หน้าปกหนังสือเรียนจีนวิชาเรื่องภาษาชั้นประถมและวิชาประวัติศาสตร์ชั้นมัธยม
ต้องขอบคุณคุณกรวรรณ ที่อยากเห็นหนังสือจีนรุ่นเก่า ทำให้คนึงถึงอดีตอันยาวไกลที่เคยผ่านมา ต้องนั่งสงบจิตสงบใจนึกทบทวนถึงเหตุการณ์เก่าๆ สมัยนุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล รองเท้าไม่ใส่ ว่ากันตีนเปล่าไปเรียนหนังสือ โอ้อดีตที่ไม่หวนกลับ ทำได้แค่ระลึกถึง (往事只能回味)
สมัยก่อนการเรียนการสอนภาษาจีน เข้าโรงเรียนวันแรก จะเริ่มเรียนกันทันทีตั้งแต่ประถมหนึ่งเล่มที่หนึ่ง จำได้เป็นหนังสือ 初級國語 第一冊 หน้าแรกเปิดมาก็ว่ากันเลย 媽媽 媽媽來 來來來 快來看弟弟 弟弟哭了 (แปลว่า แม่ แม่จ๋า รีบๆมาดูน้องที น้องร้องไห้แล้ว)ครึกครื้นอย่าบอกใคร ซึ่งจำกันจนถึงปัจจุบันร่วมห้าสิบกว่าปีแล้ว ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
ในส่วนของคุณครูจีน ส่วนมากหรือแทบทั้งหมดมาจากประเทศจีน อายุประมาณสามสิบกว่าถึงหกสิบกว่า พูดไทยไม่เป็น ถึงพูดได้ก็ตะกุกตะกัก เหมือนเด็กไทยพูดภาษาอังกฤษ สอนโดยพูดภาษาจีนกลางล้วน ใช้กระดานดำเป็นหลัก ไม่มีกระดานเขียวเหมือนปัจจุบัน มือเขียนไป ปากก็พูดไปสอนไป เด็กก็ฟังไปจดไป เลิกเรียนมักมีการบ้านพ่วงให้เสมอ เบาะๆก็คัดลายมือด้วยดินสอ ต่อมาก็ให้คัดลายมือด้วยพู่กันจีน เท่ไม่หยอก
พูดถึงเรื่องสอบ ข้อสอบจะออกมาในรูปแบบอัตนัย ไม่มีแบบปรนัย รู้เป็นรู้ รู้ก็ทำข้อสอบได้ ไม่รู้ก็ตอบไม่ได้ ไม่มีโอกาสได้ดำน้ำเด็ดขาด ใครทำคะแนนได้ทุกวิชารวมกันตั้งแต่ 50% ขึ้นไป ถือว่าสอบได้ ได้เลื่อนชั้น ไม่ถึงแม้จะ 49.99% ก็ต้องเรียนซ้ำชั้น ไม่มีการช่วยเหลือใดใดทั้งสิ้น ใครฉลาดเรียนเก่งได้อันดับที่หนึ่งที่สองและที่สาม จะมีรางวัลให้ รางวัลที่ได้ส่วนมากเป็นอุปกรณ์การเรียน
เรื่องค่าเล่าเรียน ถ้าเอาค่าปัจจุบันเทียบ ก็เหมือนแจ็คเปรียบกับยักษ์ เทียบกันไม่เห็นฝุ่น ค่าเล่าเรียนเก็บเป็นเดือนๆละ 30 บาท แต่ค่าครองชีพสมัยนั้น ก๊วยจั๊บชามละ 50 สตางค์ยังมีให้กินกันได้ ข้าวเหนียวห่อใหญ่ใส่หน้าต่างๆห่อละ 50 สตางค์ เชื่อไหม รถเบนซ์รุ่นหางปลาตกคันละแค่แปดถึงเก้าหมื่นบาทเท่านั้น ส่วนน้ำมันดีเซลลิตรละ 90 สตางค์ถึงหนึ่งบาท
เขาว่าคนเฒ่าชะแลแก่ชรา เมื่อพูดถึงอดีตตอนเป็นเด็ก มักมีความสุขเล็กๆเกิดขึ้น และจะเลยเถิดเตลิดไปถึงเพื่อนๆที่เคยเรียนเล่นด้วยกัน มันเป็นชีวิตที่อิสระไร้ข้อผูกมัด สนุกสนานอย่างไม่มีเบื่อ แต่อนิจจา มาบัดนี้ ชีวิตอย่างนั้นไม่มีอีกแล้ว เพื่อนๆก็ค่อยๆทยอยจากไปเกิดใหม่ทีละคนสองคน ทุกอย่างล้วนอนิจจัง
ป.ล.โรงเรียนยะลาบำรุง เป็นโรงเรียนที่สมาคมชาวจีนในตัวเมืองยะลา ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีน ชื่อโรงเรียนผิงหมิน แต่ต้องปิดโรงเรียนไปพักหนึ่งในยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ห้ามมิให้มีการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทย ต่อมาปีพ.ศ 2486 ทางราชการย้ายศาลากลางจากตำบลสะเตง มาขอใช้อาคารแห่งนี้เป็นศาลากลางจังหวัดยะลาชั่วคราวอยู่หลายปี จนถึง 26 มีนาคม พ.ศ 2495 จึงได้ย้ายไปยังที่ตั้งถาวรที่ถนนวงเวียน ๑ ศาลหลักเมืองยะลาจนปัจจุบัน
ศาลากลางจังหวัดยะลาในอดีตที่ตั้งชั่วคราวบนโรงเรียนจีนฯ ปี พ.ศ 2493
นักเรียนถ่ายรูปหมู่พร้อมครูหน้าโรงเรียนยะลาบำรุง 也拉平民學校 ปี พ.ศ 2497
เนื้อหาในหนังสือจีนชั้นประถมเล่ม 1
หน้าปกหนังสือวิชาวรรณกรรมชั้นมัธยมและหนังสือบทกวีสมัยราชวงศ์ถัง 300 บท
เนื้อหาภายในของหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ระดับมัธยม
หวาเหวินเค่อเปิ่น
ขอฝากลิ้งค์เรื่อง แบบเรียนภาษาจีน เมื่อ หลายสิบปีก่อน หวาเหวินเค่อเปิ่น เพื่อร่วมรำลึกความหลัง
จองกว้านหมิ่น หล่อซือ
เป็นไปได้ไหมครับ ว่าเอาหนังสือพวกนี้ครบชุดกลับมาสอนกันในเวปนี้ โดยจัดรูปแบบการเรียน การสอนกันอย่างไร น่าจะลองปรึกษาท่านTech ดูว่าจะทำได้มั้ย ไหงจะได้กลับมาเรียนใหม่ จะได้กลับมาหวุยเว่ย มั่งครับ..
ขอสมัครเรียนด้วยครับ
หากได้กล้บมาทบทวนบทเรียนเก่าๆ ที่เด็กๆเคยเรียนมา คงมีความสุขทางใจมาก
ขอสมัครจองที่นั่งเเถวหน้าครับ
แปล 華文課本 ของอาฉีโก
บทเรียนของอาฉีโกที่นำมาลง อ่านแล้วเนื้อหาใจความดีมาก เป็นเรื่องราวที่ท่านขงจื๊อได้ช่วยเหลือให้พวกเด็กๆมีโอกาสได้เรียนหนังสือกันถ้วนหน้า เป็นความเมตตาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ขออนุญาตนำมาแปลลง ณ.ที่นี้
บทเรียนที่ 2 เด็กในประเทศจีน
เด็กๆในสมัยโบราณของเมืองจีน โอกาสที่จะได้เล่าเรียนหนังสือนั้นยากมาก ตั้งแต่ขงจื๊อรับหน้าที่ด้านการศึกษาเป็นต้นมา เด็กๆจึงมีโอกาสได้เข้าศึกษาเล่าเรียน ในช่วงสองพันปีมานี้ หนังสือที่พวกเขาเรียน เป็นบทเรียนเกี่ยวกับธรรมาภิบาล คือ ความถูกต้องซื่อสัตย์ยุติธรรม มีเมตตากรุณา มีเหตุมีผล ทั้งยังสอนให้มีความทรหดอดทน มีความมุ่งมั่นในการเล่าเรียนอย่าได้ย่อท้อ
ทั้งนี้ตามความเห็นของขงจื้อเห็นว่า การบำเพ็ญฝึกฝนตนให้เป็นคนมีคุณธรรม ควรเริ่มที่ครอบครัว ดูแลครอบครัวให้มีความเสมอภาคก่อน ถึงจะปกครองบ้านเมืองให้มีสันติสุขได้ ต้องพยายามทุ่มเท ทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ ดังนั้น เด็กในประเทศจีน แม้ว่ายังเยาว์วัย แต่ก็สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ดี
ป.ล. สำหรับความเห็นของโกอาคม เป็นความคิดที่ดีมาก ถ้าสามารถหาหนังสือจีนเก่าๆเหล่านี้มาครบถ้วนสมบูรณ์ และวางรูปแบบการสอนสำเร็จ ไหง่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่
ข้อคิดเห็นของขงจื๊อ 修身 齊家 治国 平天下
ขอบคุณ
ดิฉัน เแนลูกคนเล็ก ไม่ได้เรียนภาษาจีนเลย เด็ก ๆ อาจจะดื้อเลยไม่ได้เรียน พี่ ๆ ได้เรียน แล้วมาสอนอ่าน และจำได้แค่ 1 หน้า มามาไคว่ไหล ไคว่ไกลขั้นตี่ตี่ ตี่ตีคูเลอ เท่านั้นเอง ไม่แน่ใจเหตุผลว่าทำไมอาป๊าไม่ได้ส่งเรียนภาษาจีน อยากเตือนเด็กรุ่นหลัง อย่าเบื่อการเรียน
เห็นด้วบ แบบเรียนเก่า
เป็นความคิดที่ดี ที่จะมีการรวบรวมแบบเรียนเก่า แล้วนำมาถ่ายทอดไว้ ทางเทคนิกสามารถนำขึ้นเว็บได้ไม่มีปัญหา และยินดีบริการอย่างเต็มที่ ส่วนทางกฎหมายลิขสิทธิ์คงต้องฝากวีฟัดโกช่วยดูว่าทำได้แค่ไหนอย่างไร ถ้าจำไม่ผิด นานมี เคยนำเข้ามาขาย ไม่แน่ใจว่าสมัยนั้นอาหงิวโกยังเป็น บก.อยู่หรือเปล่านะ
ส่วนเรื่องที่จะเดินหน้าต่อ คือรูปแบบวิธีการจัดองค์ความรู้ในการถ่ายทอดที่ไท้กาต้องหารือร่วมกันแล้วดำเนินการตามความสันทัด เมื่อมีรูปแบบชัดเจนแล้วก็ดำเนินการได้ คิดว่าเมื่อเป็นรูปธรรมแล้ว ถ้าใช้ภาษาจีนกลางเป็นหลัก (อาจมีฉบับภาษาถิ่นตามหลังไปบ้าง) เชื่อว่างานนี้คงไม่โดดเดียว อาจมีองค์กรทางการศึกษาสนใจข่วยขับเคลื่อนได้บ้างไม่มากก็น้อย
ช่วยสะสมหนังสือ
ขอร่วมช่วยสะสม (เท่าที่หาได้) หนังสือเรียนภาษาจีน...นำมาจากเว็บในรูปแบบ_e-book_
ต้องรบกวนโก๋ฉีช่วยอัพขึ้นเว็บฮากกาด้วยค่ะ...
....click here...E_BOOK
เล่มนี้ใช้เรียนกันในมหาวิทยาลัยรามคำแหง
...สารบัญ...
...โครงเรื่อง..
...วัตถุประสงค์..
...ข้อเสนอแนะเบื้องต้น..
...บทที่1 ตัวอักษรจีนกลาง..
...บทที่2 การถามชื่อ นามสกุล..
...บทที่3 ห้องเรียน…
...บทที่4 การศึกษา…
...บทที่5 เรื่องเวลา…
...บทที่6 ครอบครัว…
...บทที7 ที่อยู่อาศัย…
...บทที่8 มื้ออาหาร…
...บทที่9 ซื้อของใช้ประจำวัน…
...บทที่10 การซื้อเครื่องเขียน…
...บทที่11 หลักภาษา…
...บรรณานุกรม…
หนังสือเรียนจีน
世界童軍運動組織=世界童军运动组织
หนังสือเรียนภาษาจีน
หนังสือเรียนภาษาจีน 2
หนังสือเรียนภาษาจีน 3
หนังสือเรียนภาษาจีน 4
ภาพถ่ายเก่าประถมสาม
วันนี้พบรูปถ่ายหมู่นักเรียน สมัยเรียนอยู่ชั้นประถมสาม โรงเรียนยะลาบำรุง เพื่อสื่อให้เห็นว่า สมัยนั้นนักเรียนชายส่วนมากจะไม่ชอบใส่รองเท้า ชอบที่จะมาโรงเรียนแบบตีนเปล่า คุณครูไม่ได้ดุว่าหรือบังคับ ซึ่งผู้โพสต์ก็อยู่ในกลุ่มรูปถ่ายด้วย หน้าตาตอนเด็กก็เหมือนตอนชราดีดีนี่เอง
坐下來 坐下來
จ้อเซี่ยหลาย จ้อเซี่ยหลาย
ชอห๊าหล่อย ชอห๊าหล่อย
นั่งลง นั่งลง
大家坐下來
ต้าเจียจ้อเซี่ยหลาย
ไท้กาชอห๊าหล่อย
ทุกคนนั่งลง
先生講 小朋友聽
เซียนเซิงเจี่ยง เสี่ยวเผิงอิ่วทิง
แซนซางก้อง เสี่ยวเผ่นอิวทาง
คุณครูพูด เพื่อนๆฟัง