หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

เล่าเรื่องโรงเรียนและหนังสือเก่าสมัยห้าถึงหกสิบปีล่วงมาแล้ว

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น
 
หน้าปกหนังสือเรียนจีนวิชาเรื่องภาษาชั้นประถมและวิชาประวัติศาสตร์ชั้นมัธยม
 
ต้องขอบคุณคุณกรวรรณ ที่อยากเห็นหนังสือจีนรุ่นเก่า ทำให้คนึงถึงอดีตอันยาวไกลที่เคยผ่านมา ต้องนั่งสงบจิตสงบใจนึกทบทวนถึงเหตุการณ์เก่าๆ สมัยนุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล รองเท้าไม่ใส่ ว่ากันตีนเปล่าไปเรียนหนังสือ โอ้อดีตที่ไม่หวนกลับ ทำได้แค่ระลึกถึง (往事只能回味)
 
สมัยก่อนการเรียนการสอนภาษาจีน เข้าโรงเรียนวันแรก จะเริ่มเรียนกันทันทีตั้งแต่ประถมหนึ่งเล่มที่หนึ่ง จำได้เป็นหนังสือ  初級國語 第一冊 หน้าแรกเปิดมาก็ว่ากันเลย  媽媽 媽媽來 來來來 快來看弟弟 弟弟哭了 (แปลว่า แม่ แม่จ๋า รีบๆมาดูน้องที น้องร้องไห้แล้ว)ครึกครื้นอย่าบอกใคร ซึ่งจำกันจนถึงปัจจุบันร่วมห้าสิบกว่าปีแล้ว ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
 
ในส่วนของคุณครูจีน ส่วนมากหรือแทบทั้งหมดมาจากประเทศจีน อายุประมาณสามสิบกว่าถึงหกสิบกว่า พูดไทยไม่เป็น ถึงพูดได้ก็ตะกุกตะกัก เหมือนเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษ สอนโดยพูดภาษาจีนกลางล้วน ใช้กระดานดำเป็นหลัก ไม่มีกระดานเขียวเหมือนปัจจุบัน มือเขียนไป ปากก็พูดไปสอนไป เด็กก็ฟังไปจดไป เลิกเรียนมักมีการบ้านพ่วงให้เสมอ เบาะๆก็คัดลายมือด้วยดินสอ ต่อมาก็ให้คัดลายมือด้วยพู่กันจีน เท่ไม่หยอก
 
พูดถึงเรื่องสอบ ข้อสอบจะออกมาในรูปแบบอัตนัย ไม่มีแบบปรนัย รู้เป็นรู้ รู้ก็ทำข้อสอบได้ ไม่รู้ก็ตอบไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้ดำน้ำเด็ดขาด ใครทำคะแนนได้ทุกวิชารวมกันตั้งแต่  50% ขึ้นไป ถือว่าสอบได้ ได้เลื่อนชั้น ไม่ถึงแม้จะ 49.99% ก็ต้องเรียนซ้ำชั้น ไม่มีการช่วยเหลือใดใดทั้งสิ้น ใครฉลาดเรียนเก่งได้อันดับที่หนึ่งที่สองและที่สาม จะมีรางวัลให้ รางวัลที่ได้ส่วนมากเป็นอุปกรณ์การเรียน
 
เรื่องค่าเล่าเรียน ถ้าเอาค่าปัจจุบันเทียบ ก็เหมือนแจ็คเปรียบกับยักษ์ เทียบกันไม่เห็นฝุ่น ค่าเล่าเรียนเก็บเป็นเดือนๆละ  30 บาท แต่ค่าครองชีพสมัยนั้น ก๊วยจั๊บชามละ  50 สตางค์ยังมีให้กินกันได้ ข้าวเหนียวห่อใหญ่ใส่หน้าต่างๆห่อละ 50 สตางค์ เชื่อไหม รถเบนซ์รุ่นหางปลาตกคันละแค่แปดถึงเก้าหมื่นบาทเท่านั้น ส่วนน้ำมันดีเซลลิตรละ 90 สตางค์ถึงหนึ่งบาท
 
เขาว่าคนเฒ่าชะแลแก่ชรา เมื่อพูดถึงอดีตตอนเป็นเด็ก มักมีความสุขเล็กๆเกิดขึ้น และจะเลยเถิดเตลิดไปถึงเพื่อนๆที่เคยเรียนเล่นด้วยกัน มันเป็นชีวิตที่อิสระไร้ข้อผูกมัด สนุกสนานอย่างไม่มีเบื่อ แต่อนิจจา มาบัดนี้ ชีวิตอย่างนั้นไม่มีอีกแล้ว เพื่อนๆก็ค่อยๆทยอยจากไปเกิดใหม่ทีละคนสองคน ทุกอย่างล้วนอนิจจัง
 
ป.ล.โรงเรียนยะลาบำรุง เป็นโรงเรียนที่สมาคมชาวจีนในตัวเมืองยะลา ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีน ชื่อโรงเรียนผิงหมิน แต่ต้องปิดโรงเรียนไปพักหนึ่งในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ห้ามมิให้มีการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ต่อมาปีพ.ศ 2486 ทางราชการย้ายศาลากลางจากตำบลสะเตง มาขอใช้อาคารแห่งนี้เป็นศาลากลางจังหวัดยะลาชั่วคราวอยู่หลายปี จนถึง 26 มีนาคม พ.ศ 2495 จึงได้ย้ายไปยังที่ตั้งถาวรที่ถนนวงเวียน ๑ ศาลหลักเมืองยะลาจนปัจจุบัน
 
 
ศาลากลางจังหวัดยะลาในอดีตที่ตั้งชั่วคราวบนโรงเรียนจีนฯ ปี พ.ศ 2493
 
 
นักเรียนถ่ายรูปหมู่พร้อมครูหน้าโรงเรียนยะลาบำรุง  也拉平民學校 ปี พ.ศ 2497
 
 
เนื้อหาในหนังสือจีนชั้นประถมเล่ม 1
 
 
หน้าปกหนังสือวิชาวรรณกรรมชั้นมัธยมและหนังสือบทกวีสมัยราชวงศ์ถัง 300 บท
 
 
เนื้อหาภายในของหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ระดับมัธยม

รูปภาพของ อาฉี

หวาเหวินเค่อเปิ่น

ขอฝากลิ้งค์เรื่อง แบบเรียนภาษาจีน เมื่อ หลายสิบปีก่อน หวาเหวินเค่อเปิ่น เพื่อร่วมรำลึกความหลัง

รูปภาพของ อาคม

จองกว้านหมิ่น หล่อซือ

เป็นไปได้ไหมครับ ว่าเอาหนังสือพวกนี้ครบชุดกลับมาสอนกันในเวปนี้ โดยจัดรูปแบบการเรียน การสอนกันอย่างไร น่าจะลองปรึกษาท่านTech ดูว่าจะทำได้มั้ย ไหงจะได้กลับมาเรียนใหม่ จะได้กลับมาหวุยเว่ย มั่งครับ..

รูปภาพของ กิ่มหมิ่น

ขอสมัครเรียนด้วยครับ

หากได้กล้บมาทบทวนบทเรียนเก่าๆ ที่เด็กๆเคยเรียนมา คงมีความสุขทางใจมาก

ขอสมัครจองที่นั่งเเถวหน้าครับ  

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

แปล 華文課本 ของอาฉีโก

บทเรียนของอาฉีโกที่นำมาลง อ่านแล้วเนื้อหาใจความดีมาก เป็นเรื่องราวที่ท่านขงจื๊อได้ช่วยเหลือให้พวกเด็กๆมีโอกาสได้เรียนหนังสือกันถ้วนหน้า เป็นความเมตตาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ขออนุญาตนำมาแปลลง ณ.ที่นี้

บทเรียนที่ 2 เด็กในประเทศจีน

เด็กๆในสมัยโบราณของเมืองจีน โอกาสที่จะได้เล่าเรียนหนังสือนั้นยากมาก ตั้งแต่ขงจื๊อรับหน้าที่ด้านการศึกษาเป็นต้นมา เด็กๆจึงมีโอกาสได้เข้าศึกษาเล่าเรียน ในช่วงสองพันปีมานี้ หนังสือที่พวกเขาเรียน เป็นบทเรียนเกี่ยวกับธรรมาภิบาล คือ ความถูกต้องซื่อสัตย์ยุติธรรม มีเมตตากรุณา มีเหตุมีผล ทั้งยังสอนให้มีความทรหดอดทน มีความมุ่งมั่นในการเล่าเรียนอย่าได้ย่อท้อ

ทั้งนี้ตามความเห็นของขงจื้อเห็นว่า การบำเพ็ญฝึกฝนตนให้เป็นคนมีคุณธรรม ควรเริ่มที่ครอบครัว ดูแลครอบครัวให้มีความเสมอภาคก่อน ถึงจะปกครองบ้านเมืองให้มีสันติสุขได้ ต้องพยายามทุ่มเท ทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ ดังนั้น เด็กในประเทศจีน แม้ว่ายังเยาว์วัย แต่ก็สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี

ป.ล. สำหรับความเห็นของโกอาคม เป็นความคิดที่ดีมาก ถ้าสามารถหาหนังสือจีนเก่าๆเหล่านี้มาครบถ้วนสมบูรณ์ และวางรูปแบบการสอนสำเร็จ ไหง่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่

ข้อคิดเห็นของขงจื๊อ 修身 齊家 治国 平天下

ขอบคุณ

ดิฉัน เแนลูกคนเล็ก ไม่ได้เรียนภาษาจีนเลย  เด็ก ๆ อาจจะดื้อเลยไม่ได้เรียน  พี่ ๆ ได้เรียน แล้วมาสอนอ่าน และจำได้แค่ 1 หน้า     มามาไคว่ไหล ไคว่ไกลขั้นตี่ตี่ ตี่ตีคูเลอ  เท่านั้นเอง ไม่แน่ใจเหตุผลว่าทำไมอาป๊าไม่ได้ส่งเรียนภาษาจีน    อยากเตือนเด็กรุ่นหลัง  อย่าเบื่อการเรียน

เห็นด้วบ แบบเรียนเก่า

เป็นความคิดที่ดี ที่จะมีการรวบรวมแบบเรียนเก่า แล้วนำมาถ่ายทอดไว้  ทางเทคนิกสามารถนำขึ้นเว็บได้ไม่มีปัญหา และยินดีบริการอย่างเต็มที่  ส่วนทางกฎหมายลิขสิทธิ์คงต้องฝากวีฟัดโกช่วยดูว่าทำได้แค่ไหนอย่างไร ถ้าจำไม่ผิด นานมี เคยนำเข้ามาขาย ไม่แน่ใจว่าสมัยนั้นอาหงิวโกยังเป็น บก.อยู่หรือเปล่านะ

ส่วนเรื่องที่จะเดินหน้าต่อ คือรูปแบบวิธีการจัดองค์ความรู้ในการถ่ายทอดที่ไท้กาต้องหารือร่วมกันแล้วดำเนินการตามความสันทัด  เมื่อมีรูปแบบชัดเจนแล้วก็ดำเนินการได้  คิดว่าเมื่อเป็นรูปธรรมแล้ว ถ้าใช้ภาษาจีนกลางเป็นหลัก (อาจมีฉบับภาษาถิ่นตามหลังไปบ้าง)  เชื่อว่างานนี้คงไม่โดดเดียว อาจมีองค์กรทางการศึกษาสนใจข่วยขับเคลื่อนได้บ้างไม่มากก็น้อย

รูปภาพของ อิชยา

ช่วยสะสมหนังสือ

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

หนังสือเรียนจีน

หนังสือจีนชั้นประถมที่ใช้เรียนอยู่ในโรงเรียนจีน (現代小學課本) มีทั้งหมดห้าวิชา คือวิชาภาษาจีนกลาง (國語) วิชาความรู้ทั่วไป (常識) วิชาหน้าที่พลเมือง (公民) วิชาจดหมาย (尺牘) วิชาเลขคณิต (算術) ภายหลังวิชาเลขคณิตจีน (算術) ถูกยกเลิก เพราะซ้ำซ้อนกับวิชาเลขคณิตไทย)
 
ระดับชั้นหนังสือแบ่งออกเป็น  8 ระดับ คือชั้นประถมหนึ่ง เรียนเล่ม 1-2 (第一册至第二册) ชั้นประถมสอง เรียนเล่ม 3-4 (第三册至第四册) ชั้นประถมสาม เรียนเล่ม 5-6 (第五册至第六册) ชั้นประถมสี่ เรียนเล่ม 7-8 (第七册至第八册) หมายความว่า ในหนึ่งปีการเรียน แบ่งออกเป็นสองเทอม เทอมแรกชั้นประถมหนึ่ง เรียนเล่ม 1 เทอมหลังเรียนเล่ม 2 ชั้นประถมสองสามสี่ก็ทำนองเดียวกัน
 
นอกจากหนังสือเรียนเหล่านี้แล้ว ยังมีการบ้านให้นำกลับไปฝึกเขียนที่บ้าน คือการเขียนด้วยพู่กันจีนกับน้ำหมึกดำ ที่ต้องใช้แท่งหมึกฝนกับน้ำบนถาดรองด้วยมือ หมึกน้ำสำเร็จรูปแบบปัจจุบัน ไม่เคยพบไม่เคยใช้ จำได้สมัยนั้น พู่กันจีนด้ามละแค่หนึ่งบาทเท่านั้น 
 
กระดาษที่ใช้ฝึกเขียน มีทั้งหมดสามแบบ คือตารางใหญ่ (大楷) ตารางกลาง(中楷) และตารางเล็ก (小楷) อักษร  楷 อ่านว่าข่าย แปลว่าหนังสือตัวบรรจง ใหญ่สำหรับชั้นเรียนประถมต้น กลางสำหรับประถมกลางและเล็กสำหรับประถมปลาย ก่อนการเขียน คุณครูจะทำการสาธิตวิธีจับพู่กันที่ถูกต้อง และให้ทดลองเขียนในชั้นเรียนก่อน เมื่อเข้าใจแล้ว ต่อไปจึงให้นำกลับไปเขียนเป็นการบ้าน ใครเกียจคร้านไม่นำส่งในวันรุ่งขึ้น จะถูกทำโทษโดยการเฆี่ยน ผลของการเฆี่ยน ทำให้นักเรียนแทบไม่มีใครขาดส่ง ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่สั่งห้ามเฆี่ยนโดยอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ทำให้นักเรียนขาดความเกรงกลัวครูบาอาจารย์ การเรียนตกต่ำเละเทะอย่างน่าตกใจ
 
初級常識  初級公民  
หนังสือเรียนจีนวิชาความรู้ทั่วไปและวิชาหน้าที่พลเมือง
 
初級算術  初級尺牘
หนังสือเรียนจีนวิชาคณิตศาสตร์และวิชาเขียนจดหมาย
 
วิธีจับพู่กันจีนที่ถูกต้อง
 
สมุดตารางสำหรับเขียนด้วยพู่กันจีน
 
พู่กันจีน แท่งฝนหมึก จานฝนหมึก
รูปภาพของ ฉินเทียน

世界童軍運動組織=世界童军运动组织

นาย อภัย จันทวิมล ( Mr Abhai Chandavimol ) อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือ กระทรวงธรรมการ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คนที่ 23 สมัย ฯพณฯ จอมพล ถนอม กิตติขจร เป็น นายกรัฐมนตรี  โดยเข้ารับการโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่ง 18 ธันวาคม พ.ศ. 2515 – 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516
 
ในระหว่างการชุมนุมของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งมีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรง ฯพณฯ อภัย ในขณะนั้นก็ได้รักษาและดูแลบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ (319 อาคารราชวัลลภ วังจันทรเกษม ถ. ราชดำเนินนอก  เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 ) ให้รอดพ้นภัยอันตรายจากการเมืองที่รุนแรงอย่างมาก จึงได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เข้าดำรงตำแหน่ง 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 – 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 สมัยรัฐบาลของ ฯพณฯ สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีและองคมนตรี
นาย อภัย จันทวิมล  เกิด 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2450 อำเภอเมือง จังหวัด จันทบุรี ราชอาณาจักรสยาม  ได้รับการศึกษาจากโรงเรียน เบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี จากนั้นสำเร็จระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ สหราชอาณาจักร โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
พ.ศ. 2459 นายอภัย สมรสกับ คุณหญิงทองก้อน จันทวิมล (สกุลเดิม บุณยัษฐิติ)
พ.ศ. 2490 ผู้ช่วยอธิบดีกรมสามัญศึกษา  
พ.ศ. 2504 - 2511 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(อนุมัติแบบเรียนภาษาจีน)
ภายหลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  และได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นาย อภัย จันทวิมล ถึงแก่อนิจกรรม อย่างสงบสุข เมื่อปี พ.ศ. 2536 สิริรวมอายุ 86 ปี ณ ราชอาณาจักรไทย
 
นาย อภัย จันทวิมล เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมคณะลูกเสือแห่งชาติ ในคณะกรรมการลูกเสือโลก ขององค์การลูกเสือโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2508 ถึง 2514 ในพ.ศ. 2514 เขาได้รับรางวัลบรอนซ์วูลฟ์ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_recipients_of_the_Bronze_Wolf_Awardซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับจากองค์การลูกเสือโลก  และมอบโดยคณะกรรมการลูกเสือโลก ( World Scout Committee of the World Organization of the Scout Movement ) ในฐานะที่มีการสนับสนุนส่งเสริมกิจการลูกเสือโลก ในการประชุมลูกเสือโลกครั้งที่ 22 ณ กรุงโตเกียว ราชอาณาจักรญี่ปุ่น
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ 
( Order of Chula Chom Klao - 2nd Class upper (Thailand) ribbon.png )
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
( Order of the White Elephant - Special Class (Thailand) ribbon.png )
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น มหาวชิรมงกุฏ
( Order of the Crown of Thailand - Special Class (Thailand) ribbon.png )
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ
( Order of Ramkeerati (Thailand) ribbon.png )
เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3
( King Rama IX Royal Cypher Medal (Thailand) ribbon.png ) 
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

หนังสือเรียนภาษาจีน

 
媽媽養雞  姐姐養雞
มามาเอี่ยงจี  เจี่ยเจี่ยเอี่ยงจี
อาเมยองไก  อาจี้ยองไก
แม่เลี้ยงไก่  พี่เลี้ยงไก่
 
媽媽叫姐姐  去拿米
มามาเจี้ยวเจี่ยเจี่ย  ชี่หนาหมี่
อาเมฮ้ามอาจี้  ฮี้น๊ามี้
แม่เรียกพี่  ไปเอาข้าวสารมา
 
姐姐叫小雞  來吃米
เจี่ยเจี่ยเจี้ยวเสี่ยวจี  หลายชือหมี่
อาจี้ฮ้ามเซี้ยวไก  หล่อยซิดมี้
พี่เรียกลูกไก่  มากินข้าวสาร
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

หนังสือเรียนภาษาจีน 2

 
媽媽對小弟弟説
มามาตุ้ยเสี่ยวตี้ตี้ซัว
อาเมตุ๊ยเซี้ยวเล่าไทซ่อด
แม่พูดกับน้องชายว่า
 
好孩子  你再算一算
ห่าวหายจื่อ หนี่จ้ายซ่วนอิซ่วน
ห้าวห่ายจื้อ หงี่ไจ้ส๊อนอิดส๊อน
ลูกรัก ลูกลองนับดูอีกสักครั้ง
 
我們吃了幾個雞蛋
หว่อเหมินชือเหลี่ยวจี่เก้อจีตั้น
งาแต็วซิดเลี่ยวกีแก๊ไกทั้น
พวกเรากินไข่ไก่ไปแล้วกี่ฟอง
 
小弟弟説  一二三四五
เสี่ยวตี้ตี้ซัว อิ เอ้อ ซาน ซื่อ อู่
เซี้ยวเล่าไทซ่อด  อิด  งี้  ซาม  ซี๊  อึ่ม
น้องชายตอบว่า  หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
 
我們吃了五個雞蛋
หว่อเหมินชือเหลี่ยวอู่เก้อจีตั้น
งาแต็วซิดเลี่ยวอึ่มแก๊ไกทั้น
พวกเรากินไข่ไก่ไปแล้วห้าฟอง
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

หนังสือเรียนภาษาจีน 3

 
小寶寶喜歡玩水
เสี่ยวป๊าวป่าวสี่ฟานหวันสุ่ย
เซี้ยวป้าวป้าวฟอนฮี่ก้าวสุ้ย
เด็กน้อยป่าวป่าวชอบเล่นน้ำ
 
他的媽媽  給他洗澡 
ทาเตอมามา เก่ยทาสี่จ่าว
เกียแก๊อาเม ปุนกี่ชุงลิอ่อง
แม่ของเขา ให้เขาอาบน้ำ
 
他用手拍水  用腳拍水
ทาโย่งเส่าพายสุ่ย โย่งเจี่ยวพายสุ่ย
กี่ยุ้งซู่พ๊ายสุ้ย ยุ้งกิเอาะพ๊ายสุ้ย
เขาใช้มือตีน้ำ ใช้ขาตีน้ำ
 
洗完了澡
สี่หวันเหลี่ยวจ่าว
ชุงลิอ่องห้าวเลี่ยว
อาบน้ำเสร็จแล้ว
 
媽媽把小寶寶抱開
มามาป่าเสี่ยวป๊าวป่าวป้าวคาย
อาเมจิอองเซี้ยวป้าวป้าวน่ำคอย
แม่จับป่าวป่าวอุ้มออก
 
小寶寶哭了
เสี่ยวป๊าวป่าวคูเลอ
เซี้ยวป้าวป้าวเกี้ยวลอ
เด็กน้อยป่าวป่าวร้องไห้
 
他還要玩水
ทาหายเอี้ยวหวันสุ่ย
กี่ฮั่นอ้อยก้าวสุ้ย
เขายังอยากเล่นน้ำอีก
 
หมายเหตุ  : ภาษาแคะไม่ได้ออกเสียงทับศัพท์ตามตัวอักษรโดยตรง เป็นการออกเสียงสำเนียงแบบภาษาแคะแท้
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

หนังสือเรียนภาษาจีน 4

 
姐姐起來  洗了臉  刷了牙
เจี่ยเจี่ยฉี่หลาย สี่เหลี่ยวเหลี่ยน ซัวเหลี่ยวเอีย
อาจี้ฮี้หล่อย แส้เลี่ยวเมี้ยน ซอดเลี่ยวหง่า
พี่ลุกขึ้นมา ล้างหน้าแล้ว แปลงฟันแล้ว
 
我也起來  洗了臉  刷了牙
หว่อเอี่ยฉี่หลาย สี่เหลี่ยวเหลี่ยน ซัวเหลี่ยวเอีย
ไหง่ย๊าฮี้หล่อย แส้เลี่ยวเมี้ยน ซอดเลี่ยวหง่า
ฉันก็ลุกขึ้นมา ล้างหน้าแล้ว แปลงฟันแล้ว
รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

ภาพถ่ายเก่าประถมสาม

วันนี้พบรูปถ่ายหมู่นักเรียน สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมสาม โรงเรียนยะลาบำรุง เพื่อสื่อให้เห็นว่า สมัยนั้นนักเรียนชายส่วนมากจะไม่ชอบใส่รองเท้า ชอบที่จะมาโรงเรียนแบบตีนเปล่า คุณครูไม่ได้ดุว่าหรือบังคับ ซึ่งผู้โพสต์ก็อยู่ในกลุ่มรูปถ่ายด้วย หน้าตาตอนเด็กก็เหมือนตอนชราดีดีนี่เอง

 

坐下來  坐下來 

จ้อเซี่ยหลาย จ้อเซี่ยหลาย

ชอห๊าหล่อย ชอห๊าหล่อย

นั่งลง นั่งลง

 

大家坐下來

ต้าเจียจ้อเซี่ยหลาย

ไท้กาชอห๊าหล่อย

ทุกคนนั่งลง

 

先生講  小朋友聽

เซียนเซิงเจี่ยง เสี่ยวเผิงอิ่วทิง

แซนซางก้อง เสี่ยวเผ่นอิวทาง

คุณครูพูด เพื่อนๆฟัง

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal