หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ขอแสดงความเสียใจ กับพี่น้องที่ประสบอุทกภัย

รูปภาพของ อาฉี

จากเหตุการณ์ที่พี่น้องได้ประสบกันอย่างทั่วถึง ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม คงทำให้พี่น้องยากลำบากกันไม่น้อย ถือเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ของประเทศ ก็ขอแสดงความเสียใจกับทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย

เท่าที่ทราบก็มีเพื่อนสามชิกที่น้ำบุกถึงในบ้านไปแล้วก็มีหลายท่าน  เช่น ท่านสิทธิพร ดร.ผิง  อ.paul ท่านแจวชิ้นสุ้ย เป็นต้น และอีกหลายๆ ท่านก็อยู่ระหว่างรอลุ้น กันอยู่

หากท่านใดที่กำลังประสบภัย หรือมีประสบการณ์ทางรอด มาบอกเล่า คำแนะนำ หรือช่วยเหลือกันได้อย่างไร ก็มาร่วมแชร์กันนะ

สำหรับบ้านไหงไม่เคยท่วม แต่เคยผ่านประสบการณ์มาบ้าง ตอนไปช่วยเหลือฟื้นเครื่องจักรในโรงงานสมัยใต้ฝุ่นเกย์(ชุมพร) และไปช่วยเหลือหลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่แพร่ (ประมาณปี 38 มั่ง) ทันทีที่น้ำลดในรอบแรก แต่กลับไปติดเสียเอง เพราะมันมาท่วมซ้ำอีกรอบ  ก็ขอบอกเล่าเฉพาะส่วนที่รู้นะครับ

 

ภาวะน้ำท่วม ต้องการ น้ำดื่ม อาหารที่รับทานได้สะดวก ยารักษาโรค และถ้าไม่ได้อยู่ที่บ้าน ผ้าขาวม้า ก็เป็นผ้าสารพัดประโยชน์จริงๆ

ถ้าไฟดับ นอกจากควมเงียบ ความมืด และขาดข่าวสารจากโลกภายนอก มาเยือนแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกจนลืมนึกจะขาดหายทันที เช่น หม้อหุงข้าว  การช๊าตโทรศัพท์  ถ้าเตาแกสยังใช้งานได้ก็พอทน ไม่งั้นจะต้มมาม่ายังยากเลย ปั้มน้ำไฟฟ้าที่เตรียมไว้ก็หมดสิทธิ์ สิ่งที่พึ่งได้ กระบวยตักน้ำ ไฟเช็ก/ไม้ขีด  เทียนไข  ไฟฉาย และแบตเตอรี่/ถ่านไฟฉาย ก็ได้ใช้กันละคราวนี้

เครื่องมือช่างก็จำเป็น ก็ควรมีไว้บ้าง เช่น มีด ไขควง คีม ค้อน ตาปู เชือก เทปกาว น้ำมันสารพัดประโยชน์(โซเน็ก) และของใช้จำเป็นส่วนตัวอื่นๆ เท่าที่หาได้ ถึงใช้ไม่เป็น คนที่มาช่วยฉุกเฉินอาจใช้เป็นก็ยังดี มีไว้ไม่เสียหลาย เช่นผูกราวตากผ้า หรือ อย่างน้อยก็ใช้คีมไขควงเปิดปลากระป๋องกินมาแล้ว ใครจะไปรู้ว่ายามจำเป็นที่คาดไม่ถึงจะเจออะไรบ้าง  และวัสดุอื่นๆเท่าที่หาเตรียมไว้ได้ เช่น ถุงพลาสติกน้อยใหญ่ ยางรัดของ พลาสเตอร์ ยาฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ฉุกเฉินอื่นๆ เท่าที่จะนึกออก คิดว่ามีเหลือ ดีกว่าไม่มีใช้ในยามจำเป็น

งานหนัก ก็คือการขนของหนีน้ำ และการเก็บล้าง ซ่อมบำรุงหลังน้ำลด ส่วนที่หนักใจก็คือการรอลุ้น กับภาระที่ต้องแบกอยู่ ทั้งทรัพย์สิน และลูกสมุน คาดหวังมาก/ไม่คาดหวังมาก ทำให้เหน่อยใจเปล่าๆ (ลุ่นไม่ลุ่นก็ไม่ทำให้น้ำขึ้นน้ำลดมากขึ้นได้) เก็บแรงละกำลังสมองไว้ใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันข้างหน้าดีกว่า  ถ้าเกรงว่าไม่สามารถทำไหวได้ทุกสิ่ง ก็ต้องเลือกลำดับความสำคัญ สิ่งใดไหว ไม่ไหวอย่างไรก็ต้องตัดใจ ไปทำที่สำคัญอื่นๆ ท่าที่ทำได้ก่อน เช่น   เอกสารสำคัญและทรัพย์สินที่มีราคา หาใหม่ไม่ได้อีกแล้ว จุ่มน้ำแล้วต้องทิ้งเลย ให้เก็บมาก่อน

กระสอบทราย และวัสดุกันน้ำต่างๆ จะใช้ได้ดีก็ต่อเมื่อ มันมีความแข็งแรงพอ สูงกว่าระดับน้ำที่ยังไม่รู้ว่ามาค่ไหน และต้องใช้คู่กับอุปกรณ์วิด/สูบ น้ำออกเพราะเมื่อมันเข้ามาได้ทีละน้อยไม่กำจัดออกไม่นานก็ท่วมเหมือนข้างนอก และอย่าลืมอุดรูท่อน้ำทิ้ง และโถส้วม ถ้าน้ำข้างนอกสูง มันจะเป็นท่อน้ำเข้า ไม่ใช่ท่อน้ำออกอีกต่อไป

เต้าไฟฟ้าที่อยู่ต่ำ ถ้าตัดไฟเฉพาะชั้นล่างได้ก็ควรทำทันทีก่อนน้ำมา
แต่ระวังพวกสวิชต์บันได ที่เปิดจากข้างล่างข้างบนได้ ถึงตัดไฟชั้นล่างไปแล้ว บางทีมันยังมีไฟอยู่ก็ควรระวังด้วย ถ้าเป็นบ้านรุ่นเก่า ที่ไม่ได้แยกไฟแต่ละชั้นเอาไว้ ให้ตัดที่เมนคัดเอาท์ไปเลย แล้วต่อสายพวงขึ้นไปใช้ชั้นบน ให้คิดว่า ชีวิตสำคัญกว่าความสะดวก หลังน้ำลดควรเปิดฝาเต้าเสียบไฟที่เคยจมน้ำมาดูว่ามีเศษขยะ/สัตว์ที่ไม่ตั้งใจเลี้ยง ติดอยู่หรือไม่ ใช้แปรง/ภู่กัน ปัดให้สะอาด ฉีดโซแน็กเคลือบไล่ความชื้นกันสนิมไว้บ้างก็ดีก่อนสับคัดเอาท์ขึ้น ถ้าไม่เช็กก่อน ปลักนี้อาจช๊อตตอนสับคัดเอาท์ พังแค่ปลักไม่เท่าไหร่ แต่อาจถึงขั้นสายที่ฝังอยู่ภายในผนัง ชำรุดหลอมละลาย ละบานปลายกันใหญ่

 

ส่วนพวกของหนักเกินกำลัง หรือกินที่วาง(ที่เหลือน้อย) ก็ต้องตัดใจแต่ยอมให้เสียน้อยที่สุด


เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรต่างๆ
ถ้าไม่มีที่ไว้ ยกไม่ไหว ค่าซ่อมหลังคนแบกแพงกว่าค่าเครื่อง ก็ทำใจ ถอดปลักไว้ ปล่อยแช่น้ำไปเถอะ สงวนที่ไว้ และแรงงานไปเก็บของที่สำคัญกว่า หรือยังพอทำได้แทน ให้พิจารณาดูโครงสร้างเป็นหลัก เช่น

  • พวกเป็นเหล็กหล่อ พลาสติก โครงสร้างหนัก กลไกลต่างๆ ส่วนใหญ่ ล้าง ตาก/อบ แล้วก็ใช้งานได้เหมือนเดิม 
  • ส่วนที่มีมอเตอร์ แผงแม็กเนติกคอนโทร ถอดได้ก็ดี ถอดไม่ได้ก่อนท่วม หลังแช่น้ำ(ถ้าไม่นานเป็นเดือนๆจนสนิมกินฉนวนร่อน) ค่อยถอดมาล้างอบแห้งตรวจดูตลับลูกปีน แปรงถ่าน คอนแทรกสวิชต์ ส่วนใหญ่ไม่เสีย ใช้งานได้
  • ส่วนพวกตู้ชั้นไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ส่วนที่ไม่ใช่โลหะ อัลลอย กระจก หรือพลาสติก เชื่อได้เลยว่าแช่น้ำนานเมื่อไหร่ เสียรูปแน่นอน อาจจะเหลือแต่โครง ผ้าบุ และกระจกยังใสปิ้ง (ถ้าไม่แตกเสียก่อน) แต่กระจกเงาถ้าด้านหลังกระจกชุ่มน้ำนานอาจกลายเป็นกระจกใส
  • แผงคอนโทรไฟฟ้าและเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่เสียบปลัก และไม่มีแบตเตอรี่ค้างอยู่ในวงจรก่อนแช่น้ำ มีโอกาสรอดค่อนข้างสูงเหมือนกัน (แต่เครื่องมี่ทีมีระบบไมโครคอรโทรเลอร์ ที่จำโปรแกรมได้ และวงจรนาฬิกามักมีถ่านอยู่ภายใน) เมื่อไม่ใช่ช่างรู้ได้ไงว่ามีถ่านแช่อยู่ในวงจรหรือเปล่า ก็ควรเลี่ยงการถูกแช่น้ำได้เป็นดีกว่า เพราะถึงไม่เสีย แต่มีโอการรวนจากความชื้นก็ยังมี ดังเช่น มือถือถ้าน้ำหรือความชื้นเข้าเครื่องเมื่อยังมีแบตอยู่มักไม่รอด

ดังนั้น จากข้อพิจารณาข้างบน พอบอกได้ว่าถ้าน้ำมายังเสียบปลักอยู่โอกาสรอดน้อย (ทั้งเครื่องทั้งคน) ควรถอดปลัก หรือตัดสาย ยังพอมีโอกาสรอดสูงพอสมควร

  • เครื่องเสียง วิทยุ TV Computer และเครื่องอิเลคทรอนิกส์ พวกนี้สมควรกลัวน้ำ แต่เครื่องพวกนี้ขนาดมักพออุ่มไหว
  • ตู้เย็น ตู้แช่ พวกนี้วงจรน้ำยาเป็นระบบปิด ถ้าไม่ขึ้นสนิมผุเสียก่อน มักไม่เสีย อย่างมากก็พังที่เทอร์โมสวิชต์เพราะสิ่งสกปรก เป็นสนิมในตัวสวิชต์ หรือ C ความชื้นเข้า ซ่อมเปลี่ยนนิดเดียว หรือแค่ขัดล้างหลอดน้ำมันพัดลม ก็ใช้ได้ ยกเว้นพวกมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมแบบหรูๆเท่ๆ ถ้าน้ำขึ้นไม่ถึงแผงวงจร (มักอยู่สูงระดับปุ่มกดฟังก์ชั่นต่างๆ) ก็ยังพอรอด
  • คอมเพรเซอร์ แอร์ ตั้งพื้น หลักการเป็นระบบปิดคล้ายตู้เย็น จึงอึดน้ำพอสมควร จุดที่ต้องดูแล ล้างหยอดน้ำมันก็มีเฉพาะมอเตอร์พัดลม แช่ไม่นาน อบ/ผึ่งแห้ง ก่อนมักใช้งานได้ แต่พวกรุ่นใหม่ๆ ที่มีวงจรอิเล็กทรอนิกควบคุม ถ้าส่วนแผงวงจรที่อยู่ภานในเครื่อง ถูกจุ่มน้ำขณะไม่มีไฟ แล้วล้างทำความสะอาด ทำแผงให้แห้งสนิทก่อนใช้งาน โอกาสรอดสูงถึง 80% แต่ถ้าไม่ล้างก่อน ท่วมน้ำที่ไม่เค็มนัก รอแห้งจริงๆก่อนใช้ก็รอดก็สูงอยู่ แต่จะไม่รวนอีกนานไหมไม่รู้ 50-50 แต่ถ้ามันยังไม่แห้งดี แล้วยังจ่ายไฟไป ถ้ารอดซื้อหวยได้เลย มีโอกาสพอกัน
  • เครื่องซักผ้า มีมอเตอร์อยู่ล่าง (แต่อึดน้ำได้พอสมควร ควรล้าง อบ/ฝึ่งแห้ง หยอดน้ำมันก่อนใช้งาน) แผงควบอยู่บน(แถวปุ่มกด) ถ้าน้ำสูงสุดขนาดครึ่งค่อนถัง ยังมีโอกาสรอด
  • เตาแกส มักจุ่มน้ำได้ไม่เสีย แต่เอาขึ้นไปไว้ใช้งานน่าจะมีประโยชน์กว่ามั่ง
  • รถยนต์ถ้าเตรียมก่อนได้เช่นไว้ที่สูง ห่อรองถุงพลาสติก ผ้าใบ ทำได้ก็ดี แต่ถ้าท่วมแล้ว คงไม่มีปัญญาขับหนี หรือห่อถุง ทำได้แค่หนุนสูง ด้วยเหล็ก 3 ขา อิฐ กระสอบทราย ก็ว่ากันไป แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดี ครึ่งล้อแล้วยังมาอีก ทำใจว่าท่วมแน่ ให้ถอดขั๋วแบตเตอรี่ออกก่อน วิทยุเครื่องเสียงรถ บางรุ่นถอดออกง่าย (แค่แกะหน้ากากแล้วชักตลับออกได้เลย) น้ำลดแล้วแค่ทำความสะอาด ล้างเครื่อง ประกอบคืนเท่านั้น อาจไม่มีอะไรเสียหายมากนัก

นอกนั้นยังนึกไม่ออก ท่านใดมีประสพการดีๆ หรือท่านใดพบอุปสรรคอยู่ก้แชร์กันนะ เผื่อปัญหานั้นมีทางออก ดูคลิปที่ คณะสถาปัตยฯ มจธ. เขาทำมา สื่อภาพชัดเจนดี


รูปภาพของ YupSinFa

เป็นห่วงทุักท่านที่น้ำท่วมบ้าน

     ไหงอยู่เชียงใหม่ ไม่ได้พบกับปัญหาน้ำท่วมเหมือนคนทางภาคกลาง วันนี้ กำลังคิดว่าจะโพสต์ข้อความส่งความห่วงใย ถึงไท้ก๋าหยิ่น ที่ประสบภัยน้ำท่วม พอดีเห็นอาฉีโกเธอโพสต์่ขึ้นมาแล้ว จึงได้รีบแจมทันที

     หลักใหญ่ใจความของไหง่ คืออยากจะส่งข้อความไปยังทุกท่านที่อยู่กรุงเทพฯ และพื้นที่น้ำท่วมทุกจังหวัด ว่า ไหง ยับสินฝ่า ผู้ที่ไม่เดือดร้อนเรื่องปัญหาอุทกภัยครั้งนี้ มีความเป็นห่วงสมาชิกทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง แต่ ณ เวลานี้ เราได้แต่หวังว่า ความเลวร้ายในสถานการณ์ครั้งนี้ จะผ่านพ้นไปในเร็์วว้ัน แล้วเมื่อถึงวันนั้น อาจจะมีการกระทำในกิจกรรมของพวกเรา อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเป็นการแสดงถึงความห่วงใย และน้ำใจไมตรี ที่มีต่อเพื่อน ๆ สมาชิกชุมชนฮากกาที่รักยิ่งของเรา แห่งนี้

     ขอส่งกำลังใจไปให้ท่านทั้งหลายที่ลำบาก และกำลังจะลำบาก ทุก ๆ ท่าน อาทิ

     อาโกสิทธิพร

     แจวชิ้นสุ้ยโก

     หยางจือหยีโก

     กิ๋มหมิ่นโก

     อาโกอาคม

     ล่ำเซ็นโก(zhongkongmanbu)

     ฉีัเหมืองฝาโก

     หยางจือหยีโก

     อาโกสมศักดิ์

     แกว้นโก

     หว่องลี่ผิ่น (ดร.ศิิริเพ็ญ-น้ำท่วมบ้านแยอะมากแล้ว)

     และทุก ๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม

     ขอเป็นกำลังใจให้จนถึงที่สุดครับ

 ยับสินฝ่า.

กิดตึงขันโตก...

             ขันโตกเจียงใหม่เป็นจังใด๋ กิ๋นแฮ้วทําฮื้อให้ฮักกา 2 ปี้น้อง เป๋นนายกฯ ตั้งจ้วยฮื้อคนหนําท่วมคลายทุกข์โตย ขอบใจ๋ปี้มากๆที่จ่วยฮื้อกําลังใจ๋! แฮ้วอย่าติ้งกันเน้อ แวะเข้าม๋าแอ่วกับฮาพร่อง?

รูปภาพของ วี่ฟัด

น้ำท่วมกรุงเทพฯแต่ที่ราชบุรีคึกคักมาก

          ไหง่สังเกตุว่าเมื่อสัก 3 - 4 วันนี้จังหวัดราชบุรีคึกคักมากเป็นพิเศษมีรถมากกว่าปรกติมากมายหลายเท่า ขนาดในตัวเมืองรถติดผู้คนก็มากมาย ทราบว่ามีคนกรุงเทพฯมากมายได้อพยพมาอยู่ในจังหวัดราชบุรี โรงแรม อพาทเมนต์ หอพัก ทั้งหลายแหล่เต็ม 100% ทั้งๆที่ขณะนี้มีคนต้องการห้องพักอีกมากกำลังรอคิวอยู่ อาหารการกินก็ขายดีมากๆ ไหง่จึงขอรายงานการเป็นไปอันเกี่ยวเนื่องจากมหาภัยอุทกครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศชาติในครั้งนี้

รูปภาพของ วี่ฟัด

ขอร้องเถอะราชบุรีชักจะคึกคักมากไปแล้ว

        ขณะนี้กลุ้มใจมากที่สุดว่าราชบุรีซึ่งเดิมเคยเป็นเมืองสงบสุขดำเนินสถานะภาพแห่งความพอเพียง ไม่ละโมบโลภมากเหมือนกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันมันมีแต่ความวุ่ยวาย รถยนต์มากมาย ผู้คนมากมี คิดๆไปชักจะไม่ค่อยน่าอยู่แล้ว ไม่อยากเป็นคนกรุงเทพฯเลยนะจะบอกให้ เพราะรับสภาพแห่งความสับสนผู้คนชอบสับขาหลอกกันไปมาไม่ได้ เมื่อไรราชบุรีจะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกนะ ขอร้องเถอะราชบุรีชักจะคึกคักมากไปแล้วนะเรา

รูปภาพของ นายวีรพนธ์

ไปอยู่พังงาซิ จังหวัดที่ประชาชน อยู่แล้วเป็นสุขมากที่สุด

  สำรวจจังหวัดน่าอยู่ สุพรรณบุรี อุตรดิตถ์ พังงา สุโขทัย เพชรบูรณ์ ติดอันดับ ไม่น่าเชื่อภูเก็ตที่โหล่ ขณะที่นราธิวาสอยู่แล้วรู้สึกกลัวอาชญากรรม น่าวิตกคนไทยสมัยนี้เห็นการคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดา

          นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน (Academic Network for Community Happiness Observation and Research, ANCHOR) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องจัดอันดับความรู้สึกของประชาชนต่อจังหวัด “อยู่แล้วเป็นสุข” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ใน 77 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 42,538 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2554
 
 ผลสำรวจพบ 10 จังหวัดที่ประชาชนรู้สึกว่า อยู่แล้วเป็นสุขมากที่สุด คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้แก่

อันดับที่ 1 ได้แก่  จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีคะแนนความรู้สึกอยู่แล้วเป็นสุขเฉลี่ยอยู่ที่ 7.83 คะแนน 

อันดับที่ 2  ได้แก่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ 7.66 คะแนน 

อันดับที่ 3  ได้แก่ จังหวัดพังงา ได้ 7.56

อันดับที่ 4 ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย ได้ 7.50

อันดับที่ 5 ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ 7.44 รอง ๆ ลงไป ได้แก่ จังหวัด สตูล บุรีรัมย์ พิษณุโลก สระแก้ว และพะเยา ตามลำดับ
       
 สำหรับ 5 จังหวัดสุดท้ายที่ประชาชนรู้สึก “อยู่แล้วเป็นสุข” ได้แก่

อันดับที่ 73 ได้แก่ จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ 6.45 คะแนน 

อันดับที่ 74  ได้แก่ จังหวัด กระบี่ ได้ 6.41 คะแนน 

อันดับที่ 75 ได้แก่ จังหวัดสระบุรี ได้ 6.40 คะแนน

อันดับที่ 76 ได้แก่ จังหวัดสงขลา ได้ 6.32 คะแนน 

อันดับที่ 77 ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ได้ 5.64 คะแนน
      
          เมื่อสอบถามถึงความรู้สึกหวาดกลัวต่ออาชญากรรม พบว่าประชาชนใน จังหวัดนราธิวาส รู้สึกหวาดกลัวต่ออาชญากรรมมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 6.92 รองลงมาอันดับที่สอง ได้แก่ ระยอง ได้ 6.40 อันดับที่สาม ได้แก่ สมุทรปราการ ได้ 6.38 อันดับที่สี่ ได้แก่ ปัตตานี ได้ 6.24 อันดับที่ห้า ได้แก่ นนทบุรี ได้ 6.19 อันดับที่หก ได้แก่ นครพนม ได้ 6.13 อันดับที่เจ็ด ได้แก่ สิงห์บุรี ได้ 6.07 อันดับที่แปด ได้แก่ อุดรธานี ได้ 6.04 อันดับที่เก้า ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และจังหวัด อ่างทอง ได้ 5.92 เท่ากัน

          นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 52.7 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ ร้อยละ 12.3 ระบุไม่แน่ใจ และมีเพียงร้อยละ 35.0 ที่ไม่คิดเช่นนั้น เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการทุจริตคอรัปชั่นในการทำธุรกิจจำแนกตามเพศ พบว่าเพศชายและเพศหญิงคิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นในการทำธุรกิจไม่แตกต่างกัน โดยเพศชายร้อยละ 54.0 เพศหญิงร้อยละ 51.7 ตามลำดับ
       
           เมื่อจำแนกตามกลุ่มอายุ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปคิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ โดยร้อยละ 56.7 อายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 56.3 อายุ 40-49 ปี และร้อยละ 56.2 อายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 47.0 อายุ 20-29 ปี ในขณะที่ร้อยละ 38.9 อายุต่ำกว่า 20 ปี
       
         จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมีเพียงร้อยละ 37.4 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ ร้อยละ 15.0 ระบุไม่แน่ใจ ร้อยละ 47.7 ไม่คิดเช่นนั้น ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรีเกิน ครึ่ง หรือ ร้อยละ 54.1 ต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 51.2 ระดับปริญญาตรี คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ
       
          จำแนกตามอาชีพ พบว่าผู้ประกอบอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว และกลุ่มข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจเกินครึ่ง หรือร้อยละ 55.9 และร้อยละ 50.8 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นักเรียนนักศึกษาร้อยละ 42.2 ไม่คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดา

          จำแนกตามภูมิภาค พบว่าผู้ที่พักอาศัยในภาคกลางร้อยละ 60.2 คิดว่าการทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ รองลงมา กรุงเทพมหานครร้อยละ 55.5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 54.7 ภาคเหนือร้อยละ 46.1 และภาคใต้ร้อยละ 41.8 ตามลำดับ

          ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชนกล่าวว่า หลายจังหวัดของประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง มีคนรวยพักอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่ประชาชนธรรมดาทั่วไปโดยรวมกลับมีความรู้สึก “เป็นสุข” น้อยกว่าจังหวัดอื่นๆ ของประเทศ จึงเป็นข้อมูลที่นักพัฒนาและผู้บริหารประเทศน่าจะนำไปประกอบการตัดสินใจเชิง นโยบายเพื่อหาแนวทางเพิ่มดัชนีความสุขของประชาชนระดับพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศ นอกจากนี้ ผลสำรวจครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าทัศนคติอันตรายต่อการทุจริตคอรัปชั่นกำลัง ไปอยู่ในกลุ่มเด็กเยาวชนนักเรียนนักศึกษาจำนวนมาก และเป็นปัญหาที่รัฐบาล กลไกหน่วยงานต่างๆ ของรัฐและภาคประชาสังคมต้องหาแนวทางช่วยกันทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปสู่การ พัฒนาที่ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืน

          "จึงเสนอให้พิจารณาใช้ 4 มาตรการควบคู่กันในการทำให้คนในจังหวัดอยู่เย็นเป็นสุขคือ มาตรการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีของคนในชุมชน มาตรการเพิ่มความโปร่งใสใช้งบประมาณพัฒนาด้วยการนำรายการใช้จ่ายเปิดเผยต่อ สาธารณชนในจังหวัดผ่านเว็บไซต์ วิทยุชุมชน ป้ายโฆษณาและเอกสารแจกจ่ายในหมู่บ้านชุมชนต่างๆ มาตรการการเพิ่มความเข้มงวดในการใช้กฎหมายควบคุมพฤติกรรมไม่ดีของคน และมาตรการไม่เลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การลงทุนประกอบธุรกิจ และปัญหาต่างๆ ของสังคม" ดร.นพดลกล่าว

         จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่าตัวอย่างร้อยละ 48.4 เป็นชาย ร้อยละ 51.6 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 4.1 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 20.6 อายุระหว่าง 20-29 ปี ร้อยละ 22.8 อายุระหว่าง 30-39 ปี ร้อยละ 21.7 อายุระหว่าง 40-49 ปี และร้อยละ 30.8 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 69.9 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 26.8 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 3.3 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 28.2 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 30.8 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 8.2 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 10.5 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 11.2 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 6.2 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ในขณะที่ร้อยละ 4.9 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ ตัวอย่างร้อยละ 30.0 ระบุรายได้ต่ำกว่า 5,000 บาท ร้อยละ 28.4 ระบุรายได้ 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 13.1 ระบุ 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 7.5 ระบุรายได้ 15,001-20,000 บาท และร้อยละ 21.0 ระบุรายได้มากกว่า 20,000 บาท

ที่มา ไทยโพสต์

 

รูปภาพของ อาฉี

เช็คสถานการณ์น้ำกัน

เช็ค/รายงาน สถานการณ์น้ำท่วม ตามรหัสไปรษณีย์

รูปภาพของ อาฉี

คู่มือ รับน้ำท่วม

มีประโยชน์ดีค่ะ

ขอบคุณอาฉีโกค่ะที่ได้หาสิ่งที่มีประโยชน์มาไว้ในชุมชนแห่งนี้ ถึงแม้มันจะแก้ไขครั้งนี้ไม่ทันแล้ว แต่ก็ไว้สำหรับโอกาสต่อๆไป ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่แสนแพงซึ่งใครๆก็ไม่ต้องการ เพราะว่าอุทกภัยครั้งนี้ทำเอาผู้คนจำนวนมากเดือดร้อนแสนสาหัส ในขณะที่คนบางคนบางกลุ่มก็ยังไม่วายฉวยวิกฤตเป็นโอกาส (ที่เบียดเบียนคนอื่น)ของตัว แต่ก็ช่างเถอะ บาปกรรมคงมีจริงเข้าสักวัน

ขอฝากภาพความทรงจำแห่งความเดือดร้อนไว้เป็นอุทาหรณ์สักภาพนะคะ

ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณบ่ายสอง บริเวณข้างบ้านไหง ซึ่งมีคนจากมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งมามอบข้าวกล่องเป็นอาหารกลางวัน สำหรับผู้ประสบภัยในซอยบ้านไหง

ระดับน้ำจากถนนโดยประมาณคาดว่า 1 เมตรหรืออาจจะมากกว่าเล็กน้อย 

 

ผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ ถ้าใครขยันเขียนบันทึก อาจได้ประสบการณ์ชีวิตที่มีค่ามาก ใครที่ประสบกับตัวเองคงจดจำไปอีกนาน แต่ถ้าได้ถ่ายทอดเป็นตัวอักษรยิ่งดีไว้ให้ลูกหลานเรียนรู้กันต่อไป

ขอขอบคุณทุกท่านในชุมชนที่ห่วงใย มีการสอบถามและส่งข่าวกันเป็นระยะ ทำให้รู้สึกว่าเป็นเหมือนญาติสนิทกันจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่อาสุกนภดลยังโทรมาถามข่าวคราว เอ๊นขักหงิน ฮากกาหงิน ไม่ทอดทิ้งกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ???

ด้วยความขอบคุณ

 黃丽萍

รูปภาพของ นายวีรพนธ์

รู้สู้น้ำท่วม ด้วยคน

 

รูปภาพของ วี่ฟัด

ประชุมฮากกามิตรสัมพันธ์เลื่อนแล้วจ้า

เที่ยงวันนี้ไหง่ได้ไปงานแต่งงานลูกสาวของกรรมการฮากกาอีกนั่นแหละ จึงได้ทราบว่าวันนี้ทางสมาคมฮากกาพิษณุโลก ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุมฮากกามิตรสัมพันธ์ ในวันที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2554 ได้แจ้งมายัง ฮากการาชบุรีว่า ได้ขอเลื่อนงานการประชุมดังกล่าวออกไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2555

ไหง่ว่าแล้วว่าจะต้องเลื่อนแน่ๆเพราะเหลืออีกเพียงสิบกว่าวันก็จะถึงงานแล้วก็ไม่รู้ว่าน้ำท่าจะลดลงเมื่อไร ยิ่งฮากกาอยุธยา และฮากกานครสวรรค์ กำลังอยู่ในระหว่างการสะบักสะบอมไปตามๆกัน จะมีกระจิตกระใจไปร่วมงานกันหรือ ดังนั้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้จึงเหมาะที่สมาคมฮากกาอื่นๆจะต้องไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและช่วยเหลือฮากกาอยุธยา และ นครสวรรค์ ซึ่งฮากการาชบุรีกำลังเตรียมการอยู่

พอเปิดเว๊ปชุมชนวันนี้ไหง่ตกใจมากที่เจอข้อความแรงๆว่า " ใจแคบ " บอกตามตรงว่าไหง่มิใด้สื่อว่าอย่ามาเลยราชบุรี แต่ไหง่อยากสื่อว่าเหตุการณ์น้ำท่วมน่าจะจบลงโดยเร็ว ราชบุรีจะได้กลับคืนสู่ความสงบเสียที มีคนราชบุรีพูดกันเยอะว่าทีนี้คอยดูซิว่าไอ้พวกนิคมอุตสาหกรรมต่างๆมันอาจจะเบนหัวมาทางนี้เพราะหนีน้ำท่วม ความเห็นของไหง่ส่วนตัวไหง่ว่าอย่ามาเลย ปัจจุบันนี้ราชบุรีก็ดีอยู่แล้วอย่าเอาความวุ่นวายมาเลย มิฉะนั้นอาจจะต้องท่องว่า " ที่นี่ขัดข้องหนอ ที่นี่วุ่นวายหนอ " คงจะต้องย้ายนิวาสสถานไปอยู่พังงาไปเสี่ยงเอากับซือนามิกับอาโกวีรพนธ์ก็ได้ครับไหง่ว๊า

รูปภาพของ tukta

สู้สู้นะพี่น้องเราชาวฮากกา

ถึงจะท้อ แต่อย่าถอยนะ  พยายามอย่าเครียดนะเอาใจช่วยทุกคนเลย 

อากอวีฟัดทางราชบุรีน้ำไม่ท่วม คนเขาเลยไปทำมาค้าขายที่นั่นแทนเพราะที่ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทย ขายของไม่ได้ ราชบุรีเลยคึกคักคักคึกไง

น้ำคงใกล้ลดลงแ้ล้ว ถ้าไม่ลด พี่่น้องเราคงได้ลอยกระทงกันในบ้านแน่เลย

สู้สู้ 

ผิ่นออน ซุนหลิ่ว

รูปภาพของ อาฉี

มาส่องดูสถานการณ์จากกล้อง CCTV กัน

สนใจดูภาพปัจจุบันจุดไหน คลิกที่รูป Icon กล้องตัวที่สนใจดูนะ

อุทกภัยที่รัก

ทุกอย่างบนโลกใบนี้ สามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้ารู้จักปรับทำใจให้ยอมรับให้เข้ากันได้ตัวไหงเองเป็นคนริมคลองมหาสวัสดิ์ตลิ่งชันตั้งแต่เกิดจนขณะนี้ อายุ 57-58ปีใกล้เกษียนเต็มทีแล้ว ก็ได้เริ่มเห็นน้ำท่วมบ้าน ท่วมทางมาตั้งแต่ปี 2508 แต่ไม่ทุกปีบางปีมาก บางปีน้อย บางปีหนัก บางปีเบา จนปี 2518 เป็นปีแรกที่น้ำท่วมสวนผักและถนนสวนผัก จากนั้นมา ปี2523,2526,2538,2544-45แล้วมาปีนี้ 2554 เป็นปีที่จัดว่าน้ำมากจะเห็นว่าปีที่มีน้ำมาก หางเลขท้ายเลขที่ออก จะเป็นเลข 8 เลข 9 แทบทั้งนั้น ฮะฮะฮะ ไหงไม่ได้ใบ้ให้ไปแทงหวยนะครับ เดี๋ยวจะมาด่าไหงว่าบอกให้ไปถูกหวยกิน

นับว่าปีนี้ เป็นปีที่สับสนกับข่าวสารและข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าวแต่ละแหล่งมากที่สุด เพราะมากันมากมายซะจนไม่รู้จะไปฟังใครถูกก็ไม่ต้องไปกล่าวอะไรใครให้มากเรื่องป่วยการเปล่า ๆ มันเละเทะซะจนขนาดนี้แล้ว ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเอง ไม่ว่าด้านไหน ๆ ป่านนี้ก็คงหนาวไปด้วย ร้อนไปด้วยในเวลาเดียวกันแล้ว

ตัวไหงเอง กับง้าล่อผอ รวมทั้งง้าล่าย เป็นคนพื้นที่นี้ทั้งหมดเห็นน้ำท่วมมาจนชินแล้ว คงไม่ได้ไปตื่นเต้นอะไรเหมือนคนบ้านจัดสรรค์แต่มาคิดว่าปีนี้น้ำมันมาพิเรนทร์กว่าทุกปี คือแทนที่จะมาในแม่น้ำ ลำคลองแต่นี่กลับมาจัดการให้น้ำลงมาล้นหลามเอ่อนองไปตามทุ่ง ตามบ้าน ตามชุมชนต่าง ๆเป็นที่สนุกสนานของผู้คน วิ่งไปทิศทางไหน ก็หวาดเสียวไปทิศทางนั้น จนสุดท้าย สวรรค์ไม่ได้ลำเอียงจัดไปให้ทุกหย่อมเหย้าด้วยความเสมอภาคกัน มากไปนิด น้อยไปหน่อย แต่ที่แน่ ๆได้ใช้เรือแทนรถกันถ้วนหน้า

ไหงพ่อ แม่ ลูก ก็ได้ตามข่าวสารมา มีเห็นว่าเตรียมตัวไว้แต่เนิ่น ๆ เถอะในเรื่องปัจจัย 4 อาหารการกิน น้ำท่าต่าง ๆ ของสดของแห้ง ห้องน้ำห้องท่า ก็ต้องทำขึ้นมาใหม่ชั่วคราว(เพราะในตัวบ้านไหง เป็นพื้นต่ำ)และปัจจัย 5 คือรถยนต์ต่าง ๆ หาที่จอดให้พ้นน้ำ

ถ้าเราเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ด้วยสติคาดการณ์ว่าน้ำจะสูงเท่าไร? จะท่วมอยู่กี่นาน ในระหว่างที่ท่วมจะทำอะไรได้บ้าง?ถ้าตัดน้ำ ตัดไฟ จะมีสิ่งทดแทนอะไรบ้าง? ตระเตรียมรับสถานการณ์ให้ดีที่สุดกะว่าน้ำมาก็ลำบากหน่อยตรงที่ไปไหนเดินทางยากขึ้นเท่านั้น นอกนั้นแล้วเรายิ้มสู้กับมัน พร้อมที่จะอยู่กับมันแล้วจะไปลำบากอะไรเล่า? จะต้องหนีไปไหนเล่า?

อยู่มันที่บ้านนั่นแหละ วัน ๆ งานก็ไม่ต้องออกไปทำ ซำบาย ย ย ย

ขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยครับ

สุดยอด

นับว่าอาก๊อ น่าจะเป็นตัวอย่าง ในการอยู่รอด เมื่อมีภัยน้ำท่วม นับถือ

รูปภาพของ YupSinFa

เป็นห่วงเมืองไทยที่รักมาก ๆ

สวัสดีครับ ไท้ก๋าหยิ่น โดยเฉพาะเพื่อน ๆ สมาชิกที่รักยิ่งทุกท่านที่กำลังอยู่ในภาวะประสบภัยน้ำท่วมอันแสนลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยในครั้งนี้

เวลานี้ไหงอยู่ในประเทศจีน กว่าจะกลับก็วันที่ 9 พฤศจิกายน มาครั้งนี้ มาที่ นครคุนหมิง ฉงชิ่ง แล้วก็ไป หนานจิง และเวลานี้ก็กลับมาที่คุนหมิงแล้ว

ก็เป็นการมาทำธุรกิจการค้าขายไทย-จีน และการท่องเที่ยว ที่เวลานี้ หลายสิ่งหลายอย่าง กำลังจะสุกงอมแล้วครับ โชคดีอีกอย่างหนึ่งคือ มีนักธุรกิจชาวเชียงใหม่จ้างให้มาจัดการหาสินค้าเข้าร้านของเขาที่เชียงใหม่ด้วย จึงเป็นการมาครั้งเดียวแต่ทำได้หลายงานที่ติดต่อไว้มาก

อยู่เมืองจีน คิดถึงเมืองไทยมาก โดยเฉพาะไท้ก๋าหยิ่น ในชุมชนของเรา ที่รักทุกท่านที่กำลังลำบาก ณ เวลานี้ เพื่อนชาวจีนทุกคนที่ได้พบเจอ ล้วนฝากความห่วงใยให้ประเทศไทยของเราผ่านพ้นมรสุมครั้งนี้ไปได้อย่างโดยเร็ว

อยู่ที่นี่ไม่ใช่สนุก และไม่สบายครับ อาหารการกินก็ลำบากมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะอาหารมัน และจืด ไม่คุ้นปากเหมือนอาหารแต้จิ๋ว-กวางตุ้ง ที่กลมกล่อมเหมือนบ้านเรา ที่สำคัญ คิดถึงอาหารไทย และข้าวเหนียวนึ่ง มาก

สิ่งที่ช่วยได้ก็คือ "มาม่าจีน" เอาแบบที่รสชาติเผ็ด คล้ายน้ำแกงไทย ก็พออยู่ได้

คิดถึงเมืองไทย ทั้งญาติพี่น้อง โดยเฉพาะ อาปา กับอาผอ ที่เวลานี้ก็ป่วยค่อนข้างมากหน่อย อีกทั้งเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเรา เป็นห่วง อาโกทั้งหลาย ที่อยู่กรุงเทพ เป็นห่วง ดร.ศิริเพ็ญ ห่วงมากจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ขอให้ข้อความของไหงชิ้นนี้ แทนความรัก ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใย และความคิดถึง ทุก ๆ ท่าน นะครับ ไท้ก๋าหยิ่น

ไหงมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย เกี่ยวกับการมาเมืองจีน รวมภาพประกอบที่อยากจะเขียนให้ไท้ก๋าหยิ่น อ่านกัน เพลิน ๆ คลายความเครียดเรื่องน้ำ ขอเวลากลับไปถึงบ้านแล้ว ค่อยเขียนให้อ่านกันนะครับ

จะร่ายเป็นตอน ๆ ในแต่ละครั้งที่มา แยกออกเป็น การท่องเที่ยว การติดต่อการค้า เอาเป็นเรื่อง ๆ ไปเลย

เวลานี้ การปฏิวัติซินไฮ่ ประเทศสาธารณรัฐจีน ก็ได้ผ่านมา 1 ร้อย ปี แล้ว เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไหงก็ถือว่า เป็นปีใหม่ ของปฏิทินซินไฮ่ ไหงจะขอถือโอกาสนี้กลับมาอยู่ใกล้ชิดไท้ก๋าหยิ่น เหมือนเดิม นะครับ

ขอให้วิกฤติการณ์ครั้งนี้ จงผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แล้วพวกเราทุกคน ต้องมาร่วมแรงร่วมใจ พัฒนาประเทศไทยที่รักยิ่งของเรา กันอย่างสุดความสามารถ ตามฐานะหน้าที่ของแต่ละคน

ไหงมีความคิดว่า ถึงเวลาแล้ว ที่เราคนไทยทุกหมู่เหล่า จะต้องหล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีแบ่งฝ่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะประเทศไทยของเราบอบช้ำมากเหลือเกิน ไหงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาระหน้าที่ ที่ไหงตรากตรำลำบาก ทำงานเพื่อครอบครัว คนที่รัก เพื่อนสนิท และสังคมประเทศชาติ จะได้มีความสำเร็จเสียที แล้วเราก็จะได้เป็นส่วนหนึ่ง ที่ร่วมสร้างชาติไทย ให้แข็งแรง กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง

     ขอเป็นกำลังใจให้ นายกรัฐมนครี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนบ้านเฮา รุ่นพี่ร่วมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ให้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้ผ่านพ้น

และขอเป็นกำลังใจให้กับอาโกทั้งหลาย อาจี้ทั้งหลาย ดร.ศิริเพ็ญ น้อง ๆ ทั้งหลาย หลาน ๆ และทุกทุกท่าน ที่อยู่กับน้ำ ขอให้นึกว่า ใช้เวลานี้ พักผ่อนหยุดยาวอยู่กับบ้าน ก็แล้วกัน ครับ

แล้วพบกันนะครับ

ยับสินฝ่า

อยู่ใกลจัง

ไหง่ไม่รู้ว่าหงีอยู่ที่เมืองจีน ไหง่โทรฯหาหลายรอบมีแต่ให้ ฝากข้อความ กลับมาแล้วคอยคุยกันไหม่

รูปภาพของ วี่ฟัด

ราชบุรีศูนย์กลางอพยพทางทิศใต้

        จากที่ไหง่เคยเล่าให้บรรดาญาติมิตรคนฮากกาในเว๊ปนี้มาแล้วว่าจังหวัดราชบุรี กลายเป็นศูนย์กลางของการอพยพทางด้านทิศใต้ เนื่องจากไม่ไกลจากกรุงเทพนัก เพียงไม่เกิน 100 กิโลเมตร และราชบุรีเป็นจังหวัดที่น่าจะปลอดภัยจากมหาภัยอุทกที่ใกล้กรุงเทพที่สุดทางด้านทิศใต้ และเป็นจังหวัดที่สบายๆ ไม่แออัดเหมือนทางจังหวัดชลบุรี คือเป็นจังหวัดที่ยังอยู่ในอุดมการณ์ที่สามารถเรียกว่าพอเพียง ยังได้อยู่ ไม่เหมือนทางชลบุรี ดังนั้นอาหารการกินทางราชบุรีจึงยังไม่แพงนัก

           พอมีคนอพยพมาอยู่กันมากๆรถเยอะคนแยะเลยทำให้การค้าการขายในราชบุรีพลอยดีไปด้วย ตามปั้มน้ำมันเขาบอกว่าขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ร้านอาหารทั้งหลายแหล่คนแน่น คนอพยพที่มาอยู่ราชบุรียังมีคนที่ลักษณะว่ายังขับรถมาทำงานในกรุงเทพและกลับราชบุรีแบบนี้ยังมีอยู่มากมายหากสถานที่ทำงานเป็นบริษัท ห้างร้าน หน่วยงานราชการที่น้ำยังไม่ท่วม และเส้นทางที่เข้าไปกรุงเทพในขณะนี้ไปได้เพียงถนนพระราม 2 ซึ่งมีจุดเริ่มต้น ตรงทางแยกวังมะนาว ในจังหวัดราชบุรี จังหวัดราชบุรีจึงสดวกด้วยประการทั้งปวงในขณะนี้  มีสำนักงานทางธุระกิจในกรุงเทพมากมายนะครับที่เขาอพยพย้ายมาตั้งอยู่ที่ราชบุรี เพราะสมัยนี้การติดต่อทางการค้าเขาติดต่อกันทางโทรศัพท์ และทางอินเตอร์เน็ต ดังนั้น ไม่ว่าอยู่ที่ใหนการติดต่อทางธุระกิจก็ไม่หยุดชงักแต่อย่างใด

           เมื่อประมาณสักหนึ่งสัปดาห์มานี้มีสมาชิกเว๊ปชุมชนท่านหนึ่งคือ " ป้าจี้ " ป้าจี้มีบ้านพักอาศัยอยู่แถวหนองแขม ฝั่งธนบุรีก็ได้กลายมาเป็นผู้อพยพมาอยู่ในจังหวัดราชบุรีเรียบร้อยแล้วครับท่าน โดยป้าจี้กับน้องชายของป้าจี้สองศรีพี่น้องได้มาพักอยู่กับเพื่อนของน้องชายป้าจี้ที่อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ป้าจี้เขาก็เกรงใจเจ้าของบ้านที่มาพักอยู่ด้วยเป็นอย่างมากพยายามหาบ้านเช่า แต่ก็ไม่สามารถหาได้เพราะในขณะนี้เต็มหมดแล้วครับในราชบุรี ไม่ต้องไปหาหรอกครับ ป้าจี้ลองไปดูตามศูนย๋อพยพต่างๆก็มีแต่คนเยอะมากเลยครับ อยู่ตามศูนย๋อพยพนี่ก็ดีนะครับมีอาหารให้ทานครบทั้งสามมื้อ มีการพาผู้อพยพไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดราชบุรี พอตกตอนค่ำก็มีการแสดงที่จัดโดยหน่วยงานองค์การท้องถิ่น อบต. , เทศบาล ผัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ความบันเทิงให้กับบรรดาผู้อพยพ เรียกว่าเอาใจกันสุดๆ

            น้ำท่วมครั้งนี้มันยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริงๆ ใครจะผิดจะถูกอย่างเอามาพูดในนี้เลยไหง่คิดว่าต่างคนต่างก็รู้ดีกันอยู่แล้ว คอยดูเถอะหลังน้ำลดอาจจะหาแพะกันให้ขวักไขว่ ไหง่ก็กลัวเหมือนกันว่าจะเอาไหง่ไปเป็นแพะด้วย ลองดูชื่อไหง่ซิ

             วี่ (ชิมฮัก )  = ยิ่งใหญ่ ไพศาล

             Flood ( ฝลัด) = น้ำท่วม

              วี่Flood ( วี่ฝลัด ) = น้ำท่วมยิ่งใหญ่ ไพศาล

              แต่ไหง่วี่ฟัดนะครับ ไม่ใช่ วี่ฝลัด เดี๋ยวจะมาหาว่าไหง่เป็นต้นเหตุของมหาอุทกภัยในครั้งนี้ ไม่อยากเป็นแพะครับ

รูปภาพของ ป้าจี้

ตอเชี้ยสมาชิกเวปฮากการาชบุรี

ป้าจี้กับน้องชายก็หนีนัองน้ำมาอยูุ่ที่บางแพ จ.ราชบุรีได้ประมาณสิบวันแล้ว ต้องขอบคุณสมาชิกเวปฮากการาชบุรีที่ให้ความเห็นใจและช่วยเหลือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคุณวีฟัดกะ อาจี้ยับแห่งสวนผึ้ง และคุณฉินซิ่วฉุก รวมทั้งเจ้าของกิจการครัวริมคลองที่บางแพ ที่ให้พักอาศัยอย่างสุขสบาย (ซึ่งทีแรกกะว่าจะไปอยู่ที่ศูนย์อพยพเหมือนกัน) ทำให้มีกำลังใจเหมือนมีญาติสนิทคอยดูแล ตอนนี้เริ่มปรับสภาพจิตใจดีขึ้นบ้างแล้ว  และขออภัยที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราชบุรีเปลี่ยนไป

รูปภาพของ ท้ายแถว

ทัพหลวงมาโอบแล้ว

ขอนำเสนอแผนที่น้ำท่วม Online อีกครั้ง
ครั้งที่แล้วจ่อกรุงเทพเพิ่งเป็นทัพหน้า ส่วนก้อนใหญ่ทัพหลวงนี้อยู่นครสวรรค์ อยุธยา

ภาพการเคลื่อนทัพเมื่อเดือนที่แล้ว สีฟ้าประปรายที่เห็นตอนเริ่มต้นเป็นแค่ทัพหน้า (ทัพหลวงฟ้าทึบเต็มพื้นที่) ซึ่งก่อนหน้านี้ปลาวาฬฝูงนี้อยู่แถวนครรสวรรค์(เหนือแผนที่ที่แสดง) กำลังหาทางกลับสู่ทะเล เดือนนี้ขอผ่านแวะเวียนช๊อปปิ้งในกรุงบ้าง หากช่วยกันกักเก็บไว้ก็อาจให้หาทางลงได้ช้า ต้องอยู่ช๊อปนานอีกหน่อย ก็ต้องอดทนกันต่อไปนะ พี่น้องสู้ๆ

 

วันนี้ยกทัพ หัวขบวน ได้มาโอบประชิด กท. แล้ว ก็ไม่ต้องตกใจ
เก็บของให้สูงๆไว้ปลอดภัยกว่า
เครียดไม่เครียดน้ำก็สูงเท่ากันทำใจให้สบายต้อนรับเทศกาลลอยกระทง
มาเยียมเยียนถึงบ้าน ขอให้มีสติ
จะได้มีสตาค์เหลือกินเหลือใช้ทั่วหน้านะครับ

มาดูทัพน้ำค่อนข้างปัจจุบันอีกหน่อยกัน ดีกว่า

รูปภาพของ อาฉี

มาดูระดับน้ำในคลองหลัก กันไหม

คลิกเลือกดูภาพระดับน้ำในคลองหลัก จากสำนักการระบายน้ำ

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal