หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ความเป็นมาของลูกศิษย์เจ้าแม่กวนอิม

ผมเคยเห็นรูปภาพเจ้าแมกวนอิมภาพนึงที่มีชายหญิงยืนอยู่ข้างซ้ายและขวา(ข้างละคน)พอจะทราบเปล่าครับว่าชื่อเทพอะไร มีความเป็นมาอย่างไรครับ


รูปภาพของ ท้ายแถว

องครักษ์ พระแม่กวนอิม

เห็นมีหลายปราง จึงรวบรวมมา ถูกผิดขออภัย

 ธรรมกาย84ปาง(องค์กวนอิม) จาก http://board.palungjit.com/f13/พระอวโลกิเตศวร-230704.html


จาก http://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=516479&chapter=13

รูปเคารพพระโพธิสัตว์กวนอิมมักมีเด็กชายและเด็กหญิงหรือพุทธสาวกเบื้องซ้ายเบื้องขวาอยู่เคียงข้างเสมอ โดยถูกเรียกว่า
"กุมารทอง (กิมท้ง)" คือเด็กชายผู้ที่ทุบศีรษะเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านจนดวงปราณละสังหารได้นั้นเอง และ "กุมารีหยก (เง็กนึ้ง)" คือสาวใช้ผู้ปวารณาเป็นข้ารับใช้พระองค์ขณะเป็นภิกษุณี บางตำนานว่า กิมท้งคือ บุตรชายคนรองแห่งแม่ทัพหลี่จิ้ง (เทพถือเจดีย์บิดาแ้ห่งนาจา) นามว่า "ซ่านไฉ่"ซึ่งถวายตัวเป็นพุทธสาวกแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม และส่วนเง้กนึ้งบางตำนานกล่าวว่าคือ เจ้าหญิงมังกร นามว่า "หลงหนี่" ซึ่งเป็นพระธิดาแห่งเจ้าสมุทรผัวเจี๋ยหลัวปวารณาตนเป็นพุทธสาวกพระโพธิสัตว์กวนอิม แต่บางตำนานว่้า ซ่านไฉ่ กับ หลงหนี่เป็นพระโพธิสัตว์เลยทีเดียว โดยมีเทวตำนานดังนี้ ตอนที่เจ้าหญิงหลงหนี่อายุได้ 8 พรรษาได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนาจากพระโพธิสัตว์เหวินซู (พระมัญชุศรีโพธิสัตว์) บังเกิดเห็นดวงตาเห็นธรรมจึงเสด็จขึ้นจากวังบาดาล ยังชมพูทวีปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และถวายตัวเป็นพุทธสาวก และต่อมาไม่นานสำเร็จมรรคผลเป็นพระโพธิสัตว์ ส่วนซ่านไฉ่นั้นเป็นบุตร1ใน500คนแห่งผู้เฒ่าฝูเฉิง เกิดเห็นว่าทุกสรรพสิ่้งเป็นสิ่งไม่เที่ยงมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยเหตุนี้ึจึงสนใจศึกษาำพระธรรมโดยได้รับคำชี้แนะจากพระโพธิสัตว์เหวินซู (พระมัญชุศรีโพธิสัตว์) และไำด้รับการสั่งสอนจากพระภิกษุสงฆ์ถึง53รูป ผ่านอุปสรรคต่างๆจนบรรลุสู่การเป็นพระโพธิสัตว์


รูปพระกวนอิมโพธิสัตว์บางรูปจะเห็นองครักษ์ของพระกวนอิม เป็นเด็กสองคนซ้ายขวา แต่บางรูปเป็นขุนพลนายทหารซ้ายขวา ราชองครักษ์ทั้งสี่องค์ คือ

ซ่านฉาย 善財 หรือ สุทธนะ แปลว่าเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง หรือ หงหายเอ้อ หรือเด็กผิวแดง 紅孩兒 , 红孩儿 หรือเป็นที่รู้จักกันในเรื่องไซอิ๋วว่า เซิ่งยิ๊นไต้หวาง 聖嬰大王 เป็นเด็กชาวอินเดีย ขาพิการมาแต่กำเนิด เขาทราบข่าวว่ามีพระอาจารย์สอนธรรมที่เกาะผู่ถัว เขาจึงเดินทางไปที่นั่นเพื่อไปหาพระกวนอิมโพธิสัตว์ พระกวนอิมได้สนทนากับเขา เพื่อทดสอบเกี่ยวกับพุทธศาสนาและความซื่อสัตย์ ด้วยการร่ายเวทมนตร์ทำให้ดาบสามเล่มกลายเป็นโจรสลัดสามคนวิ่งขึ้นเขาจะไปทำร้ายพระองค์ พระองค์จึงวิ่งไปที่หน้าผาหนีโจรสลัด ซ่านฉายเห็นดังนั้นจึงรีบปีนเขาไปช่วยด้วยการไล่ตามไปกระชั้นชิด ซ่านฉายคลานไปตามหน้าผาเพื่อช่วยอาจารย์ แต่โชคไม่ดีพลัดตกจากหน้าผา แต่พระกวนอิมช่วยไว้ได้แล้วสั่งให้เขาเดินดู ซ่านฉายลองเดินดู ปรากฏว่าขาของเขาเป็นปกติ เมื่อเขามองดูหน้าตาของตัวเองในสระน้ำ ปรากฏว่ารูปหล่อมาก ตั้งแต่นั้นมาพระกวนอิมจึงสอนธรรมให้แก่เขา และเป็นศิษย์ของพระกวนอิมรวมทั้งเป็นองครักษ์ด้วย

หลงหนิ่ว 龍女 เป็นศิษย์อีกองค์หนึ่งของพระกวนอิม เรื่องตำนานมีอยู่ว่า ภายหลังจากที่ซ่านฉายได้เป็นศิษย์แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์ยุ่งเหยิงขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้ จากตำนานดังนี้

ยังมีโอรสองค์หนึ่งของพญามังกรทะเลตงไห่ ซึ่งก็คือตงไห่หลงหวาง โอรสองค์หนึ่งของพระองค์ได้แปลงกายเป็นปลาตัวใหญ่แหวกว่ายไปในทะเลกว้างใหญ่ด้วยความสนุกสนาน แต่บังเอิญไปติดอวนของชาวประมงเข้า ซึ่งองค์ชายวัยเด็กสามารถที่จะแปลงกายเป็นมังกรได้ แต่ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นว่า พวกมนุษย์จับปลาไปแล้วจะทำอะไรบ้าง พระองค์ไม่ทรงวิตกอยู่แล้ว แต่การกลับตรงกันข้าม เมื่อชาวประมงนำปลาใหญ่ขึ้นบนบกแล้วเอาไปขายที่ตลาดสดขายปลา องค์ชายจึงหมดพลังที่จะกลับกลายเป็นมังกรลงน้ำอีกต่อไป จึงร้องเสียงก้องฟ้าสะท้อนผิวน้ำลงไปเมืองบาดาลพระราชวังของพระบิดา

พระองค์ทรงโกรธพวกทหารองครักษ์ ที่ไม่ห้ามปรามโอรส และวิตกว่าจะช่วยโอรสได้อย่างไร

ฝ่ายองค์หญิงทรงได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือดังก้องฟ้ามา พระองค์จึงรับสั่งให้ซ่านฉายไปจัดการประมูลซื้อปลาตัวนั้นมาให้ได้ ซ่านฉายจึงรีบไปตลาดค้าปลา เห็นคนจ่ายตลาดกำลังต่อรองราคาปลาใหญ่ตัวนั้น พร้อมทั้งชาวบ้านต่างพากันไปดูด้วยความสนใจ หลายคนขอซื้อปลาและต่อรองราคากับพ่อค้าปลา ฝ่ายซ่านฉายจึงรีบเข้าไปต่อรอง และให้ราคาสูงสุดพร้อมจ่ายเงินทันที พ่อค้าก็ยอมขายให้ ซ่านฉายขอให้พ่อค้ารักษาปลาไว้ก่อนอย่าฆ่าและทำอันตราย

ฝ่ายพระนางทรงเห็นด้วยทิพย์ จึงตรัสมาด้วยเสียงให้ชาวบ้านทั้งหลายที่นั้นได้ยินกันทั่วว่า “ชีวิตปลาตัวนี้เป็นของใครก็ได้ ที่จะช่วยให้รอดพ้นภัย มิใช่ใครก็ได้ที่จะเอามันไปฆ่าได้ง่ายๆ” เท่านั้นเองบรรดาคนมุงดูทั้งหลาย ต่างตกใจพากันคารวะองค์เจ้าแม่ตามพระสุรเสียง ซ่านฉายได้ทีจึงวานชาวบ้านที่มุงดูอยู่ให้ช่วยยกปลาใส่รถเข็นแล้วช่วยกันเข็นไปที่ท่าเรือตังเก แล้วช่วยกันยกปลาลงน้ำ พอปลาถูกน้ำก็กลายเป็นมังกรแหวกว่ายดำน้ำหายไป

เมื่อองต์ชายกลับไปถึงวังบาดาล กราบทูลให้พระบิดาทรงทราบ พญามังกรตงไห่หลงหวางจึงขอบคุณพระนางที่ได้ทรงช่วยเหลือบุตรของตนให้พ้นภัย พระองค์จึงทรงส่งหลานสาวคือองค์หญิงหลงหนิ่วหรือนางสาวมังกร มาให้ปรนนิบัติพระนางพร้อมด้วยไข่มุกวิเศษเม็ดหนึ่ง พระองค์จึงทรงรับไว้ ฝ่ายองค์หญิงหลงหนิ่วได้ปรนนิบัติไปได้ระยะหนึ่ง จึงขอเป็นศิษย์พระนาง พระองค์ทรงรับไว้ พร้อมทั้งให้ดูแลรักษาและเก็บไข่มุกวิเศษเม็ดนั้นด้วย

ดังนั้นเราจะเห็นรูปเด็กชายหน้าแดง พนมมือ ก็คือ ซ่านฉาย ส่วนเด็กสาวก็คือ องค์หญิงหลงหนิ่วถือตะกร้าใส่ไข่มุกวิเศษ หรือ สองมือประสานสอดเข้าไปปลายแขนเสื้อทั้งสองข้าง ยืนหน้าองค์พระกวนอิม

เหวยถัวผูซ่า 韋馱菩薩 หรือ เหวยถัว หรือ สกัณฑะ หรือ เหวยต้า หรือ เหวยต้าเทียน 韋駄天 หรือเหวยถัวจวินเทียนผูซ่า ซึ่งเป็นผู้ที่อุทิศตนทำงานหนักมาก จนได้รับยกย่องให้เป็นพระโพธิสัตว์ผู้ปกป้องอีกองค์หนึ่ง สกัณฑะ หรือเหวยถัวผูซ่า เป็นนายพล องค์หนึ่งใน ๒๔ องค์ผู้เฝ้าสวรรค์ และเป็นนายพลองครักษ์องค์หนึ่งของพระกวนอิม มีอาวุธคือวัชระ

กล่าวกันว่าเดิม เหวยถัวเป็นนายพลของท่านอ๋องพระบิดาขององค์หญิงเมี่ยวซ่าน เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อและหลงรักองค์หญิงเมี่ยวซ่าน แต่คิดว่าคงไม่มีโอกาสแน่นอนชั่วชีวิตนี้ จึงได้แต่หลงรักพระนางข้างเดียว แต่เขาเห็นพระนางมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ทั้งหลาย เขาจึงเฝ้าติดตามและคอยช่วยเหลือพระนาง ภายหลังจากที่ทั้งสองได้หนีพระบิดาไปยังเกาะแห่งหนึ่งแล้วสร้างวัดให้พระนาง แต่พระบิดาตามพบแล้วให้กองทหารไปฆ่าเสียทั้งสองคน

อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระนางถูกย่ารับสั่งให้ประหารด้วยการให้กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย เพราะเชื่อว่าพระนางเป็นพวกภูตผีปีศาจ ท่านอ๋องรับสั่งให้นายพลหลัวผิงแกล้งนำนางทิ้งลงในทะเล แล้วนำพระนางพร้อมด้วยนางอินหม่ามารดาของเหวยถัวไปพักย้งตำบลแห่งหนึ่ง หลายปีผ่านไป ปีศาจปลาตนหนึ่งไม่ชอบเชื้อพระวงศ์นี้ จึงให้นายทหารปีศาจชื่อหัวอี้ไปฆ่านางเสีย เพื่อแก้แค้นด้วยนางนับถือพระเชอหางต้าซือ เทพทางพุทธศาสนาองค์หนึ่งที่เคยนำนางไปไว้ในสระบัว หัวอี้จึงยกทัพไปยังหมู่บ้านที่พระนางเมี่ยวซ่านและนายพลเหวยถัวอยู่ ต่างสู้รบกัน บุตรของหัวอี้ฆ่าเหวยถัว หลังจากที่พระนางเมี่ยวซ่านเป็นพระโพธิสัตว์แล้วจึงยกเหวยถัวเป็นพระโพธิสัตว์องครักษ์ และนับถือพระนางเป็นน้องสาว

สกัณฑะเป็นนายพลทหารหนุ่มหน้าตาดี สวมชุดเสื้อเกราะชุดนายพลถือวัชราวุธ บางครั้งจะเห็นเป็นรูปพระวัชรปาณีโพธิสัตว์ หรือเป็นเทพองค์หนึ่ง วันแซยิดคือวันที่ ๓ ค่ำเดือน ๖

กวนอู 關羽 นายพลนักรบของพระเจ้าเล่าปี่หรือหลิวเป่ยที่เป็นที่รู้จักกันดีในพงศาวดารเรื่อง สามก๊ก กวนอูได้รับยกย่องให้เป็น พระสังฆารามโพธิสัตว์หรือ เฉ๋ะหลานผูซ่า伽藍菩薩 หรือ กวนเซิ้งตี้จวิน 關聖帝君 หรือกวนตี้ หรือ เหม่ยหลานกงและพระนามอีกหลายพระนาม เป็นเทพเจ้าองครักษ์สวรรค์องค์หนึ่งเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งเป็นองครักษ์ของพระกวนอิมโพธิสัตว์ด้วย ดังนั้นด้านหน้ารูปพระกวนอิมบางแห่ง จะเห็นขุนพลนายทหารองครักษ์สององค์ซ้ายขวา คือ เหวยถัวผูซ่าและเฉ๋ะหลานผูซ่า มีอาวุธประจำกายคือง้าว

จาก http://www.somboon.info/wizContent.asp?wizConID=493&txtmMenu_ID=7
 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal