หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

22 ตค. 53 กวางเจา - เดินทางกลับ

รูปภาพของ อาฉี

ยามเช้าคนเมืองนี้ตื่นกันเช้าจัง ริมถนนข้างล่างนี้ตอนตี 5 ยังเห็นขายผักขายปลาแบกะดินกันอยู่เลย พอ 6 โมง ลงมาเก็บเกลี้ยงโล่ง เหมือนไม่มีตลาดสดให้เห็น มีแต่คนเดินทาง ทั้งรถเมล์ รถรางไฟฟ้า คนทำงานเริ่มสันจร บ้างก็ใส่ชุดไปทำงาน บ้างก็แต่งตัวเหมือนเพิ่งเลิกงาน 7 โมงคนงานก่อสร้างก็ทำงานกันแล้ว คนเมืองนี้ ขยันกันจริงๆ

เช้ากินอาการที่โรงแรมเป็นอาหารเช้าที่มีอาหารหลากหลาย มากจนตาลาย สมกับเป็นเมืองกวางเจา แต่ทางโรงแรมเขาใช้ระบบคูปองประทับตราจัดชุดมาให้ตามโควต้า และรายการอาหารที่ชี้นิ้วเพิ่ม จะต้องเจรจาต้าอ่วย มัวแต่ติดต่อประสานงานจนลืมถ่ายรูปอาหารอันโอชะมาให้ชมกัน

เมื่อเช็กห้องกันเรียบร้อย ก็เดินทางไปชมอนุสาวรีย์ท่านซุนจงซาน (ซุนยัดเซ็น)

 

 

หลังจากนั้น ก็ไปชมอนุสาวรีย์ 5 แพะ ที่เป็นสัญญาลักษณ์ประจำเมือง กวางเจา

ระหว่างรอกัน ก็แอบขึ้นไปดูสวนสาธารณะ มีชาวเมืองเขามาออกกำลังรีแล็ก ด้วยการเต้นลีลาศกัน ไม่ว่ารุ่นใหญ่รุ่นเล็ก เต็มไปหมด

หลังจากนั้น ก็ต้องพาเข้าไปร้านจำหน่่ายบัวหิมะ เพราะมีสมาชิกบางท่านถามถึง เลยเข้าทางไฟท์บังคับที่ไกด์ต้องไปเซ็นชื่อพอดี ครั้งนี้ใช้คนจีนพูดไทย ไม่มีลูกล่อลูกชน ฟังแล้วเหมือนดูโฆษณาประกาศข่าว บ้างก็แวะซื้อขนมแป้งอบหอมอร่อยได้ชิม

ได้เวลาอาหารเที่ยงมื้อนี้เป็นอาหารกวางเจาแท้ๆ ในร้านที่มีอาหารหลากหลาย ตั้งแต่แมลงกุ๊ดจี่ จนถึงปลาน้ำลึก แต่ไม่ได้สั่งอาหารพิศดารเกินเหตุ เอาแค่กุ้งมังกรและอาหารที่คุ้นเคยก็เปรมพอแล้ว

หลังอาหารก็ไปเดินที่ถนนไป่จิงลู่ (ถนนปักกิ่ง) ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่มีชื่อของเมืองนี้ ที่มีช่องกระจกตรงกลางให้ดูพื้นถนนสมัยโบราณที่ขุดพบเจอ ว่าบริเวณนี้เคยเป็นถนนมานานแล้ว แต่สินค้าบริเวณนี้ไม่โบราณ เรียกว่าถูกใจวัยรุ่น

     

หลังจากเดินกันจนเมื่อย ก็ไปสนามบิน เพื่อเดินทางกลับสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

    


ดีจัง

  มีภาพให้ดู  ทำให้อยากไปบ้าง  เพราะบางสถานที่ยังไม่ได้ไป    เห็นอาฉีโก๊โพสต์ท่าถ่ายรูปเทห์จัง

รูปภาพของ YupSinFa

คิดถึงบ้าน

              เห็นภาพในคณะทัวร์ที่ไปมาแล้ว-มันรู้สึกคัดอก-เพราะไหงตั้งใจจะไปด้วยปรากฏว่าให้เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน-ก็ไม่เป็นไรครับเพราะบ้านของเราก็ยังคงเป็นบ้านของเรา แม่น้ำเหมยเจียง ก็ยังคงรอไหงอยู่ แม่น้ำหานเจียงก็ยังคงไหลไปตามปกติ แม่น้ำหนิงเจียงก็ยังไหลแรงเหมือนเดิม ฉิ่มเข่วซานโกก็ยังคงขับขานออกจากปากของญาติพี่น้องของเราที่นั่นอยู่ตลอดเวลา

              ปัจจุบันนี้โลกของเรามันกลับตาลปัตรไปแล้วครับ เราจะได้ยินคนรุ่นปู่ของเราบอกว่า คนเราเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะตายได้ หมายความว่า ท่านสื่อให้ลูกหลานฟังว่า ท่านเลือกที่เกิดไม่ได้ที่ไปเกิดในแผ่นดินจีนที่มีแต่ความยากลำบากสุด ๆ และท่านก็มีโอกาสได้มาอาศัยร่มพระบรมโพธิสมภารบนผืนแผ่นดินไทย ได้มีโอกาสสร้างฐานะสร้างตระกูลออกลูกหลานเหลนจนกระทั่งถึงบั้นปลายของชีวิตท่าน ท่านบอกว่าท่านเลือกเกิดไม่ได้เพราะท่านเกิดที่จีน แต่ท่านเลือกที่ตายได้เพราะท่านได้มาอาศัยอย่างผาสุกที่เมืองไทยและได้ตายที่ผืนแผ่นดินไทย

             ตอนนี้ที่ประเทศจีนเกิดผลของการสร้างประเทศจีนตามนโยบายสี่ทันสมัยของท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ร่วมกับท่านประธานาธิบดี(จีนใหม่คนแรก)หลิวส้าวฉี และท่านเติ้งเสี่ยวผิง-ทุกคนนึกว่าเป็นผลงานของท่านเติ้งฯเพียงคนเีดียว-ไม่ใช่นะครับในฐานะที่เรียนประวัติศาสตร์จีน-นโยบายสี่ทันสมัยนี้ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่สถาปนาประเทศจีนใหม่ได้สัก 10 ปีโดยผู้ร่างพิมพ์เขียวคือท่านโจวเิอินไหล และผู้สานต่อออกหน้าคือท่านหลิวส้าวฉีและเติ้งเสี่ยวผิงจนเป็นเหตุให้ท่านหลิวและท่านเติ้งถูกตราหน้าว่าเป็นผู้นำตามแนวทางทุนนิยมหมายเลข 1 และ 2 ตามลำดับ ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ท่านหลิวโชคร้ายมากถูกเรดการ์ดที่บ้าระห่ำทำร้ายจนตายคาตำแหน่งประธานาธิบดี(ในสมัยนั้นสังคมโลกต่างงงงกันมากว่าทำไมระดับประธานาธิบดีถูกศาลเตี้ยโดยเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทำร้ายได้ในตำแหน่งระดับนั้น)ส่วนเติ้งเสี่ยวผิงอย่างที่เราทราบว่าท่านเป็นแมวเก้าชีวิต-นับว่าเป็นบุญของประเทศจีน ที่ท่านยังยืนยงคงอยู่มาได้หลังการสิ้นของเหมาจู่สีและการที่แก๊งสี่คนถูกปราบโดยท่านจอมพลยับเกี้ยมยินของเราชาวฮากกาและส่งให้ท่านเติ้งผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง-ประเทศจีนจึงเกิดการพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินอย่างที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้

               ไหงไปประเทศจีนมา 2 ครั้งเมื่อ 18 และ 17 ปีก่อน (ปี 2535 และ 2536) ตอนนั้นญาติพี่น้องของเรายังยากจนอยู่แต่ปัจจุบันท่านเหล่านั้นต่างรวยอู้ฟู่-รวยกว่าเราอีก-หลานสาวของไหง่ ตอนที่ไหง่ไปเห็นเธอยังเป็นเด็กชั้น ป.3 อายุแค่ 9 ขวบ ปีนี้ เธออายุได้ 26 ปี เรียนจบมหาวิทยาลัยเจียงซู พูดอังกฤษได้100% อายุแค่ 26 ปี ได้เงินเดือนตั้ง 8 พันกว่าหยวน

               ตอนนี้ไหงจึงอยากพูดกลับกันกับคนรุ่นปู่ของเราว่า เราเลือกเกิดไม่ได้เพราะไหงเกิดที่ไทย (ถึงไหงจะรักเมืองไทยเท่าชีวิต) แต่ไหงเลือกที่จะตายได้ โดยไหงคิดว่าบั้นปลายชีวิต ไหงจะกลับไป "ตาย" ที่หมอยเย้น

              เล่ามาเสียยืดยาวตามสไตล์ของไหง่-เพียงแต่ไหง่อยากบอกว่าเห็นภาพถ่ายที่คณะทัวร์ไปยืนอยู่นั้นไหงได้ไปมาหมดแล้ว 17-18 ปีก่อนเป็นอย่างไร เห็นในรูปตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น นับว่าเขารักษาอาคารสถานที่ของเขาได้เป็นอย่างดี อ้อ? ไหงอยากเรียนให้ไท้ก๋าหยิ่นทราบว่า บรรดารูปหินแกะสลักตามเมืองต่าง ๆ ในกว่างตงนั้น โดยเฉพาะอนุสาวรีย์ 5 แพะ นั้น ล้วนเป็นฝีมือของ "พี่น้องชาวฮากกาแห่งอำเภอชิงหนิงจังหวัดเหมยโจวของเราทั้งนั้นเลยครับ" เพราะชิงหนิงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงด้านการแกะสลักหินออกมาเป็นวัตถุต่าง ๆ ที่สวยงามมาก ฉะนั้น บรรดาหินแกะสลักต่าง ๆ ที่เราเห็นตามสถานที่ต่าง ๆ ในมณฑลกว่างตงและที่เหมยโจวนั้น ล้วนเป็นฝีมือของพี่น้องชาวฮากกาชิงหนิงของเราเองครับพี่น้อง.

ปีหน้าไปอีกไหม?

วันนี้ไปซื้อของร้านคนที่รู้จักกัน ถามว่าปีหน้าจัดไปเที่ยวเมืองจีนอีกไหม?

ตอบ ถ้าเขาจัดอีกจะบอก ฮิๆ

จะไปอีกหรือ?

รูปที่ให้มาก้นกับหน้าเยอะพอๆกันนเลย ฮิๆๆ

 
[email protected]    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal