หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ประเพณีท่องยมโลก

รูปภาพของ มะไฟ

ประเพณีท่องยมโลก

ประเพณีหนึ่งที่สำคัญของชาวขักหงินที่กำลังจะถูกเลือนหายไปกับกาลเวลาที่ผ่านไป หากไม่มีการบันทึกเก็บเอาไว้ คงไม่มีใครรู้จัก อาจเป็นตำนานที่เล่าขานโดยไม่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากการพูดคุยกับ อ.นพดล ท่านเห็นด้วยที่จะมีการบันทึกวีซีดีเอาไว้เป็นตำนาน นั่นคือ ประเพณี “ล็อกซ๊ำกู๊” การท่องยมโลก ซึ่งชาวขักหงินเราจะมีประเพณีการท่องยมโลก โดยในหนึ่งปี นับจากวันไหว้พระจันทร์ ไปภายใน ๑๕ วันจะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยมโลกจะเปิดให้ลูกหลานได้ไปเยี่ยมบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้วว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ขาดเหลืออะไรบ้าง ประเพณีนี้จะมีการทำกันในพื้นที่ตั้งแต่บ้านโป่ง ท่าเรือ ห้วยกระบอก  โดยส่วนใหญ่ลูกหลานผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปจะจัดทำพิธีนี้ เพื่อดูว่าผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปแล้ว อยู่สุขสบายดีหรือไม่ สิ่งที่ส่งไปให้ได้รับหรือไม่

พิธีนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณสองทุ่มไปจนเกือบสว่าง โดยผู้จัดพิธีจะต้องทำการไหว้และบูชาเทพเจ้าที่ดูแลยมโลก เพื่อขอเปิดประตูยมโลก โดยพิธีจะมีผู้นำพิธีที่เราเรียกว่า “ซ๊ำไน้” ซี่งเหมือนกับคนทรงเจ้า ทำหน้าที่ผู้นำทาง โดยผู้ที่จะร่วมทางจะเป็นใครก็ได้ที่ประสงค์จะไปท่องยมโลก ไม่มีจำกัด หลังจากบวงสรวงแล้ว จะให้ผู้ที่จะไปท่องยมโลก นั่งลงในที่ที่จัดไว้ แล้วเอาไถ่โป้ว พับเป็นสามเหลี่ยมมีธูปเสียบ

มาปิดที่หน้าแล้วตั้งสมาธิให้แน่วแน่ โดยซ๊ำไน๊จะเป็นผู้นำในการดึงจิตวิญญาณของผู้ร่วมทางไปทีละคน

ซึ่งเมื่อได้ผู้ร่วมทางแล้วก็จะเริ่มเดินทาง โดยระหว่างเดินทางไป จะต้องมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองไปเรื่อย ๆ เพื่อเปิดทาง เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ พบใคร หรือเจอบ้านใครก็จะเดินเข้าไปถามว่าผู้ที่อยู่ยมโลกนั้นชื่ออะไร ซึ่งหากมีลูกหลานของคนที่เจอ ลูกหลานก็สามารถถามความเป็นอยู่หรือความต้องการได้ หรือถามคนที่เดินทางไปว่าสภาพทั่วไปที่เห็นเป็นอย่างไร เคยมีเจอคนตายอยู่อย่างลำบาก ไม่มีเสื้อผ้าใส่ กินอยู่ลำบาก ลูกหลานก็จะทำพิธีส่งไปให้ภายหลัง บางทีคนที่ร่วมเดินทางไปพบพ่อแม่ ตัวเอง ก็จะเกิดอาการดีใจ ตื่นเต้นถามสารทุกข์สุขดิบกัน การเดินทางก็จะเดินทางไปเรื่อย ๆ โดยซ๊ำไน๊ จะกำหนดให้เดินไปทางไหน ทางไหนที่ได้รับอนุญาตให้ไปได้ ทางไหนไปไม่ได้ ซ๊ำไน๊จะเป็นผู้เจรจาขอเปิดทาง เพื่อจะได้เป็นการเยี่ยมไปให้ทั่ว ลูกหลานในโลกมนุษย์จะได้รู้สารทุกข์สุขดิบของญาติได้มาก ๆ โดยภายใน ๑๕ วันจะต้องท่องไปให้ทั่วให้ได้

เคยมีคนนอกมาทดลองลงไปท่องยมโลก โดยเป็นการลองของ ผลสุดท้ายเมื่อลงไป แม้จะพูดจีนไม่ได้ ก็จะมีคนที่ร่วมทางไปหรือซ๊ำไน๊ แปลให้ ซึ่งจากที่เคยดูมาและเคยร่วมพิธีด้วยตนเอง แปลกมากเมื่อออกมาแล้วหรือออกจากการเดินทาง เราไม่สามารถจดจำว่าเราไปเจออะไรบ้าง เคยเจออาม่าตัวเอง ปีหนึ่งท่านยังอยู่ พออีกปีไปไม่พบแล้วในบ้านหลังเดิมมีคนมาอยู่แทน สอบถามได้ความว่าท่านไปเกิดแล้ว นี่ฟังจากคนที่ร่วมชมพิธีเล่าให้ฟัง สิ่งที่ต้องระวังคือการเดินทางไปแล้วเข้าไปในเขตหวงห้าม ซึ่งเคยมีคนเข้าไป

จะไม่สามารถออกมาได้ ต้องมีการแก้ไขโดยซ๊ำไน๊จะต้องเจรจาต่อรอง และต้องส่งเงินทองไปไถ่ตัว ซึ่งกว่าจะออกมาได้ บางทีแทบจะสว่าง ซึ่งเมื่อออกมาได้จะหมดสติกว่าจะแก้ไขให้ฟื้นได้บางคนใช้เวลานานมาก

บางครั้งต้องไปนิมนต์พระจีน(แถวลูกแก) หรือถ้าไม่ได้ต้องนิมนต์พระไทยที่มีวิชามาช่วยแก้ไขให้  ซึ่ง ๑ ในพระไทยที่มีวิชาที่เรารู้จักกันดี ก็คือ หลวงปู่หลิว แห่งวัดไร่แตงทอง (พญาเต่าเรือน) คนปั้นซั้นขักเซี่ยงฉิน นั่นเอง ตอนนี้ซ๊ำไน๊ที่ยังทำพิธีได้มีน้อยมาก การบันทึกตำนาน อ.นพดล เห็นว่าเราควรรีบทำก่อนที่จะสายเกินไป ปีนี้ช่วงเวลาที่สามารถจัดพิธีได้คือช่วงวันที่ ๑๒ – ๒๗ กันยายน ๒๕๕๔ เท่านั้น เกร็ดของพิธีนี้ไหงจะขอมาเล่าเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง


รูปแบบการจัดสถานที่ในการทำพิธี

แบบการพับไถ่โป้วเสียบธูปที่ใช้ในพิธี


รูปภาพของ อาฉี

น่าสนใจครับ

เห็นด้วยที่ควรรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ช่วยกันบันทึกไว้ เพราะถ้าผ่านพ้นคนรุ่นเราไปแล้ว  คงหาตำนานต่างๆ จากคนรุ่นถัดไปได้ยาก หรือไม่ก็ต้องรอให้ลูกเราทำพิธี ล็อกซ๊ำกู๊ ถามไถ่เราอีกที  

แม้แต่ไหงเอง ในหลายเรื่องก็เหลือเพียงแค่เคยได้ยินว่า มีพิธีที่เป็นการละเล่นของคนในหมู่บ้าน (ของอาปาที่ถ่องซัน) อีกหลายอย่าง  ที่ขาดการบันทึกไว้ เช่น

การเชิญกระทิงเปลี่ยวมาเข้าร่าง แล้วขวิดกันหัวร้างข้างแตก พอออกจากพิธี แผลก็ประสานกันโดยเร็ว แต่ผู้เล่นจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในขณะนั้น

เชิญอุปรากรมาประทับร่าง ผู้เล่นบางคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่สามารถพูดแต้จิ๋วได้ กลับสามารถร้อง-รำ งิ้วแต้จิ๋วได้ อย่างคล่องแคล้วก็มี

การวิ้งโต๊ะหมุน โดยเอาถ้วยมาวางแล้วหงายโต๊ะวางบนถ้วย มีร่างสี่คน ยืนเหนี่ยวขาโต๊ะ แล้วเอาขาอีกข้างถีบพื้น ให้โต๊ะหมุนโดยเร็ว (ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จำไมไม่ได้แล้วว่าทำอย่างไร เพื่ออะไร ฤดูไหน)

ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมก็นำมาเติมเต็มให้กันนะครับ

น่าสนใจมากเลยครับ

อยากทราบว่าจะมีที่ไหนในประเทศไทยยังทำพิธีนี้อยู่มั้ยครับ แล้วครั้งสุดท้ายที่อากุงได้เห็นคือเมื่อไหร่ครับ ขอชื่อภาษาจีนกลางของพิธีนี้ได้มั้ยครับ ผมอยากดูมากๆเลยครับ

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal