หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ตำรายาพื้นบ้านฮากกาจาก "โกสิ่ว"

รูปภาพของ YupSinFa

                     เมื่อตอนที่ไหงไปเยี่ยมโกสิ่วครั้งล่าสุดเพื่อนำชีวิตของท่านมาบอกกล่าวเล่าขานให้ไท้ก๋าหยิ่นได้อ่านเพื่อความภาคภูมิใจ ตอนนั้น อาสิ่วปัก ได้มอบตำรายาจีนแบบพื้นบ้านฮากกาของเรา ไหงก็รับมา บังเอิญวันนี้ รื้อเอกสารบนโต๊ะทำงานที่กองเป็นภูเขาย่อม ๆ ได้เห็นตำรายาดังกล่าว อย่ากระนั้นเลย จึงรีบนำมาเขียน ให้ไท้ก๋าหยิ่นดูเพื่อลองนำเอาไปใช้ ได้ผลอย่างไร บอกกล่าวกันบ้างนะจ๊ะ

          1.อาการของหูน้ำหนวก  ให้นำเอา หมอยเพี้ยน ถิ่นฟุ้น แย้นมี่ (เอามาตำรวมกันแล้วเป่าใส่หู???)

          2.ถ้าปวดท้องเป็นประจำ ให้เอาดอกมะเฟืองต้มกับเนื้อหมู ซึดเข้าไป (กินเข้าไป) ก็จะหาย

          3.โรคมดลูก(ไม่บอกว่ามดลูกอาการเป็นอย่างไร) ให้เอา ฉองฟุ้ง กับ ปี้หมาหยิว ผัดกับหมู ซึด (กิน)-สงสัยกินแล้วมดลูกเข้าอู่-สินฝ่า

          4.วู้ตู้เพี้ยว(อาการของโรคหรือชื่อสมุนไพร??-สินฝ่า) ให้เอาก้นบุหรี่ ทุบกับข้าวเย็น เอาไปแปะ

          5.คันเนื้อคันตัว เอาแป้งดินสอพองผสมกับมะนาว ทา ทา ทา

          6.หืด เอาน้ำตาลต้มให้กิน (ก็คงหาย?-สินฝ่า)

          7.ปุ้ยซี้ เอา 五 ผ่อย  子 ต้มกับยาสูบ เอาไป สุ้ง (กี๋เขียนมาอย่างนี้จริง ๆ นะครับ) งง?

          8.คนออกลูกเลือดหาย(น่าจะเสียเลือด-สินฝ่า) เอากี้ซังมู่เกี้ยง ต้มใส่เหล้า หรือ ก้วงปู้ เผา ชงแล้วกิน

          9.โรคกระเพาะ ใช้โซดา ผสมน้ำกินก่อนอาหาร ถ้ากินแล้ว เลอ(เรอ-สินฝ่า) เป็นอันว่าดี

        10.กี่ช้ำแถว ต้มกินกับน้ำผึ้ง แก้ปวดหัวได้ และ หือ(สันนิฐานว่าหมายความว่า "ให้" เพราะภาษาล้านนา หื้อ แปลว่า "ให้" แต่กี๋เขียนมาว่า หือ) เอา ลาก (คงจะหมายความว่า "ราก" ) ทำเป็นผง ทอดกับ ไข่เจียว

        11.ฮอกล่อหมา แก้ปวดท้องได้ 5 - 6 ใบ ต้ม เอานำมากินกับน้ำผึ้ง แก้ท้องเสีย

                  ต้นเหงือกปลาหมอ

       1.ถ้าเจ็บตา ตา นั้นแดง ให้เอาเหงือกปลาหมอตำ กับ ขิง เอาน้ำหยอดตาหายแล

       2.ถ้าเป็นเหน็บชา มือ และทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลา มาตำ ทาตรงที่เหน็บชา หาย

       3.ถ้างูกัด เอาเหงือกปลาหมอมากินด้วย ทาด้วย หายแล

       4.ถ้าเปนฝีบวมขึ้น ให้เอาต้นเหงือกปลาหมอ กับขิง ขมิ้นด้วย มาตาม(เข้าใจว่า "ตำ"-สินฝ่า) ปนกันแล้วทาหายแล

       5.ถ้าเปนริดสีดวงงอก ให้เอาเหงือกปลาหมอกับ ขมิ้น อ้อย มาตำปนกับน้ำมันหรือน้ำมูต(น้ำปัสสาวะเด็กหมัก) ทาหายแล

       6.ถ้าเปนไข้ หนาวสั่นทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ กับ ขิง ตำปนกัน กินแล้วหายแล

       7.ถ้าเปนหูหนาตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอ ต้ม เอาน้ำกิน แล้วเอาใบส้มป่อยต้มน้ำอาบ หายแล

       8.ถ้าเจ็บหลัง บั้นเอว ให้เอาเหงือกปลาหมอ กับชะเอมเทศ ตำเปนผงละลายน้ำผึ้ง กินหายแล

       9.ถ้าช้างแทง กระบือ ชน หรือตกจากที่สูง หรือ ต้อง คมอาวุธทั้งหลายก็ดี ให้เอาเหงือกปลาหมอตำ ทาที่แผลแล้วหายแล

     10.ถ้าเปนริดสีดวง แห้ง หรือ ฝีในท้อง แลดูซูบผอมเหลืองทั้งตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ มาตำเปนผงละลายน้ำกินทุกวันหายแล

     11.ถ้าเปนริดสีดวง มือเท้าตาย ให้ร้อนทั้งตัว และให้เวียนศรีษะ ตามืด เจ็บทั้งตัว และตัวให้แห้ง ชื่อว่า ลมเพชฌฆาต 38 จำพวก ให้เอาเหงือกปลาหมอ กับ เปลือกมะรุมเสมอกัน(คงหมายความว่าเท่ากัน-สินฝ่า) ใส่หม้อเอาเกลือใส่นิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว (น่าจะเป็นหอยตัวเล็ก ๆ-สินฝ่า) วางปากหม้อ เอาฟืน 30 ดุ้นต้ม ถ้าเดือดแล้วให้อืดใจยกลง(คงหมายความว่ากลั้นใจยกลงจากเตา-สินฝ่า) ถ้าเวลาจะกิน ให้ อืดใจกิน หายแล (คงอึดใจกิน-สินฝ่า)

     12.ถ้าจะกินให้เจริญสูงอายุ ให้เอาเหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พลิกไทย 1 ส่วน ตำเปนผงละลายกับน้ำผึ้ง กินทุกวัน ถ้ากินได้เดือนหนึ่ง โรค ไม่มีแล มี สติปัญญา ถ้ากิน 2 เดือน คนชอบมาก(คงหมายถึงมีเสน่ห์-สินฝ่า) ถ้ากิน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวก ไม่มีเลย ถ้ากิน 4 เดือน ลม 12 จำพวก ไม่มีเลย แลตาแดงดังครุฑ หูได้ยินเสียงดั่ง ราชสีห์ ถ้ากินถึง 5 เดือนโรคในกายหายไม่มี ถ้ากินถึง 6 เดือน เดินวันละโยชน์ ไม่เหน็ดเหนื่อย ถ้ากินถึง 8 เดือน เสียงเหมือนนกกา (แล้ว 7 เดือนหายไปไหน?-สินฝ่า) ถ้ากินถึง 9 เดือน คมหอก ดาบแทง ฟันไม่เข้าเลย ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณหะลักษณะเปรียบเหมือนยาทิพย์ก็ว่าได้ ถ้ากินอาหารแล สิ่งใดเข้าไป ไม่มีโทษ

     13.ถ้าเป็นมะเร็งแตกทั่วตัว ให้เอาเหงือกปลาหมอ พริกไทย ดีปลี ตำปนกัน เปนผงกินกับน้ำร้อนหายแล

     14.ถ้าเปนฝีรักแร้ และลำคอก็ดี ให้เอาเหงือกปลาหมอแดง ขมิ้นอ้อย แลเอาน้ำมันงากับมูต เคล้ากับยาทา หายแล

     15.ถ้าเปนผื่นแดงขึ้นมา เกาไม่รู้สึกเจ็บหรือ เปนหูหนวกตาโต ให้เอาเหงือกปลาหมอมาต้มกินและเอาต้มกับใบส้มป่อยอาบ หายแล

     16.ถ้าเปนลมจับ ให้เอาเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน พลิกไทย 2 ส่วน ตำผงละลายน้ำกินแก้ 8 จำพวก หายแล.

     17.ถ้าผู้หญิงระดูขาด หรือ โรหิตแห้ง แต่เดือนหนึ่งสามเดือนก็ดี แลให้เจ็บผอมเหลือง ทั่วสรรพางค์กาย ให้เอาเหงือกปลาหมอ ตำเปนผงละลายน้ำมันงา หรือน้ำผึ้ง ก็ได้ กินทุก ๆ วัน หายแล

     18.ถ้าจะประสานเนื้อ ให้เอาเหงือกปลาหมอ หัวสาม เอาเท่ากัน (น่าจะหมายถึง สามหัว-สินฝ่า) ตำเอาน้ำทาประสานเนื้อสนิทแล

     19.ถ้าเปนมะเร็งทำท้องให้ลงจนตัวเหลือง ให้เอาเหงือกปลาหมอ กระชาย มะกำ ไก่สมอทั้งสองต้มกิน

     20.ถ้าหน้ามืดตามัน ให้เอาเหงือกปลาหมอ กระเพราะทั้งสอง แสมสรรใบทองหลางใบมน บรเพ็ต เจตมูลเพลิง เอาเท่ากันทุกอย่าง ตำปิดขม่อมแล้ว เอาเหล็กเผาไฟให้ร้อน เอาจานทับเหนือยานั่น หายแล.(ข้อนี้อ่านยากมากไม่รู้พิมพ์ตามถูก-หรือผิด-สินฝ่า)

                 ก็เป็นตำรายาโบราณ ๆ ของ เล่าหยิ่นกา ชาวฮากกาคนหนึ่ง ซึ่งเขียนด้วยลายมือของท่านเอง เอาไว้แจกให้ลูกหลาน คิดว่าเป็นทาน คือการให้ เพื่อกุศล ด้วยเจตนาอันดีงาม และงดงามในความตั้งใจ เห็นได้ว่าเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้าน ภูมิปัญญาชาวบ้าน แบบฮากกาของเรา

                ไหงพิมพ์ไปตามที่ลายมือ ท่าน อาโกสิ่วปัก เขียนมาให้ ไม่ได้ดัดแปลงแต่งเติมหรือแก้ไขแต่ประการใดขอให้ไท้ก๋าหยิ่น อ่านเพื่อประดับความรู้ ขอยกความดีงามให้แด่ อาปัก หยี่สิ่ว เซี๊ยงโก  หรือ คุณอุดมสิทธิ์ โกมลพงศ์ภักดี   


รูปภาพของ วี่ฟัด

ไหงขอรับรองเรื่องของต้นเหงือกปลาหมอ

                     

ต้นเหงือกปลาหมอ

  เรื่องต้นเหยือกปลาหมอกับการรักษาฝีหนองนั้นไหงเคยมีประสพการณ์เป็นอย่างดี เมื่อตอนไหงอายุสักประมาณ 14 - 15 ไท้ปักไหงเกิดเป็นฝี " ฝักบัว " แถวบริเวณคอ ที่เขาเรียกว่าฝีฝักบัวเพราะบริเวณที่เป็นฝีจะมีหลายหัวมาก หาหมอแผนปัจจุบันก็ไม่หายเป็นอยู่เกือบเดือน เป็นที่ทรมานไท้ปักไหงมาก บังเอิญมีพระที่แกเป็นหมอยามาแนะนำโดยให้เอาต้นเหงือกปลาหมอตำแล้วพอก และให้เอาต้นเหงือกปลาหมอมาต้มกินอีกด้วย ไม่กี่วันฝีก็แห้งและหายเป็นปลิดทิ้ง ต้นเหงือกปลาหมอยังรักษาได้อีกหลายโรค

               ต้นเหงือกปลาหมอเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามพื้นที่ที่เป็นเขตน้ำกร่อยน้ำเค็มใกล้ทะเล บ้านไหงอยู่ราชบุรี สมัยนั้นไหงขี่รถมอเตอร์ไซด์ไปหาต้นเหงือกปลาหมอแถวๆจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งที่นั่นมีต้นเหงือกปลาหมอมากมายชึ้นอยู่ทั่วไปเพราะเป็นเขตน้ำกร่อย ใกล้ทะเล ปัจจุบันไหงก็ยังเห็นขึ้นอยู่มากมาย

แถวงเชียงใหม่สงสัยจะหายาก

รูปภาพของ YupSinFa

นั่นสิครับไม่เคยเห็นต้นเหงือกปลาหมอเลย

                  ตอนที่ไหงพิมพ์บทความนี้ไป ไหงก็คิดอยู่ในใจ ถึงความน่ารักของคนแก่คนหนึ่งซึ่งตั้งใจเผยแผ่ภูมิปัญญาของตัวเองที่ได้รับตกทอดต่อ ๆ กันมา ด้วยสำนวนการเขียนที่น่ารักคือเขียนไทยไม่เก่ง คิดอย่างไร ก็เขียนอย่างนั้น อันนี้นับว่าเป็นความน่ารักมาก ๆ

                 พอถึงเรื่องต้นเหงือกปลาหมอ คิดอยู่ในใจว่า เอ เจ้าสมุนไพรต้นที่เรียกว่าเหงือกปลาหมอนี้ ช่างมีคุณสมบัติดีดี มากมายหลายอย่าง นึกอยู่ว่า เกิดมาไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินอนุมานเอาว่า คงไม่ใช่พืชท้องถิ่นของล้านนาแน่ ๆ หรืออย่างไร อาจจะเรียกไม่เหมือนกัน แต่พอได้เห็นรูปภาพที่วี่ฟัดโก เอามาลงให้ดูแล้ว จึงมั่นใจว่า 8 จังหวัดล้านนา ไม่รู้จักจริง ๆ ครับ

                ต้องขอบพระคุณท่านหยี่สิ่วปัก มาก ๆ เลย นะครับ

รูปภาพของ อาคม

หมายเลข 10 กี่ช้ำแถว

กี่ช้ำแถว ถ้าเป็นอันเดียวกันกับของไหง ที่เรียกว่า ที่ช่ำแถว คนไทยเรียกว่า ต้นโด่ไม่รู้ล้ม ที่ชื่อเดียวกับยาดอง ที่กินแล้วอะไรโด่แล้วไม่รู้ล้ม ในบ้านเราก็มีหลายพันธุ์ ขึ้นอยู่ทั่วไป ไหงถอนมาแล้วล้างให้สะอาด เอาเฉพาะโคนกับราก ก็ดูคล้ายๆโสมเหมือนกัน เอาเป็นกำใหญ่ๆ ต้มกับไก่บ้านหนึ่งตัวโดยไม่ต้องสับไก่เป็นชิ้น เมื่อเดือดแล้วให้ใช้ไฟอ่อน ตักซุปปรุงด้วยน้ำปลาตามชอบ ซึ่งเป็นอาหารฮากกาบ้านๆ ตามป่า ตามเขามีพืชที่เอามาประกอบอาหารเยอะมาก ถ้ามีโอกาศไปเดินตามตลาดที่เมืองฮากกาทั่วไป จะเห็นถนนบางสายขายแต่รากไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ เป็นกระสอบๆ คนก็ซื้อกันเป็นกระสอบ ส่วนมากเอาไปต้มซุป

อีกอย่างที่เรียกว่า ไท้ฟุงผ่อ ไหงนึกชื่อไทยไม่ออก ใครรู้ช่วยบอกที คือต้นที่ใบเป็นขนเหมือนกำมะหยี่ มีกลิ่นหอม เอามามัดเป็นกำโดยใช้หญ้าคามัด แล้วตากแห้ง เอามาต้มน้ำให้คนอยู่ไฟอาบ แต่ไหงได้กินซุปนี้ที่ ไท้ปู ใช้ได้ทั้งต้นและราก

เสริมที่รู้ครับ

  ข้อ4 วู้ตู้เพี่ยวคือ ลำมะลอก

  ข้อ7ปุยซี้เราเรียก ไหมฟ้า จะลอยมาตามลมเส้นใยขาว ๆถูกตาแล้วเจ็บมากจนลืมตาไม่ได้ อึ้งผ่อยจื้อ คือสมอดีงู ส่วนสุ้งคือ สุน ในคำไทยคือต้มเอาควันรม

  ข้อ8 กี้ซั้งมู่เกี้ยง เป็นหัวกาฝาก

  ส่วนเหงือกปลาหมอข้อ18คือเหงือกปลาหมอทั้งสามเสมอกันเอาลำต้น ใบ ราก สามสิ่งน้ำหนักเสมอกันครับ

รูปภาพของ จ๊องหยิ่นฮยุ๋ง

เพิ่มเติมตำรายาพื้นบ้านฯ

ข้อ 1 แย้นมี่ น่าจะเป็น ใบยาสูบ นะครับ (จีนกลาง เรียก ยานเย่烟叶)

ข้อ 3. ปี้หมาหยิว 篦麻油 คือ น้ำมันละหุ่ง.
ข้อ 5 ของอาแม้ไหง ใช้ทารักษา "หัวโน"
ข้อ 10 ไหงว่าอาจจะเป็น ถี่ช้ำแถว อย่างที่ ก๊ออาคม ว่าก็ได้ เพราะ ก.ไก่ กับ ถ.ถุง เขียนคล้ายกัน (ถี่ช้ำแถว เป็น กี่ช้ำแถว)

เกี่ยวกับเหงือกปลาหมอ

ข้อ

ตำราของหยี่สิ่วปัก

จาก www.kanchanapisek.or.th

2.

ถ้าเป็นเหน็บชา มือ และทั้งตัว ให้เอา เหงือกปลาหมอ มาตำ ทาตรงที่เหน็บชา หาย

ใช้ต้นตำผสมน้ำ ทาช่วยแก้โรคเหน็บชาได้

4.

ถ้าเป็นฝีบวมขึ้น ให้เอา ต้นเหงือกปลาหมอ กับขิง ขมิ้นด้วย มาตำปนกันแล้วทา หายแล

ใช้ต้นตำผสมกับขมิ้นอ้อย ใช้พอกฝี (ขมิ้นด้วย เขียนผิด? – หยิ่นฮยุ๋ง)

5.

ถ้าเป็นริดสีดวงงอก ให้เอา เหงือกปลาหมอ กับ ขมิ้น อ้อย มาตำปนกับ น้ำมันหรือน้ำมูต (น้ำปัสสาวะเด็กหมัก) ทาหายแล

ใช้ต้นตำผสมขมิ้นอ้อยและน้ำมัน ใช้แก้โรคริดสีดวงทวาร (ขมิ้น อ้อย ไม่มีเว้นวรรค? – หยิ่นฮยุ๋ง)

6.

ถ้าเป็นไข้ หนาวสั่นทั้งตัว ให้เอา เหงือกปลาหมอ กับ ขิง ตำปนกัน กินแล้วหายแล

ใช้ต้นตำผสมกับขิง แก้ไข้หนาวสั่น

8.

ถ้าเจ็บหลัง บั้นเอว ให้เอา เหงือกปลาหมอ กับ ชะเอมเทศ ตำเป็นผงละลายน้ำผึ้ง กินหายแล

ใช้ต้นบดผสมกับชะเอมเทศ ละลายน้ำ ใช้บริโภคแก้เจ็บหลัง เจ็บเอว

 

10.

ถ้าเป็นริดสีดวงแห้ง หรือ ฝีในท้อง แลดูซูบผอมเหลืองทั้งตัว ให้เอา เหงือกปลาหมอ มาตำเป็นผงละลายน้ำกินทุกวันหายแล

ใช้ต้นตำผสมน้ำ ดื่มรักษาอาการซูบผอม

12.

ถ้าจะกินให้เจริญสูงอายุ ให้เอา เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ตำเป็นผงละลายกับน้ำผึ้ง กินทุกวัน ถ้ากินได้เดือนหนึ่ง โรคไม่มีแล มีสติปัญญา ถ้ากิน 2 เดือน คนชอบมาก ถ้ากิน 3 เดือน ริดสีดวง 12 จำพวก ไม่มีเลย ถ้ากิน 4 เดือน ลม 12 จำพวก ไม่มีเลย แลตาแดงดังครุฑ หูได้ยินเสียงดั่งราชสีห์ ถ้ากินถึง 5 เดือนโรคในกายหายไม่มี ถ้ากินถึง 6 เดือน เดินวันละโยชน์ ไม่เหน็ดเหนื่อย ถ้ากินถึง 8 เดือน เสียงเหมือนนกกา ถ้ากินถึง 9 เดือน คมหอก ดาบแทง ฟันไม่เข้าเลย ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณลักษณะเปรียบเหมือนยาทิพย์ก็ว่าได้ ถ้ากินอาหารแล สิ่งใดเข้าไป ไม่มีโทษ

  • ใช้ต้นตำผสมกับพริกไทย โดยใช้อัตราส่วน 2 ต่อ 1 เคล้าน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนเป็นยาอายุวัฒนะ
  • ใช้ใบตำผสมกับพริกไทยและผสมน้ำผึ้ง รับประทานเป็นอายุวัฒนะ ช่วยให้เจริญอาหาร

17.

ถ้าผู้หญิงระดูขาด หรือ โลหิตแห้ง แต่เดือนหนึ่งสามเดือนก็ดี แลให้เจ็บผอมเหลือง ทั่วสรรพางค์กาย ให้เอา เหงือกปลาหมอ ตำเป็นผงละลายน้ำมันงา หรือน้ำผึ้ง ก็ได้ กินทุกๆ วัน หายแล

ใช้ต้นตำผสมน้ำมันงา น้ำผึ้ง รับประทานแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ

18.

ถ้าจะประสานเนื้อ ให้เอา เหงือกปลาหมอ หัวสาม เอาเท่ากัน ตำเอาน้ำทาประสานเนื้อสนิทแล

ตำผสมกับหัวสามสิบ อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ใช้เป็นยาสมานแผล (หัวสาม เขียนตก? – หยิ่นฮยุ๋ง)

 

รากสามสิบ หรือ สามสิบ

 

สรรพคุณของ เหงือกปลาหมอ เพิ่มเติม (จาก www.kanchanapisek.or.th)

    ราก มีสรรพคุณในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ และใช้ขับเสมหะ

ใช้ต้นตำผสมน้ำ ดื่มรักษาวัณโรค

    ใบ ต้มกับดอกมะเฟือง อบเชย อ้อยแดงและน้ำตาลทราย ใช้แก้ไอได้ผลดี ใช้น้ำที่คั้นได้ ทาศีรษะบำรุงรากผมก็ดี หากนำใบอ่อนต้มกับเปลือกอบเชยดื่มแก้ท้องเฟ้อได้ หากใช้ประคบก็แก้ปวดข้อได้

    ต้นและใบ แก้ฝี น้ำเหลืองเสีย เบาหวาน

    ฝัก ต้มรับประทานขับโลหิต แก้ฝี

    เมล็ด ใช้พอกฝี ขับพยาธิ น้ำเหลืองเสียก็ได้

    เหงือกปลาหมอทั้ง 5 (ราก, ต้น, ใบ, ดอก, ผลฝัก และเมล็ด) หั่นละเอียดตากแห้ง บดละเอียด ผสมเกลือป่นเล็กน้อย ผสมกับพริกไทย อัตราส่วน 2 ต่อ 1 เคล้าด้วยน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน แก้ริดสีดวงจมูก หรือโรคไซนัสได้ดี


ชื่ออื่นของ เหงือกปลาหมอ :  แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
รูปภาพของ YupSinFa

ตำรายาเหล่านี้มีประโยชน์

                 ไหงดีใจมากที่ได้รับตำรายา มาจาก อาปักโกสิ่ว นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ไทย หรือ ฮากกา แถมมีผู้รู้ อีก หลาย ๆ ท่านมาช่วย เติม ช่วยเสริม

                 เหล่านี้ทั้งหลายทั้งปวง สมควรยิ่ง ที่พวกเราคนรุ่นหลังต้องบันทึกไว้ให้รุ่นต่อ ๆ ไปได้ใช้ประโยชน์ มิให้ สูญหายครับ

รูปภาพของ tonkla

ยาจีน

ไม่ค่อยมีความรู้ด้านยาจีนมากเท่าไร เอ่อ แล้วต้นไม่ที่เอามาโพสนี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ เพิ่งเห็นที่นี่ครั้งแรกค่ะ อาโกสิ่ว เป็นอะไรกับคุณอายับสินฝาค่ะ หนูเคยเห็นในกระทูที่นี้นี่ล่ะค่ะ เห็นคุณลุงสูงวัยท่านหนึ่ง หนูจำได้ แต่ดูแล้วอาโกสิ่วแข็งเเรงมาก ต้องมีเคล็ดลับ ต้องมีเคล็ดลับ เดี๋ยวหนูจะเอาไปบอกพ่อหนูบ้างค่ะ

 

รูปภาพของ YupSinFa

ตอบน้องtonklaเรื่องโกสิ่ว

อาโกสิ่ว อายับสินฝ่าต้องเรียกท่านว่า อาปัก(ลุง) หนูต้องเรียกท่านว่า อากุง (คุณปู่-คุณตา) โกสิ่ว เป็นชาวไทยเชื้อสายฮากกาที่โด่งดังมากเมื่อ ราว 30 ปีก่อน ท่านเกิดที่พิษณุโลก แล้วย้ายมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เชียงใหม่มาจนถึงทุกวันนี้

อยากรู้ว่า โกสิ่ว เป็นอย่างไร ขอให้เปิดเข้าไปอ่านที่ "เรื่องราวของ โกสิ่ว" (ควรค่าน่าอ่าน)  ที่อายับสินฝ่าเขียนไว้เมื่อหลายวันก่อน เพื่อจะได้ความรู้รอบตัวและมีแรงบันดาลใจ

มีรูปภาพของน้องชิงชิงถ่ายคู่กับ อากุงสิ่วด้วยนะ

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal