยู่ประจำที่ในประเทศจีน ไม่ค่อยมีโอกาสกลับไปเยือนเมืองไทยบ่อยเลยค่ะ แต่หนูคิดถึงเมืองไทยมากเลยนะคะ ไม่ได้กลับไปกว่า 4 ปีแล้ว พอหนูมาพบกับ เว็ปไซด์ชุมชนฮากกาของเรานี้ หนูดีใจมากเลยค่ะ

           มาถึงตอนนี้ หนูดีใจมากที่หนูตัดสินใจสมัครเข้ามาเป็นสมาชิก และหนูยังคิดว่า การที่หนูตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ หนูจะได้มีโอกาสติดต่อกับ เกอเกอ ทั้งหลาย เจ่เจ๋ทั้งหลาย เพื่อน ๆ น้อง ๆ จะได้ไม่เหงาน่ะค่ะ ถือว่าเหตุการณ์บ้าบอคอแตกครั้งนี้ เป็นส่วนดีที่ช่วยให้หนูได้เข้ามาเป็นสมาชิกชุมชนฮากกาเสียที

           ต่อไปหนูจะได้เข้ามาเขียนเรื่องราวแลกเปลี่ยนความรู้กันบ้าง แต่อย่าคาดหวังอะไรกับหนูมากนะคะเพราะหนูทำงานอิสระ ถือว่าเป็นธุรกิจส่วนตัวก็ใช่ แต่เป็นธุึรกิจบริการมากกว่าค่ะ เราทำงานกันภายในบ้าน อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือตำราต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำส่งเป็นรายงานให้กับลูกค้า ตามที่แต่ละแห่งเขาต้องการ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นที่ปรึกษารทางด้านเศรษฐการค้านั่นเองค่ะ รวมทั้งต้องเดินทางไปยังมณฑลต่าง ๆ ของจีนเป็นประจำค่ะ แต่หนูก็พกพาเครื่องมือสื่อสารยุคใหม่ทั้งหลายติดตัวไปด้วยทุกที่ เพราะจำเป็นต้องใช้มันตลอดเวลา ก็เดี๋ยวนี้โลกเราไร้พรมแดนแล้วนี่คะ

           ไว้ถ้าหนูไปเยือนที่ต่าง ๆ หนูจะถ่ายภาพสวย ๆ ของประเทศจีนของเรา มาให้ทุกท่านได้ร่วมชมด้วยกันนะคะ

            สวัสดีค่ะ วี่ฟัด เกอ

สวัสดีอาหวา

ขอเป็นเจ๋ก็แล้วกันนะ   ขอเป็นน้องน้อยก็แล้วกันเพราะน้องสาวคนเล็กของไหงอายุ   37  ปี หงีอายุ 33  ปี  ก็เป็นเซ่ม่อยของไหงจะดีกว่า  เดี๋ยวจะแก่เกินไป   สิ่งหนึ่งที่ไหงไม่ค่อยได้เขียนอะไรสักเท่าไร  เป็นเพราะเมื่อพิมพ์ไปก็จะน้ำตาไหลไปด้วยบ่อย ๆ  คงเพราะเป็นเพราะบ่อน้ำตาตื้น  จุดอ่อนที่ต้องกำจัด   ซาบซึ้งหงีจริง ๆ  ที่มีสายเลือดฮากกาเข้มข้น  ไหงได้ประสบกับญาติพี่น้องในชุมชนนี้   และญาติที่เมืองจีน   ไหงพูดจีนกลางได้เล็กน้อย  ฮากกาก็เล็กน้อย

แต่กับญาติที่เมืองจีนก็ได้พบว่าพวกเขาก็เช่นกัน  ความเป็นชาตินิยมในฮากกาก็เข้มข้น   ตอนไหงไปเจอญาติ  เขาไม่ยอมพูดจีนกลาง  พูดจีนฮากกากับไหง  และพยายามพูดช้า ๆ  แปลความหมาย  หงียังดีที่ใช้ภาษาจีนกลาง  ทำให้ได้เปรียบในเรื่องภาษา   ส่วนไหงเตี่ยมาจากเมืองจีนแท้กลับไม่ได้เรื่อง    มาฝึกเรียนเอาตอนแก่     หวังว่าเราคงได้มีโอกาสเจอกันนะ

                สวัสดีจ้ะ และยินดีที่ได้รูจักกัน   อย่าลืมโพสต์ภาพสวย ๆในกุ้ยโจวมาบ้างนะ  ช่วงนี้หิมะตกด้วย  คงสวยไปอีกแบบหนึ่ง 

 

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

ยินดีมากค่ะซิ่วฉุกเจ่เจ๋

       ต้องขอขอบพระคุณซิ่วฉุกเจ่เจ๋ที่กรุณาให้หนูเป็นเซ้ม้วย หรือน้องสาวคนเล็กมาก ๆ ค่ะ เจ่เจ๋กรุณาหนูมากเลย ใช่ค่ะ หนูมีสายเลือดของชาวฮั่นเผ่าฮากกา 100% เจ่เจ๋พูดถูกมากค่ะ ญาติพี่น้องของเราที่เมืองจีนนี้ เขาไม่ค่อยชอบพูดผู่ทงฮว่า เพราะว่ามีความเป็นชาตินิยมในความเป็นฮากกาสูงมาก จะพูดผู่ทงฮว่าก็ต่อเมื่อได้ออกไปต่างเมืองหรือเจอกับคนถิ่นอื่น ว่าไปแล้ว ภาษาฮากกาของเรานั้น (หนูหมายถึงภาษากลางของฮากกานะคะ) มีความไพเราะเป็นอย่างมาก เพราะเวลาพูดคุยกัน เสียงในภาษาของเรา จะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกับเส้นกร้าฟที่วัดคลื่นหัวใจยังไงล่ะคะ อีกอย่างมีเสียงเอื้อนเอ่ย และเหน่อ ๆ เหมือนกับเย่ซินหวาเกอเกอเขาว่าไว้เลยค่ะ บรรดาญาติพี่น้องของไหง่ที่เฟิงซุ่น เขาจะรู้ว่าหนูชอบสำเนียงกลาง เขาจึงพูดสำเนียงฮากกาฉิ่มกับหนู่ค่ะ เห็นไหมคะว่าชาวเฟิงซุ่นในเหมยโจวยังนิยมพูดฉากกา ฉิ่ม ได้ชัดแจ๋วเลยค่ะ เปรียบไปก็เหมือนคนบุรีรัมย์ที่พูดไทยกลางได้ยังไงล่ะคะ

       ไว้หนูจะเอาภาพสวย ๆ ของกุ้ยโจวมาให้ชมวันหลังนะคะ หนูไปกุ้ยโจวหนูชักจะหลงเสน่ห์ของกุ้ยโจวเสียแล้ว วันต่อไปหนูจะมาเฉลยเรื่องที่หนูไปกุ้ยโจวให้เจ่เจ๋และทุกท่านทราบค่ะ สวัสดีค่ะ

รูปภาพของ วี่ฟัด

หลิ่วหย่งหวาเม่ยเม่ย

            ไหง่สังเกตุว่าบางเรื่องหลิ่วเม่ยเม่ยไม่ค่อยประนีประนอม แต่บางเรื่องหลิ่วเม่ยเม่ยกลับประนีประนอมมากๆ ที่ยังเรียกพวกพวกเราหลายๆคนว่าเกอเกอ  แต่ประนีประนอมแบบนี้ไหง่ชอบอยู่แล้ว ทำให้หัวใจยังกระชุ่มกระชวยว่ายังไม่แก่เท่าไร ( แต่ความจริงคงหนีความจริงไม่พ้น )

            เรื่องเกี่ยวกับที่พวกเราจะเดินทางไปเยือนถิ่นฮากกาในช่วงสงกรานต์คิดว่าประมาณช่วงวันที่ 11 - 18 เมษายน นั้นที่จะไปแน่ๆคงมีไหง่ อาจารย์พอล อายับ และเห็นว่า ซิ่วฉุกจะพาอาเม ไปด้วย แล้วช่วงนั้นหลิ่วเม่ยๆ ยังอยู่กวางโจวหรือเปล่า ถ้ายังอยู่คงจะได้พบกัน ไหง่เคยไปกวางโจวมาเมื่อประมาณ 12 ปีก่อน ครั้งที่เดินทางไปเหมยเซี่ยนครั้งแรก ครั้งนั้นไปแบบไฮโซสุด คือบินจากกรุงเทพ ไปกวางโจว แล้วต่อเครื่องบินจากกวางโจว ไปเหมยเซี่ยน ที่ต้องไปอย่างนี้ เพราะไปครั้งแรกต้องเอาที่ไปง่ายๆสุดๆไว้ก่อน พราะยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไรเนื่องจากเป็นการเดินทางโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์ครั้งแรก ก่อนหน้านั้นเคยไปเมืองจีนมา 3 - 4 ครั้งแล้วแต่ไปกับทัวร์ตลอด ต่อมาก็ได้เดินทางโดยไม่ต้องพึ่งทัวร์อีกหลายครั้งทั้งไปเหมยเซี่ยน 3 ครั้ง และเซี้ยงไฮ้ อีก 1 ครั้ง นอกนั้นไปกับทัวร์ตลอด ไหง่ชอบแบบไม่ต้องพึ่งทัวร์มากกว่าเพราะเราจะได้สัมผัสกับผู้คนจริงๆ ได้ใช้ภาษา ( แบบกระท่อนกระแท่น ) จริง และสามารถเอาตัวรอดได้ เคยแม้แต่แบกเป้ไปเหมยเซี่ยนเพียงคนเดียวก็เคยมาแล้ว อยู่ดีๆก็โผล่ไปที่บ้านญาติ ญาติตกใจกันใหญ่ ครั้งนั้นมันเกิดอาการท้อแท้สุดๆจนไม่อยากอยู่ ( เมืองไทย ) อีกแล้ว แล้วนึกขึ้นได้ว่าไปเหมยเซี่ยนดีกว่า แต่ดันไปตรงกับช่วงวันชาติจีนพอดี โอโฮโกลาหลเลย ขึ้นรถไฟจากซัวเถาไปเหมยเซี่ยนโดยต้องยืนตลอดเกือบสามชั่วโมง

                 เดี๋ยวนี้กวางโจวมีสนามบินใหม่แล้ว คือซินไป่หยุน คงจะใหญ่โตสวยงามมาก ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะไปลงที่ใหนดี ถ้าไปแอร์เอเซียไปลงกวางโจวถ้าจองตั๋วตอนนี้จะได้ราคาเพียงห้าพันกว่าบาทเอง แต่อีกใจหนึ่งอยากนั่ง A 380 เหมือนกันแต่ต้องไปลงฮ่องกง แล้วผ่านด่านทางเซินเจิ้น เห็นอาคมเกอเกอเคยไปมาแล้วเมื่อเดือนกว่าๆนี่เอง อยากนั่งเครื่องบินขนาดใหญ่ๆดูบ้าง คงเท่ดีนะกับทัวร์ นั่ง A 380 เยือนถิ่นฮากกาเหมยเซี่ยน

                เดือนเมษายน คงจะได้พบกัน ไหง่ทึ่งกับการทำงานของหลิ่วเม่ยเม่ยมาก ไหง่รู้จักคนกวางโจวคนหนึ่ง หนี่ก็จบเศรษศาสตร์ จากจงซานต้าเสวี๊ย เหมือนกัน หนี่มีบ้านอยู่แถว พานหวี มาสอนภาษาจีนอยู่ที่ราชบุรี หนี่บอกว่าหนี่เป็นคนฮากกา แต่หนี่พูดภาษาฮากกาไม่ได้เลยที่บ้านหนี่พูดแต่ภาษาไป่ฮั้ว ( กวางตุ้ง ) แบบนี้ก็มีเหมือนกันนะ

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

วี่ฟัดเกอเกอคะ

หนูชอบเรียกใคร ๆ ว่าเกอเกอ เจ่เจ๋ ถ้ายังเป็นคนหนุ่ม คนจีนถือว่า คนในวัยก่อน 60 นั้นยังเป็นคนหนุ่มสาว จึงยินดีและชอบให้คนรุ่นน้องเรียก เกอเกอ เจ่เจ๋ ยกเว้นคนบ้านนอก ก็ให้เรียกไปตามวัฒนธรรมแบบเก่า แต่ถ้าเจอกับผู้อาวุโสเจ็ดสิบกว่า ๆ ขึ้นไป เรียกเกอเกอ เจ่เจ๋ คงไม่ดีแน่ ยกเว้น "เล่านั้ง" ที่ไม่ยอมเหล่า ทั้งหลาย บางทีไม่ค่อยชอบให้หนูเรียก สูสู มักจะหน้าหงิกหน้างอแล้วขอว่าให้เรียกเกอเกอได้ไหม แล้วจะให้ค่าขนมหมื่นห้า (ขำค่ะ)

ยินดีมากนะคะถ้าหนูจะได้พบกับอาเกอ อาเจ๋ ทั้งหลาย น่าตื่นเต้นดีจังเลยนะคะ หนูจะพยายามจัดคิวตัวเองให้ตรงกับช่วงที่พวกท่านมาถึงกว่างโจวนะคะจะให้ไปสมทบที่เหมยโจวก็ได้ค่ะ หนูไปบ่อย

เวลานี้ที่กว่างตงเจริญมากจริง ๆ ค่ะ กว่างโจวก็เจริญมาก แย่งกันไปแย่งกันอยู่ คึกคักวุ่นวาย หนูคิดว่าคึกคักกว่าซ่างไห่เสียอีก เพราะคนกว่างตงเป็นคนที่มีนิสัยแบบ พวกไฮเปอร์ น่ะค่ะ คือทำอะไรทำเร็ว ใจเร็ว ใจร้อน นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของพวกกว่างตง โดยเฉพาะคนกว่างโจว เห็นได้ชัดเจนเลยค่ะ ภาษาไป๋ฮว่า หรือเย่หยวี่ ของกว่างโจวเขาก็เพราะดีนะคะ

ครอบครัวหนู หมายถึงตัวหนู กับพี่สาวคนก่อนหน้าหนู กับพี่เขย  มักจะผัดเปลี่ยนกันเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างที่บ้านในกว่างโจว ไปยังเมืองต่าง ๆ ในจีน เพื่อเอาข้อมูลไปให้ลูกค้าและรับออร์เดอร์หรือว่าข้อมูลต่าง ๆ จากลูกค้ามา หมายถึงข้อมูลที่เป็นเอกสารสำคัญและการที่ต้องพบปะพูดคุยกันในรายละเอียดต่าง ๆ น่ะค่ะ ไม่ค่อยได้อยู่บ้านกัน แต่จะต้องมีคนนึง ที่ต้องอยู่บ้าน เพื่อดูแลหลานของหนู หนึ่งคน ลูกของพี่สาว ที่ยังเรียนชั้นมัธยมต้น หรือจงเสวีย ปี 1 ถึงแม้ว่าเราจะมีพี่เลี้ยงก็ตาม ตอนนี้พี่เขยร่ำ ๆ อยากย้ายไปอยู่กุ้ยโจวอยู่ค่ะ แต่ติดที่ว่าไม่อยากย้ายหลานไปเรียนที่นั่น พี่เขยเขาหลงไหลบรรยากาศของมณฑลกุ้ย มากค่่ะ ตัวเขาเป็นคน ตงเป่ย ไกลถึงเฮยหลงเจียง นั่นเลยค่ะ ใช่แล้ว เขาเป็นคนเฮยหลงเจียงค่ะ พวกเราสามคนพี่น้อง ทำงานกับเอกสารในบ้าน และหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนเกอเกอ เจ่เจ๋ ของหนูที่เหลือ คนนึงอยู่เป่ยจิง อีกคนนึงอยู่ซ่างไห่ 

เมื่อหนูได้เข้ามาเป็นสมาชิกแล้ว หนูก็คงจะพูดคุยกับพวกท่านและเขียนเรื่องราวบ้าง ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ได้ใช้ภาษาไทยเสียบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวลืม ยอมรับว่า บางครั้งก็เหงาเหมือนกันนะคะ ถึงแม้ว่ายังได้เจอคนไทยอยู่บ้างแต่ว่ากว่าจะรู้ว่าเป็นคนไทย ก็ต้องได้ยินเขาพูดกันค่ะถึงจะรู้ เพราะคนไทยคนจีนดูใบหน้าแล้วแยกกันไม่ออกจริง ๆ ทุกวันนี้ก็มีเพื่อน ๆ โทรมาพูดคุยกันบ้าง โทรหาพวกเขาที่ไทยกันบ้าง บางคนก็อยู่ยุโรป และอเมริกาก็มี

ไว้คุยกันต่อนะคะ คุยกับวี่ฟัดเกอเกอก็สนุกดีค่ะ อย่าปล่อยให้หนูเหงาอยู่คนเดียวล่ะ เซี่ยเซี่ยหนี่ นะคะ

รูปภาพของ paul

wellcome aboard!

ยินดี ที่รู้จักหลิวเสี่ยวเจีย ขอต้อนรับสู่ชุมชนคนฮากกา เป็นเครือข่ายญาติกัน

อยู่กวางโจวเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ดีมีสุข สบายดีไหม ครับ

ว่างๆก็เขียนเรื่องราวทางฝั่งจีนมาเล่าให้ฟังบ้างนะ

ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะ

นับถือ

รูปภาพของ YupSinFa

ฮวานหยิง-หลิวหย่งหวา-เต้าชุมชนฮากกา.

ไหง.อาโกยับสินฝ่า รู้สึกปลาบปลื้มและยินดีมาก ที่รับรู้ว่า มีแฟนคลับคนหนึ่ง อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านไหง่ แค่กว่างโจวนี้เอง และดีใจแทนคุณ "อาฉีโก" ที่รักยิ่ง่ของไหงด้วย ที่น้อง "หลิวหย่งหวา" รู้สึกยินดีในความเสียสละของท่าน ในการสร้างพื้นที่น้อย ๆ แต่แสนยิ่งใหญ่แห่งนี้ด้วยความคิดที่มุ่งมั่น สร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์สุขส่วนรวม ของชาวไทยเชื้อสายฮากกา ทั่วโลก ปลื้มปีติ แทนอาโกที่รักยิ่ง และอาจี้ที่รักยิ่งของไหง ทุก ทุก ท่าน ที่่มีน้องผู้หญิงไทยเชื้อสายฮากกาคนหนึ่ง ในดินแดนแผ่นดินแห่งบรรพบุรุษของพวกเราทุกคน ที่ได้ติดตามผลงานของแต่ละท่านอย่างใกล้ชิดมานาน ปีกว่า (ตามที่น้องหลิวหย่งหวาว่ามา) ดีใจแทนวี่ฟัดโก อาเจ๊นุช(เฉินซิ่วเชงเจ่เจ๋) อาโกอาคม ฯลฯ ที่น้องหย่งหวากล่าวมา

ที่ดีใจมากที่สุดก็คือน้องหย่งหวา กรุณาให้เกียรติอาโกมากเกินไป อย่าเรียกไหงว่า เหล่าซือเลย เรียกว่า อาฝ่าโก หรือ หวาเกอดีกว่า ถูกแล้ว ชื่อท้ายของเราคือ 华 ดังนั้น ไหงขออนุญาตเรียกหงีว่า อาหวา หรือ เสี่ยวหวา ก็แล้วกันนะ รู้ไหมว่า หนูทำให้กำลังใจในความมุ่งมั่นที่จะดำรงไว้ซึ่งอุดมการณ์ของพวกเราชาวฮากกา และชาวฮั่นทุกท่าน นับตั้งแต่ท่านฮ่องเต๊หงซิ่วฉวน ท่านกว๋อฟูซุนจงซาน ท่านกว๋อหมู่ ซ่งชิ่งหลิง ท่านจูเต๋อ ท่านยับเกี้ยนยิน ท่านเติ้งเสี่ยวผิง ท่านกว๋อโม่โย่ ฯลฯ และบรรพชนของพวกเราทุกทุกท่าน ทั้งที่ถ่องซานและ เสียมหลอ

อาโกสัญญาว่าจะดำรงไว้ซึ่งความดีงาม ความถูกต้อง และพัฒนาความรู้ ด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมจีน ทั้งโดยรวม และของพวกเราชาวฮากกา ตลอดชีวิตของอาโก เพื่อผลประโยชน์ของมวลหมู่ชาวฮากกาในประเทศไทย และทั่วโลก จวบจนอาฝ่าโกจะละจากโลกนี้ไป

พูดแล้วขนลุก ให้ตายสิ? อาเสี่ยวหวา ไหงชักจะมีความรู้สึกผูกพันธ์กับหงีอีกคนเสียแล้วสิ หงีอายุ สามสิบหรือ? หลานสาวคนโตที่สุดของไหง่ อยู่ที่เซินเจิ้น เธอชื่อ เหยาย่างจู ไหงรักเธอมาก เธออายุ 33 แล้วในปีนี้ เธอก็รักไหงมากเช่นกัน ไหงคิดว่า หลานคนนี้มีความผูกพันธ์ทางใจกับไหงมากที่สุด เพราะช่วงอายุใกล้เคียงกันมาก ตอนไหงไปหม่อยจู ครั้งแรกในชีวิต ไหงกำลังเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ และเธอกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น ไหงคิดว่า ไหงคงเป็นไอดอลหรือแรงบันดาลใจให้เธอบ้าง ตอนนี้ เธอติดต่อไหงมาบ่อยมาก คราวที่แล้ว เธอรู้สึกผิดหวัง และเสียใจเล็ก ๆ ที่ไหงพลาดการกลับไปเยี่ยมบ้าน ด้วยอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ครั้งนี้ เธอกำลังนับวันรอ วันที่ไหงจะไปหาเธอ ซึ่งคงอีกไม่เกินสองสามเดือนข้างหน้านี้ ไหงคิดว่าไหงอยากแนะนะหงีให้รู้จักกับเจ่เจ๋เขาไว้ เพราะเธอความรู้ไม่ค่อยสูงเท่าหนู อีกอย่างหนึ่ง ไหงมีหลาน ๆ ทั้งหลานเซี้ยงเดียวกัน และหลานนอก อยู่ที่เซินเจิ้นหลายคน หลานชายคนโตของไหง่ เพิ่งเขียนนจดหมายมาหาไหงเป็นครั้งแรก ไหงดีใจสุด ๆ จนอดน้ำตาไหลไม่ได้ หลานคนนี้ เป็นลูกชายคนโตของพี่ชายคนโตไหง เกิืดที่หมอยเย้น ชื่อ เย่หยางเปียว ตอนไหงไปคราวนั้น อายุยังไม่กี่ขวบ ตอนนี้ ยี่สิบสามแล้วกระมัง หล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว อาหยางเปียวนี้ ไหงคิดว่า ถ้าไหงเริ่มอยู่่ตัวแล้ว ไหงจะรับเขาเป็นลูกบุญธรรม เพราะไหงไม่มีลูกชาย ในใจไหง คิดว่า เขาเป็นลูกแท้ ๆ ของไหง่นานมากแล้ว อีกอย่าง พ่อของเขา เป็นคนไม่ค่อยเอาถ่าน และแยกทางกับแม่ของเขาแล้ว ไหงรู้สึกเป็นห่วงเขามาก อากุงอาผอของเขา ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของพ่อไหง่ ก็ตายจากเขาไปหมดแล้ว ตอนนี้ ไหงกำลังให้น้องปุยฝ้าย(นักศึกษาเอกภาษาไทยจาก ม.หนานหนิง กว่างซี มาต่อเอกท่องเที่ยวที่ ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ และได้มาเป็นผู้ช่วยด้านภาษาจีนของไหง่ เธอเป็นคนกุ้ยหลิน คุณย่าของเธอเป็นฮากกากว่างซี เพื่อน ๆ ของเธอเป็นฮากกากว่างซีหลายคนมาก รวมถึงรุ่นน้อง ๆ ของเธอด้วยไหงดีใจมากที่ได้มีโอกาสรู้จักเด็ก ๆ พวกนี้ ทำให้โลกทัศน์ด้านฮากกาของไหง่ กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพราะในประเทศไทยของเรา หาครอบครัวที่เป็นชาวฮากกากว่างซีไม่มีเลย ปุยผ้ายเธอมีชื่อจีนว่า "หลี่รุ่ยหวา" อาหวา เหมือนเราเลย ตอนนี้ไหงรับเธอเป็นหลานแท้ ๆ อีกคนหนึ่งแล้ว และไหงก็รักเธอมากดั่งลูกแท้ ๆ ่ของไหง่เลยละ-เธอเป็นความหวังในด้านการเชื่อมธุรกิจ-การค้าของไหง่ในไทยและจีนและเป็นสะพานเชื่อมการติดต่อระหว่างไหงกับญาติพี่น้องที่เหมยโจว) ตอนนี้ไหงกำลังรออาปุยฝ้ายแปลจดหมายอาหยางเปียว ให้ไหงอยู่ บังเอิญเธอตอนนี้ ก่านม้าว หวัดลงคอ เลยให้เธอพักก่อน เดือนมีนาคมนี้ เธอก็จะเรียนจบ ตอนแรกเธอมุ่งมั่นที่จะอยู่เชียงใหม่ แต่สู้แม่ของเธอไม่ได้ ท่านจะให้เธอกลับบ้าน แล้วมาสรุปกันที่ครึ่งทางคือเธอจะอยู่ที่ หนานหนิง ก็เ้ข้าทางไหง เป๊ะเลย ถ้าเธอแปลจดหมายลูกชายหยางเปียวของไหง่แล้ว ไหงก็จะได้ตอบหยางเปียวเขาไป เสี่ยวหวา ไหงรู้สึกว่า หงีอาจจะเป็นความหวังที่จะให้ไหงพึ่งพาอาศัยหงีได้ ในเรื่องราวที่กว่างโจว เราเป็นพี่น้องหรือ อา-หลานกันได้ไหม? เหมือนกับที่ไหงรับ เอา น้อง ๆ หลาน ๆ ยุวชนในชุมชนนี้ เป็นน้องชาย น้องสาว และหลานชายหลานสาว ของไหง่แทบทุกคน ซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีติดต่อไหงทางอีเมล กันเป็นส่วนใหญ่ มีโทร.หากันบ้าง 

ไหงอยากให้เธอรู้จักกับ อาเลี่ยวซือย่า รุ่นราวน้อง ๆ เธอ นิสัยดีและน่ารักมาก ๆ คิดว่าหงีคงรู้จักเธอแล้ว(ข้างเดียว) ยังมี อาไช่หงีอุ้ย อาทองมี(จินไฉ)ผู้ทำตัวลึกลับและไม่เคยตอบกลับไหงเลย(อิอิ.) อาจุ้งฟะที่หาดใหญ่ อีกคนหนึ่ง น่ารักมาก น้องต้นกล้า คนนี้ บ้างาน ทำมากมายหลายอย่าง เก่งมาก เป็นวิศวกรด้านเคมี ทำงานดี เรียนพิเศษภาษาจีน สอนพิเศษวิทยาศาสตร์ เรียนทางไกลกับจี้หนานต้าเสวีย และทำหนังสือฮากกา-ไทย ให้พวกเรา คิดว่าหงีคงรู้จักหมด ถ้าติดตามมาอย่างต่อเนื่องถึงหนึ่งปีกว่า

ยังมี อาเป้ หลานจีน อีกคนหนึ่ง คนนี้ไหงก็รัก และรู้ความเป็นมาของเขาดี เพราะเป็นเด็กในหมู่บ้านเดียวกันที่เชียงราย ตอนนี้เขาเรียนอยู่ที่ ม.ต้าเหลียน ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ไหงมัวยุ่งแต่ทำงานหนัก ไม่ค่อยได้ติดต่อแต่ละคน ไหงทำธุรกิจ เวลา 24 ชั่วโมงของไหงมันน้อยมาก ไหนจะต้องแบ่งเวลาเพื่อให้ร่างกายของไหง่ได้พักผ่อนอีก ให้ลูกน้อยทั้งสองคนอีก ไหงมีหัวสมองที่ไม่เหมือนใครเขา ไหงจึงต้องรักษาสมองของไหง่ไว้ให้ดี ดี เพราะถ้ามันมีอาการขึ้นมา ไหงก็ไม่ต้องทำอะไรเลยตลอดทั้งวัน บางครั้ง มันดื้อมาก มีอาการถึง 48 ชั่วโมง บวกอีก 12 ชั่วโมงมันก็ยังไม่ยอมจากไป ต้องอัดยานอนหลับให้หลับสนิท ไหงกลัวเป็นเหมือนไมเคิล แจ๊คสันเหลือเกิน

ไหงพล่ามกับหงีเสียยืดยาวเหลือเกิน หลิวหย่งหวา หวังว่าหงีคงไม่ว่าไหงนะ เพราะไหงเป็นคนอย่างนี้ คือมีความรักให้กับคนทั้งโลก ด้วยความพร้อมที่จะรักด้วยความจริงใจ อันนี้คือตัวตนที่แท้จริงของไหง่ ณ เวลานี้ไหง่โชคดีมาก ที่มีภรรยาที่รักและเข้าใจไหง่ดีมาก เราเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า แฟนกัน เป็นเพื่อนคู่ชีวิต ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่อยู่ด้วยกันได้ ด้วยใจที่ยึดหลักธรรม เชื่อไหม เราคบกันแค่ 3 เดือน แต่ร่วมชีวิตกันมาได้ ย่างเข้า 14 ปี ในเดือนมีนาคม 2011 นี้แล้ว มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง และหลาน ๆ ที่เป็นกำลังใจให้กับไหง่ มีลูกที่น่ารักมาก 

หย่งหวา ไหงเป็นคนอ่อนไหวแต่หนักแน่น ไหงอิจฉาหงีจริง ๆ ที่หงีใช้ชีวิตอยู่ที่กว่างโจว ไหงคงไม่กล้าถามหงีหรอกว่าหงีทำอะไรอยู่ที่นั่น ให้หงีบอกเองดีกว่า หงีรู้ไหม? ไหงคิดถึงแต่ประเทศจีนตลอดเวลาทุกลมหายใจเลยทีเดียว ตอนแรก ญาติพี่น้องไหง ทุกคนต่างก็ว่า ไหง เว่อร์ แต่ไหงไม่สนใจ มีเพียง อาผอของไหง่ ปาแมของไหง่ คุณประนอมภรรยาสุดที่รักของไหง่ เข้าใจไหง แค่นี้ไหงก็ไม่สนโลกแล้ว ที่สำคัญ ไหงยังมีเพื่อน ๆ ชาวชุมชนฮากกา แห่งนี้ ที่เป็นกำลังใจให้กับไหง และยังมีหงีอีกคนหนึ่ง ซึ่งอุตส่าห์ติดตามไหงมาเป็นปีกว่าแล้ว รวมทั้ง ญาติพี่น้องของไหง่ทุกคนที่ ต้าลู่ เหล่านี้ เป็นแรงบันดาลใจที่จะเร่งทำให้ไหง สร้างฐานะ เพื่อจะได้ ไป-ไป มา-มา ระหว่าง ไทย-จีน-ไทย ตลอดไป ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ไหงหวังว่าหงีจะเป็นกำลังใจให้กับไหงอีกคนหนึ่ง...........หย่งหวา.

ชื่อของหงีเหมือนกับชื่อของผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ไหงบูชา ท่านผู้นั้นคือปรมาจารย์งิ้วปักกิ่งในศตวรรษที่ 20 ท่านผู้นั้นคือ "ปรมาจารย์เหมยหลานฟาง" เหมยหลานฟาง เป็นชื่อในวงการ ชื่อจริงของท่านคือ "หย่งหวา" 

รูปภาพของ tonkla

หายใจไม่ทัน

อาโกคะ เล่มพิมพ์ติดกันซะเยอะ หายใจไม่ทันค่ะ แต่ก็อ่านจบจนได้ กลางๆบทนี้เล่นเมาส์ลากตามกันเลยทีเดียวค่าโก

รูปภาพของ YupSinFa

เสี่ยวหวาหงีไปอยู่ไหนเนี่ย

            เสี่ยวหวา หว่อซื่้อหนี่เตอหวาเกอ วันนี้อุตส่าห์ทำหน้่าที่ ปราบปรามชาวซ่วงหนู ที่อยู่นอกด่าน จะกวาดต้อนเอาชาวฮั่นของเราไปเป็นเผ่าพันธุ์ของเขาแต่ท่าเดียว

หว่อก็ต้องป้องกันตามหน้าที่ของหว่อน่ะสิ

ว่าแต่ว่าคืนนี้ไหงอุตส่าห์นอนผิดเวลาเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน เพื่อรอโพสต์ตอบกับหงี แต่หงีก็หายไปเลย ่่ไหงคิดว่า หงีคงมีหน้าที่การงานที่ยุ่งและบีซี่ มาก ๆ นะ หย่งหวาเม่ยเม่ย รักษาสุขภาพบ้างนะ หวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้พบกับการเขียนที่เจื้อยแจ้วของหงี่

่คืนนี้ไหงทนไม่ไหวแล้ว ฤุทธิ์ยานอนหลับมันออกแล้ว  ไหงอัดมันเต็มที่เลย ตามสถิติถ้าเวลานี้ไม่นอน ประสาทของไหง่มันจะไม่ยอมปิดตัวเลยจึงต้องใช้วิธีนี้

ขอให้ทุกท่านนอนหลับฝันดีแต่ว่าจะใครเข้ามาในรอบโต้รุ่งอีกหรือปล่าวไม่รู้ ฝันดีนะทุกคน

ราตรีสวัสดิ์.

ยินดีต้อนรับครับเจ่เจ๊

ไหง่เองยินดีมากครับที่มีคนกล้าตัดสินใจแบบเจ่เจ๊

จริงๆไหง่ก็เหมือนเจ่เจ๊ครับ ติดตามเว็บนี้มานานจึงตัดสินใจสมัครไถ่ถามเรื่องที่อัดอั้นมานาน

เหมือนกัน ดีใจที่เจอเจ่เจ๊เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์

ไหง่เองคืนนี้ก็นอนผิดเวลาดึกเอาซะมากๆ ต้องไปนอนก่อนละ บ๊ายบายWink

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

หายไปทั้งวันการต้อนรับเต็มเปี่ยมเชียวนะคะ

ตอบน้องจุ้งฟะ ก่อนค่ะ จุ้งฟะคะ หนี่รู้ไหมว่า หว่อชื่นชมหนี่มานานแล้วละ คิดเหมือนกับผู้ใหญ่ทั้งหลายเขาว่าเอาไว้เลยว่า หนี่นี่เป็นเด็กที่ไฝ่รู้และมี่ความคิดที่เฉียบแหลมมาก ยินดีนะที่หนี่คิดว่าหว่อเป็นคนร่วมอุดมการณ์กับหนี่อย่าอย่างนั้นเลย คิดว่า เราเป็นวัยรุ่น(หนี่) และคนวัยฉกรรจ์(หว่อ) ที่ร่วมอุดมการณ์กับ บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลาย มี "เย่ซินหวาเกอเกอ" เป็นต้นแบบที่ดีของพวกเราดีกว่านะ

ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้รู้จัก น้องต้นกล้า เลี่ยวซือย่า ไช่หงีอุ้ย อาเป้หลานจีน หลัวจินไฉ อาบัสสุ จุ้งฟะ หนูชิงชิงลูกป้าป่าซินหวาคนเก่ง และสมาชิกใหม่ ๆ ทุกท่านที่มีวัยเดียวกันกับพวกเรา

ขอขอบพระคุณ ในความเมตตารับหนูเข้ามาเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการจากผู้ใหญ่ทั้งหลายนะคะ ขอบพระคุณ อาฉีเกอเกอ อาจารย์พล วี่ฟัดเกอเกอ ทุก ๆ ท่านทั้งหลาย ที่โพสต์เข้ามาต้อนรับหนู โดยเฉพาะอาหวาเกอของหนูดูจะใส่ใจเป็นพิเศษ ที่อาหวาเกอเขียนมานั้น ตรงกับใจหนูเหมือนกันค่ะ เราเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน แหม ได้อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะ มันกินใจอย่างไรไม่ถูก ใช่แล้วค่ะ เราทุกคนในที่นี้ เป็นญาติพี่น้องกัน และมีความผูกพันธ์กันอย่างน่าประหลาด

อาหวาเกอคะ หนูอาจจะติดต่อไปที่เมลอาหวาเกอบ้างนะคะ น้อง ๆ เพื่อน ๆ ก็เช่นเดียวกันค่ะ นอกเหนือจากหน้าจอแล้วที่เป็นประโยชน์กับทุกท่าน เราติดต่อถาม-ตอบ กันทางหน้าจอจะดีกว่า แต่ถ้าอยากพูด-คุยเรื่องส่วนตัว ก็ยินดีรับเมลจากทุกคนนะคะ

เกี่ยวกัีบหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตที่จงกว๋อของเรานั้น หนูอยู่อาศัยกับพี่สาวและพี่เขยค่ะ พวกเราร่วมกันทำธุรกิจเล็ก ๆ แต่ยั่งยืน ค่ะ มีหลานตัวน้อย ๆ ที่น่ารัก พอ ๆ กับน้องชิงชิง และน้องหยกเลยละค่ะ แต่เรื่องราวบางอย่าง ในครอบครัวของหนู บางครั้ง ขอเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ไม่อยากเปิดเผยมากนักนะคะ หนูเป็นเวิร์คกิ้งเลดี้เหมือนคุณต้นกล้าเลยค่ะ อายุจริง ๆ ก็ 33 ปีในปีนี้ เท่ากับ เหยาย่างจูของอาหวาเกอเลยนะคะ ยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับเธอค่ะ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า เมื่อวานนี้ทั้งวัน เราสามคนกับพี่สาวพี่เขย ได้เดินทางเข้าไปที่มณฑลกุ้ยโจว ค่ะ ไปเพื่อดูลู่ทาง และจะย้ายเข้าไปอาศัยถาวรในเร็ว ๆ นี้ค่ะ 

เอาไว้จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านใหม่ของเราในกุ้ยโจวให้ทุกท่านอ่านกันนะคะ

ไว้พบกันค่ะ

หลิวหย่งหวา

ฮัก - เค่อ - แคะ

หลิวหย่งหวา ... ช่วยออกความเห็นให้หน่อยว่า ทำไมคนฮักไทยยังเรียกตัวเองทับศัพท์ของแต้จิ่ว คือทั้งใช้และเรียกเช่น .. ผมเป็นแคะ - ขัก - คัก อะไรทำนองนี้มากมาย ช่วยออกความเห็น ด้วย และทำไมสมาคมฮากกาแห่งประเทสไทยไม่กำหนดหรือเรียกร้องให้ฮักไทยเรียกขาน-นำใช้คำฮากกา-ฮักกาแทนคำว่าแคะขักคักในทุกกรณี ทั้งๆที่เปลี่ยนชื่อจากสมาคมจีนแคะมาใช้ฮากกาแล้ว และยังให้เหตุผลของการเปลี่ยนชื่อสมาคมฯ ว่าคนฮากกาทั่วโลกเขาใช้คำฮากกาเรียกตัวเองและคนอื่นทั่วโลกก็เรียกพวกเราว่าฮากกา ยังย้ำชัดอีกนะว่ามีแต่ฮากกาประเทศไทยเท่านั้นที่เรียกตนเองทับศัพท์ตามคนแต้จิ๋ว แล้วทำไมสมาคมฯจึงไม่เรียกร้องให้พวกเราคนฮากกาเลิกพูดเลิกใช้กันได้แล้ว .. คำว่าแคะ - ขัก - คัก น่ะ นะ น่า หรือไม่งั้นก็เรียกตามภาษาจีนแมนดารินไปเลยก็ได้ ..เช่น เค่อเหริญ อย่างที่เธอใช้อยู่ .. ว่าไงสาวกวางโจว เอาไว้จะพาลูกชายไปเยี่ยม ไปให้เธอดูตัว ตอนนี้เพิ่งบวช ... ในเทศกาลร่วมถวายในหลวงด้วย ขอบใจมาด้วย

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

สวัสดีค่ะDD淑

  ช่างบังเิอิญจริง ๆ หนูนั่้งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่พอดี เกิดนึกได้ว่าอยากเข้ามาชุมชนฮากกาอ่านอะไรคืบหน้าสักหน่อย พอดีเห็นDDสู เข้ามาโพสต์ถามหนู (ขออนุญาตเรียกอาสูหรือคุณอานะคะเพราะอนุมานว่า จะพาลูกชายมาดูตัวหนู แสดงว่า ลูกชายคุณอาแก่กว่าหรือเท่ากับหนู กับลังบวชอยู่ ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ขอสรรเสริญในเนื้อนาบุญที่ร่วมถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวอันเป็นที่รักเทิดทูนยิ่งของหนูด้วยค่ะ-ว่าแต่ว่าจะลาสิกขาเมื่อไหร่คะ-สนใจค่ะ สนใจ แฮ่แฮ่)   คุณอาให้เกียรติถามหนู หนูจะตอบได้ดีหรือปล่าวเนี่ย? เอาเป็นว่าหนูขอตอบตามความเห็นส่วนตัวของหนูก็แล้วกันนะคะ อย่าคาดหวังว่ามันจะเป็นคำตอบที่ดีหรือถูกต้องสำหรับคุณอาDD นะคะคุณอา   เป็นที่ทราบกันดีว่า คนแต้จิ๋วนอกประเทศจีนนั้น มีอยู่ในประเทศไทยมากที่สุดในโลก เคยเห็นในที่นี้ขอโทษค่ะจำไม่ได้เลา ๆ แล้วว่าเกอเกอท่านใดเขียนไว่้ น่าจะเป็นเหล่าซือพอล หรือปล่าวคะ เห็นบอกว่า่ชาวไทยเชื้อสายแต้จิ๋วมีกว่า เกือบสามสิบล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของคนไทยทั้งประเทศเลยนะคะ แต่คุณอาDD ทราบไหมคะว่า เมืองเฉาโจวหรือแต้จิ๋วในสำเนียงของเขานั้น และนับรวมกับชาวแต้จิ๋วในปริมณฑล คือซานโถว และอำเภอบริวาร ซึ่งมีแต่ที่มณฑลกว่างตงเพียงแห่งเดียว ชาวแต้จิ๋วกลับกลายเป็นคนฮั่นกลุ่มเล็ก ๆ ถ้าเทียบกับชาวฮั่นทั้งประเทศจีน 9 ล้าน 6 แสนตารางกิโลเมตร คือมีชาวแต้จิ๋วประมาณ สิบกว่าล้านคนไม่เกินยี่สิบล้านหน่อย ๆ เองค่ะ  จากประชากรจีนทั้งประเทศ 56 ชนชาติ รวม 1340 ล้านคน ในปี 2010 นี้นะคะ   ตามที่หนูเข้าใจ มันสอดคล้องกับเหตุผลในย่อหน้าข้างบนนั้นค่ะว่า เมื่อชาวเฉาโจว มีมากมายเยอะแยะในประเทศไทย อิทธิพลของภาษาแต้จิ๋ว จึงมีส่วนสำคัญในภาษาไทย จะเห็นได้ว่า ในภาษาไทยแท้ ที่เรายอมรับกันนั้น มีหลายคำ ที่ขอคำในภาษาแต้จิ๋วมาใช้ทั้งดุ้น หนูคงไม่ยกตัวอย่างแล้วนะคะว่ามีำคำไหนบ้างเพราะมันมากมายเหลือเกิน   นอกเหนือจากอิทธิพลในภาษาเฉาโจวหรือแต้จิ๋วมีต่อคนไทยและภาษาไทย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ วัฒนธรรมจีนแต้จิ๋วยังไงละคะ คุณอาDD นึกออกไหมคะ ในอดีต คนไทยเรา จินตนาการถึงคนจีน ก็คิดว่าจีนนั้นมีแต่ภาษาแต้จิ๋วอย่างเดียว คิดอะไรเกี่ยวกับจีน ความรู้สึกนึกคิดของคนไทยก็เข้าใจเป็นแบบแต้จิ๋วหมดเลย ทั้ง ๆ ที่ วัฒนธรรมแต้จิ๋ว เป็นเพียงกระเผือกริ้น ของวัฒนธรรมจีนทั้งหมด วัฒนธรรมฮากกาของเราเสียอีกค่ะ ที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นฮั่นแบบดั้งเดิม ที่ปัจจุบันนี้คนจีนทั้งประเทศได้ยอมรับกันไปทั่ว วัฒนธรรมจีนนั้น แบ่งออกได้ ใหญ่ ๆ เป็น 4 ส่วน คือ วัฒนธรมจีนภาคเหนือ ซึ่งจะมีความฉูดฉาด หนักแน่น เพราะต้องอยู่ภายใต้อากาศที่แห้งแล้งและเหน็บหนาว ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ "ยางเกอ" หรือกลองหมู่แถบที่ราบสูงดินเหลือง จีนเหนือยังแยกออกไปอีกเป็น วัฒนธรรมตงเป่ย ซึ่งก็คือภาคอีสานของจีนนั่นเองค่ะ ในอดีต ดินแดนแถบนี้เป็นถิ่นอาศัยของพวก หม่านจู๋ หรือชนชาติแมนจูเรีย แต่เนื่องด้วยแมนจููเข้ามาปกครองจีนถึง 276 ปี แทนที่แมนจูจะกลืนวัฒนธรรมฮั่น กลับกลายเป็นว่าวัฒนธรรมฮั่น ได้ดูดกลืนวัฒนธรรมแมนจูหายไปหมดเลย ปัจจุบันนี้ภาคอีสานของจีนจึงไม่เหลือคนพูดภาษาแมนจูได้อีกแม้แต่คนเดียว พวกเขาล้วนพูดภาษาปักกิ่ง หรือผู่ทงฮว่ากันหมด   วัฒนธรรมจีนที่เหลือ่คือ วัฒนธรรมภาคกลาง แถบเจียงหนาน และภาคกลางตะวันตก ทางซื่อชวน สุดท้ายคือวัฒนธรรมภาคใต้ซึ่งก็คือส่วนที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือวัฒนธรรมของฮกเกี้ยน เป็นแม่แบบของแต้จิ๋ว ไห่หนาน และวัฒนธรรมของชาวเย่ หรือพวกกว่างตงกว่างซี ทั้งหลาย   อาหารการกินก็เหมือนกันค่ะ ทางภาคเหนือทานพวกแป้งต่าง ๆ ไม่นิยมทานข้าวสวยแบบคนทางใต้และชาวไทย แต่ตอนนี้่คนจีนกำลังเห่อข้าวหอมมะลิไทยกันมากค่ะ ราคาค่อนข้างแพง คนเหนือมักจะกินเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะอยู่ในเขตหนาว เช่นเนื้อม้า แพะ แกะ ลา แม้แต่สุนัข และเนื้อวัว-กระบือ ไม่นิยมทานเนื้อหมูเพราะว่าอยู่ในถิ่นหนาวเลี้ยงหมูไม่ค่อยดีค่ะต่างกับชาวใต้โดยเฉพาะแต้จิ๋วกับฮกเกี้ยน ที่นิยมกินเนื้อหมู ไม่นิยมทานเนื้อวัว ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยก็คือ เทศกาลกิจเจนะคะ คนทางเหนือเขาไม่ค่อยรู้จักและถืออะำไรกันมากมายนักหรอกค่ะ การกินเจเป็นที่นิยมในหมู่ชาวฮกเกี้่ยน และแต้จิ๋ว ซึ่งพากันมาอยู่ในประเทศไทยมากที่สุด โดยเฉพาะฮกเกี้ยน จะเห็นว่าทางภาคใต้มีเยอะมากและเทศกาลกินเจมีการกำเนิดในจังหวัดทางภาคใต้มาก่อน ชาวฮากกาในประเทศ่จีนก็ไม่ค่อยนิยมถือเทศกาลกินเจกันนะคะ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันนี้ กระแสการกินเจและวัฒนธรรมต่าง ๆ ในเรื่องเกี่ยวกับพิธีกรรม อย่างการกินเจ ของชาวแต้จิ๋ว เข้ามามีบทบาทในชีวิตของชาวไทยแท้ อย่างมากขึ้น ๆ     กล่าวโดยรวม วัฒนธรรมแต้จิ๋วและภาษาแต้จิ๋วเป็นแม่เหล็กใหญ่ที่ดึงดูดเอาวัฒนธรรมจีนอื่นในไทย ให้หดหายไป ดังนั้น พวกชาวฮากกาฮงสุนอย่างหนูทั้งหลายจึงชอบที่จะพูดสำเนียงแต้จิ๋วผสมกับฮากกาภาษาแม่ของตัวเอง อันนี้ที่ไต้หวันก็เป็นตัวอย่างที่เหมือนกันเลยนะคะ ภาษาฮากกาไต้หวันซึ่งบรรพบุรุษไปจากเหมยเสี้ยนมากที่สุด ตอนนี้กลายมาเป็นภาษาฮากกาผสมภาษาฮกเกี้ยนไปแล้วล่ะค่ะ   การที่มีวัฒนธรรมของชนกลุ่มใหญ่ จึงเปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเอาวัฒนธรรมอื่น ๆ ให้กลับกลายมาเข้ารวมกับวัฒนธรรมของคนหมู่ใหญ่ จึงเป็นข้อสรุปของคำตอบที่ว่า ทำไม คนจีนฮากกาในประเทศไทย จึงมักจะเรียกตัวเองว่า คนจีนแคะ ก็เพราะว่าคุ้นเคยกับการที่คนแต้จิ๋วเรียกพวกเราน่ะสิคะ ลองไปถามคนไทยแท้ ๆ ดูสิ ว่ารู้จักจีนฮากกาไหม ถาม 10 คน จะมีเพียงคนเดียวที่รู่้ว่ามีสมาคมฮากกา แต่ไม่รู้ว่าคือสมาคมของคนจีนแคะ   ในส่วนของการเรียกตัวเองของพวกเรานั้น ว่าต่อไปนี้เราจะเรียกตัวเองว่าอย่างไร หนูคิดว่า คำตอบมันอยู่ในเว็ปไซด์ชุมชนฮากกาของเรานี้เองค่ะ ลองกลับไปดูที่เย่ซินหวาเกอเกอ เขาเขียนไว้มามากมาย จะทราบคำตอบที่ชัดเจน   หนูมีความเห็นคล้อยตามกับที่อาหวาเกอเขาเขียนมาในทุก ๆครั้งนะคะ ว่านับตั้งแต่ 100 ปีลงมานี้ พวกเราชาวจีนแคะ ต่างค่อย ๆ พากันมาเรียกตัวเองว่า ฮากกา กัน มากขึ้น ๆ ชุมชนของเราเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด หนูขอยื่นยันได้อย่างมั่นใจว่า ไม่มีองค์กรของชาวไทยเชื้อสายฮากกาในประเทศไทย ที่ไหนเลย ที่จะมีความเป็น "ฮากกา" ดั่งเช่นชุมชนของเรา    หนูก็เห็นว่าสมาชิกทุกท่านที่หนูติดตามมาเกือบสองปี ต่างเรียกตัวเองว่า ฮากกา กันทั้งนั้น นะคะ ยกเว้น น้อง ๆ สมาชิกใหม่ ๆ ที่ยังไม่รู้ประสีประสา และท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น เพียงคนเดียวเท่านั้นเองค่ะ ที่ยังไม่รู้จักความเป็นฮากกายังไงล่ะคะ    คุณอาDD ขา หนูมาอยู่ประเทศจีนได้เกือบจะ 12 ปีแล้ว หนูว่าความเป็นจีน ความรู้เรื่องจีนทั้งหลายทั้งปวง หนูยังสู้อาหวาเกอเขาไม่ได้เลยค่ะ คงสักแค่เสี้ยวหนึ่งส่วนสี่ของอาเกอเขาเท่านั้น เขาคือความศรัทธาที่หนูติดตามมาและอ่านออกว่า พี่ชายคนนี้เคยมาจีนเมื่อ 17-18 ปีก่อน (หนูจำได้จากการติดตามทุกงานเขียนของเกอเกอ) แล้วจนป่านนี้ยังไม่มีโอกาสได้มาประเทศจีนอันเป็นที่รักของเขาเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อสองเดือนก่อนเขาเกือบจะได้มาถึงแผ่นดินอันเป็นที่รักของเขาแล้ว   หนูศรัทธาอาเกอเขาจริง ๆ ค่ะคุณอา   หนูรู้จักเขาข้างเดียวจากงานเขียนของเขาเท่านั้นนะคะ ไม่เคยติดต่อไม่เคยเขียนอีเมลถึงเขาเลย ไม่เคยโทรหาเขาด้วย หนูคิดว่า หนูเป็นแฟนของเขาอยู่ที่นี่ คอยตามงานของเขาเพียงอย่างเดียว แค่นี้หนูก็มีความสุขเหมือนได้อยู่ประเทศไทยแล้วล่ะค่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่หนูจะต้องไปติดต่อเขาให้เขามาห่วงใยหนูเหมือนกับที่เขารักทุก ๆ คนน่ะค่ะ   แต่หนูอยากบอกกับคุณอาDD ว่า มาถึงวันนี้ หนูเหลืออดเหลือทนจริง ๆ ค่ะ หนูก็เป็นชาวฮงสุน 100% ไม่มีเชื้อไทยเลย (แต่หนูถือว่าหนูเป็นคนไทยรักชาติไทยรักพระเจ้าอยู่หัวเท่าชีวิตหนูเลยนะคะ) หนูจะรู้สึกผิดมาก ๆ ที่ต้องปล่อยให้อาหวาเกอที่หนูศรัทธา ไม่เคว้งคว้าง อย่างน้อยที่สุด ยังมีสุภาพสตรีวัยฉกรรจ์ที่อยู่ต่างแดนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ที่เป็นกำลังใจให้เขามานานแล้ว ถึงเวลานี้ หนูจึงต้องตัดสินใจออกมา เพื่อเป็นกำลังใจ และคอยเสริมเติมส่วนที่เกอเกอเขา ตกหล่น และเป็นกองหนุนให้อาเกอเขาค่ะคุณอาDD    หนูคิดว่าหนูขอพื้นที่ของคุณอาสื่อถึงอาหวาเกอเขา แทนการที่หนูจะเขียนถึงเขาโดยตรง เพราะในเวลานี้ หนูคิดว่า เขาคงไปทำการงานของเขา (ตามที่หนูคิดและจินตนาการ) อย่างยุ่งและแข่งกับเวลา อย่างที่เขาบอก หนูอาจจะส่งยาจีนดี ๆ ไปให้เขาสักวันหนึ่ง   ส่วนคำตอบที่ว่า ทำไมสมาคมฮากกาที่เปลี่ยนมาจากสมาคมจีนแคะ ไม่กำหนดให้คนไทยเชื้อสายฮากกาทั้งประเทศไทย ให้ใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า ฮากกา ทั้งประเทศ อันนี้หนูสุดปัญญาที่จะตอบคุณอาได้เลยค่ะ อาเป็นว่า หนูจะรอโอกาสที่อาหวาเกอ เขาเข้ามาอ่านเจอ แล้วให้เขาตอบแทนหนูก็แล้วกันนะคะ   หวังว่าอาหวาเกอคงจะมาอ่านคอมเม้นท์นี้นะคะ   หลิวหย่งหวา ค่ะ  

ย้อนรอยอดีต.. สู่เส้นทางฮากกาสากล ที่ควรเป็น

หลิวหย่งหวา .. กรูณาช่วยออกความคิดเห็นถึงคนฮากกาที่ได้พบในเชิงพฤติกรรมและวิสัยทัศน์ (คือคุณว่าพวกคนฮากเป็นคนอย่างไร?) เอาเท่าที่คิดว่า..... แล้วจะทำอย่างไรในการเสริมแต่งปรับปรุง เพื่อเพิ่มบทบาททางชนชาติฮากกา..สู่อนาคต อยากให้เน้นฮากกาไทย และเพิ่มส่วนของชาวฮากกาต่างแดนที่คุณพบเห็น

รูปภาพของ ฉีคุ้นหยุง

ดอกไม้บานในชุมชน

 นับแต่วันที่ 5 มกราคม 2554 "หลิวหย่งหวา" สมัครเข้ามาเป็นน้องใหม่ของชุมชนนี้ จนถึงวันนี้ 10 มกราคม 2554 ป้ายหน้าบ้านบอกตัวเลขอัตราการโพสต์เฉพาะหน้านี้ 27กว่ารายการแล้ว

"ทำให้ไหงมีความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นในวันเริ่มต้นปีใหม่ เพราะชุมชนเรามีดอกไม้สวยมาประดับอีก 1 ต้น"

ชมดอกกุหลาบ

ต้องบอกว่า ดอกกุหลาบ บานเต็มส่วนเลย  สงสัยเข้าฤดูหนาวแล้ว ดอกไม้ทุกชนิดก็ชอบบานในฤดูหนาว  อยู่ในเว็บฮากกาจึงมีความสุขกว่า (ตามประสา คนแก่ อย่างไหง ) ยินดีต้อนรับ สมาชิใหม่ ขอบคุณสมาชิกเก่าที่เอารูปสวย สวย มาแชร์ ครับ หัวใจมันพองโตจริง จริง

รูปภาพของ หลิวหย่งหวา

ฉีคุ้นหยุงและฉีเหมืองฝาเกอ

   ต้องขอขอบพระคุณในคำชมนะคะ แต่ว่าหนูกลัวว่าจะเริ่มเป็นดอกกุหลาบที่ใกล้โรยแล้วสินะคะ อ๋อ ไม่ได้สิ หนูจะต้องเป็นกุหลาบบานไม่รู้โรย ให้ เกอเกอทุกท่านมีชีวิตชีวา ถือว่าหนูได้เข้ามาแล้ว ไม่เสียเที่ยว และดีใจมากที่ได้สร้างบรรยากาศที่ดีงาม คึกคัก มีชีวิตชีวาให้กับชุมชนนี้

   นับว่าหนูตัดสินใจไม่ผิดเลยค่ะ และเมื่อหนูจะทำอะไรแล้ว หนูจะทำให้ดีที่สุดนะคะ ฉีคุ้นหยุง เกอเกอ และฉีเหมืองฝา เกอเกอ โปรดวางใจค่ะ

   ว่าแต่อาฉี เกอ ทั้งสองท่านเป็นพี่น้องกันหรือปล่าวคะ?

ขอมอบดอกไม้ในสวน

เป็นกำลังใจส่งผ่านหมื่นกระแสที่หนับหนุน ให้เธอยืนหยัดสู้ลมหนาวของกวางเจา ฝ่าลมปากของโครตเซียนเมืองไทย ได้ฝากกลอนที่ไพเราะที่สุด ซาบซึ้งที่สุด ฝ่ากกับสายวอนมายังสาวน้อยเสื้อหนาวสีขาว ที่ดูเย้าชื่นยวนเสน่ห์

รูปภาพของ แกว้น

โอ้โฮ..แท้ท

โอ้โฮ..แท้ที่จริงหนูไม่ธรรมดา
ผมรู้สึกขวยเขินขึ้นมาทันที ถ้าจะกรุณาชี้แนะแก้ไขข้อความที่แสดงในบล็อกด้วยก็จะขอบคุณหนูมากๆ
น่าเสียดาย 2 ปีที่สมัครเป็นสมาชิกแล้วกลับไม่ได้ค้นหา เพราะอ่านแล้วรู้สึกอึดอัดอย่างที่หลายท่านเป็นกันอยู่
และเพราะหนูแท้ๆเลย จึงทำให้ได้พบกับคุณค่าที่แท้จริงของชุมชนฮากกาแห่งนี้อีกครั้ง
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับทุกท่านที่มุ่งมั่นเพื่อสืบสานการดำรงอยู่ของกลุ่มชนเชื้อชาติ
ฮั่นโบราณ ที่เรียกว่า ฮากกา

    เห็นหลายท่านแย่งกันเสนอตัวเพื่อที่จะได้มีโอกาสนับเครือญาติกับหนู
ผมจึงขอร่วมด้วยคนนะ..นะ
! และขอฝากคารวะผ่านไปยังท่านยับสินฝ่า ผมก็อีกหนึ่ง ด้วยนะครับ”

รูปภาพของ takachi

ยินดีได้รู้จัก

ยินดีได้รู้จักจัก ผมเป้นไกด์ฟรีแลนซ์ สงกรานต์ จะไปจางเจียเจี้ย อาจต้องบินลงกวางเจา ถ้าไม่ได้ไฟท์เหมาลำ ไปฉางซา,หูหนานนะครับ

ส่วนใหญ่ใช้อีเมลมากกว่า เข้าเวปนี้ แต่เฟสบุค ก็ใช้บ่อย

รูปภาพของ ฉินเทียน

ได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินบรรพชน คนที่น่าสรรเสริญ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ กับการทำธุรกิจ ภารกิจเพื่อชาติ และสานสัมพันธ์ ระหว่างประเทศไทย กับ ประเทศ จีน ถิ่นบรรพชน คนจีนแคะ / 客人 / 客家 / Hakka / Han 

 

รูปภาพของ suthin_sun

ลูกหลานเฟิงซุ่นและบุรีรัมย์ เหมือนกันเลย

เตี่ยผมเกิดที่เฟิงซุ่น(ฮงสุน) แม่ลูกจีน ต.ห้วยราช ว่ากันว่าเป็นชุมชนแรกที่คนจีนมาตั้งรกรากที่บุรีรัมย์  อ่านบทความแล้วข้อมูลแน่นปึ๊ก ชอบๆเขียนให้อ่านเยอะหน่อยนะครับ อ่านฟังทรรศนะ เรื่องสำเนียงถิ่นฮงสุนที่ว่า ปัวซัวแขะ ว่ามีพัฒนาการคล้ายภาษา ไทยโคราช ไทยบุรีรัมย์ไหม ที่เกิดจากคนท้องถิ่นผสมสำเนียงขึ้นมาใหม่ เพราะอยู่ที่นั่นน่าจะมีมุมมองที่ชัดเจน ทั้งจากการฟัง การพูด คงจับสำเนียงได้ว่าเป็นเรื่องต่างกันที่ผันวรรณยุกต์รึป่าว

 

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal