สวัสดีครับ
ไหงเป็นคนจีนแคะสมาชิกใหม่ ชื่อ พล ชื่อจีน Huang wei ming อยู่นนทบุรี ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย สอนทางด้านวิศวกรรม
ไหงอยากเข้าสังคม คบค้าสมาคม มีมิตรเพื่อนพ้องได้รรู้จักคนจีนแคะด้วยกัน เป็นเครือข่ายพี่น้องขักหงิน คนแคะด้วยกัน หรือมีสิ่งใดที่เราจะช่วยท่านได้ ปรึกษาหารือก็ได้ครับ
ขอฝากตัวด้วยครับ
coconutextra@gmail.com
ยินดีครับ
ยินดีต้อนรับ อาจารย์พล ครับ.
ยินดีต้อนรับครับอาจารย์
ยินดีต้อนรับอาจารย์ด้วยครับ เราจะมีนักวิชาการเพิ่มอีกคน
สวัสดีครับหวงเว่ยหมิงซินซาง
ไม่ทราบว่าท่านใช้ชื่อจีนตามที่ออกเสียงในพินยินว่า หวงเว่ยหมิง ตามนี้หรือปล่าวครับ 黄 为 明 ถ้าผิดก็ขออภัยด้วยครับ แซ่ฮวาง ถ้าถูกต้องตามนี้ แปลว่า แซ่เหลือง ภาษาฮากกา ออกเสียงว่า หว่อง ครับ อักษรตัวนี้ ออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า หวาง 王 มาก เพียงแต่ ฮวาง หวง ของอาจารย์ จะออกเสียงฮ. มากกว่า หรือไม่ก็หวางตัวหลัง ภาษาไทยเขียนเป็น หวัง ไปเลย ง่ายกว่าและชัดเจนกว่ามาก
เข้าใจว่าอาจารย์ น่าจะเป็น หว่องซินซาง นะครับ
ชุมชนของเรา มีกระบี่ไร้เทียมทาน มากมายหลายท่าน แต่ละคนก็ล้วนเยี่ยมวรยุทธ์ กันไปคนละแบบ คนละแนว แถมยังมี นักวิทยายุทธ์ฝีมือยอดเยี่ยมแห่งสำนักง๊อไบ๊อยู่ที่ลำปาง อีกนางนึงนะครับ สุภาพสตรีท่านนี้เป็นนาง(ไม่ใช่มาร) ที่ดีงาม และเยี่ยมวรยุทธ์มากท่านนึงครับ ส่วนท่านสุภาพบุรุษแต่ละท่าน ่ล้่วนฝีมือปราดเปรื่องในยุทธจักรกันทั้งนั้นครับ ขอให้ท่านซินซาง(ฮากกานิยมเรียกอาจารย์ว่า "ซินซาง" แต่ปัจจุบัน ซินซางในภาษาฮากกา หรือ เซียนเซิง ในภาษาจีนกลาง หมายถึง มิสเตอร์ ครับ) ได้โปรดสังเกตกระบวนท่า วรยุทธ์ ของท่านต่าง ๆ เอาเองครับ มีทั้งบุ๋น และ บู๊ ครับ สำหรับไหง คงถนัดทางด้านบุ๋นมากกว่าครับ อิอิ.
คนจีนแคะ ของเรา (อาจารย์พิมพ์เป็นจีนแคระ ไม่น่าจะถูกนะครับเพราะตรงกับคนแคระในภาษาไทยกลาง) ถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง จะต้องเรียกว่า จีน ฮาก ครับ ส่วนคำว่า กา แปลว่า บ้าน หรือ ครอบครัว ในภาษาจีนกลาง ฮากกา ออกเสียงว่า เค่อเจีย ครับ ส่วน แคะ นั้น เป็นภาษาจีนแต๊จิ๋วที่ใช้เรียกพวกเราครับ ในไทยมีแต๊จิ๋วมากที่สุดในโลก ภาษาแต๊จิ๋วจึงมีอิทธิพลมากในสังคมไทย
พวกเราเรียกตัวเองว่า ฮากกา ซึ่งก็คือ ครอบครัวของชาว ฮาก และเรียกกันอย่างนี้เรื่อยมา จนคำว่า ฮากกา กลายเป็นคำสากลของพวกเราไปเสียแล้วครับ ใช้เรียกตรงกันทั่วโลก ที่มาของคำว่า ฮากกา หรือ เค่อเจีย นั้น เพราะเราเป็นชาวจีนที่อยู่ทางภาคเหนือ แถบทางใต้ของกรุงปักกิ่ง แล้วพากันอพยพเรื่อย ๆ มาได้ 2000 กว่าปี มากันเป็นระลอก ๆ แล้วมาตั้งหลักปักฐานเป็นกลุ่มก้อนที่หนาแน่นที่สุดในทางตอนใต้สุดของมณฑลฝูเจี้ยน(ฮกเกี้ยน) และทางตะวันออกเฉียงเหนือของกว่างตง ซึ่งก็คือเมืองเหมยโจว บ้านเกิดของ อากุง อาผอ ของพวกเรานั่นเองครับ
อาจารย์ หรือหว่องซินซางมีเรื่องใดอยากรู้ถามมาได้ครับ เพราะถ้าแต่ละท่านที่มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ เขาเข้ามาเห็นเขาก็จะตอบให้เองครับ รับรองมีผู้เยี่ยมวรยุทธ์มากมายครับ เดี๋ยวซินซางจะเห็นเองครับ
ส่วนซินซางมีเรื่องดี ๆ อย่าอุบไว้คนเดียวนะครับ มาแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ให้ไท้ก๋าหยิ่น(ทุกๆ ท่าน) ได้อ่านกันบ้างนะครับ
ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ซินซางมาเป็นสมาชิกใหม่ครับ-ยับสินฝ่า
ยินดีต้อนรับหวองซินซ้าง.
ยินดีที่ได้รู้จัก หวองซินซ้าง. สมาชิกใหม่ที่จักได้มาร่วมบาทวิถีสังคมโลกอีกท่าน......
ด้วยความยินดี
ยินดีที่ใด้รู้จัครับ มีวิชาการใหม่ ใหม่ ช่วยแนะนำด้วยครับ ไหงอยู่นครปฐม ครับ
ขอบคุณครับที่ชี้แนะ
ชื่อจีน Huang Wei Ming , Huang แปลว่าเหลืองถูกต้องแล้วครับ wei =ยิ่งใหญ่ Ming= สว่าง
ขอบคุณมากครับอากอยับสินฝา ที่จริงควรเขียนว่า แคะหรือฮากกา บรรพบุรุษ ไหงมาจากภาคตะวันออกของกวางตงครับ(เพิงซุน, ฮงสุน) ในโอกาสไหงอยากจะเอาเรื่องของ Hakka ngin จากวิกิพีเดีย มาเล่าให้ฟังดังนี้ครับ
แคะ หรือ ฮากกา (客家 คำว่า แคะ ในภาษาไทยถูกเรียกตามภาษาแต้จิ๋วว่า แขะแก ในภาษาจีนกลางเรียกว่า เค่อเจีย มีความหมายว่า ครอบครัวผู้มาเยือน ส่วนในภาษาจีนแคะเอง เรียกว่า หักก๊า หรือ ฮากกา) คือ ชนกลุ่มจีนฮั่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกล่าวกันว่ามีบรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดบริเวณมณฑลเหอหนานและซานซี ทางตอนเหนือของจีนเมื่อราว 2,700 ปีที่แล้ว บรรพบุรุษของชาวจีนแคะอพยพลงใต้ เนื่องจากความไม่สงบทางสังคม การลุกฮือ และการรุกรานจากผู้ยึดครองต่างชาติตั้งแต่ยุคราชวงศ์จิ้น (265-420) กระแสการอพยพครั้งต่อ ๆ มาเกิดขึ้นเมื่อยุคสิ้นราชวงศ์ถัง เมื่อประเทศจีนแตกออกเป็นส่วน ๆ และช่วงราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรทางภาคเหนือลดลง. ช่วงที่สาม ที่ชาวจีนแคะอพยพลงใต้ คือช่วงที่ชาวหนี่ว์เจินสามารถยึดครองเมืองหลวงของราชวงศ์ซ่งเหนือไว้ได้. ช่วงที่สี่ เป็นช่วงที่ราชวงศ์ซ่งถูกโค่นล้มโดยชาวมองโกล ในสมัยราชวงศ์หยวน และช่วงสุดท้ายคือสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งถูกโค่นล้มโดยชาวแมนจูซึ่งก่อตั้งราชวงศ์ชิงในเวลาต่อมา
ที่มาของคำว่า แคะ
คำว่า แคะ นั้นกล่าวกันว่าเป็นคำเรียกที่ค่อนข้างใหม่ ระหว่างรัชสมัยของพระจักรพรรดิ์คังซี ได้โปรดให้มีการอพยพผู้คนแถบภูมิภาคชายฝั่งเป็นเวลาเกือบทศวรรษ เพื่อลดอิทธิพลที่ยังหลงเหลือของราชสำนักหมิง ซึ่งหลบหนีไปยังดินแดนซึ่งกลายเป็นไต้หวันในปัจจุบัน หลังจากที่กำจัดภัยคุกคามได้แล้ว พระจักรพรรดิ์คังซีได้มีพระบรมราชโองการ โปรดให้มีการอพยพผู้คนเข้าไปในดินแดนนี้อีกครั้ง ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก มีการมอบเงินให้ครอบครัวแต่ละครอบครัว ไว้สำหรับเริ่มชีวิตใหม่โดยลงทะเบียนว่าเป็น 'ครอบครัวผู้มาเยือน' (客戶 เค่อฮู่) ส่วนชนดั้งเดิมซึ่งอพยพกลับมายังถิ่นเดิม ก็ได้พบกับการเข้ามาของผู้มาอยู่ใหม่ ชนดั้งเดิมก็เกิดความหวงแหนในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์กว่าของพวกเขา จึงผลักดันชนกลุ่มใหม่ออกไปรอบนอก หรือไปตั้งหลักทำมาหากินในเขตที่มีแต่ภูเขา เมื่อเวลาผ่านไปกระแสการต่อต้านในท้องถิ่นก็แผ่ขยาย และกล่าวกันว่าคำว่า แคะ กลายเป็นคำที่ชนดั้งเดิมใช้เรียกผู้มาอยู่ใหม่อย่างดูแคลน แต่เมื่อเวลาผ่านไปอีกสิ่งดังกล่าวก็จางลง และมีการยอมรับคำว่าแคะให้ใช้เรียกชาวจีนแคะได้ในที่สุด เป็นที่รู้กันดีว่าชาวนาจีนแคะ ใช้เท้าขณะอยู่ในท่ายืนดึงวัชพืชออกจากนาข้าว ซึ่งเป็นความหยิ่งในวัฒนธรรมของพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ยอมคุกเข่า และคลานบนดินแดนที่เป็นของชาวแมนจู
กรณีนี้ก็มีความน่าสนใจประการหนึ่ง เพราะว่าชนที่มาอยู่ใหม่อาจไม่ใช่บรรพบุรุษ ของผู้พูดภาษาจีนแคะทั้งหมด เนื่องจากคำว่าแคะเป็นคำที่เหมาคลุม จากการศึกษารากเหง้าสืบสายชาวกวางตุ้งและแคะ พบว่าแซ่บางแซ่มีบรรพบุรุษเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มชนอื่น ดั้งนั้นบรรพบุรุษของชาวแคะจึงเป็นชนกลุ่มหนึ่งซึ่งอพยพลงมาทางใต้ เราสามารถพบเห็นชาวแคะในมณฑลทางใต้ของจีน เช่น กวางตุ้ง ฮกเกี้ยนตะวันตก เจียงซี ตอนใต้ของหูหนาน กว่างซี ตอนใต้ของกุ้ยโจว ตะวันออกเฉียงใต้ของเสฉวน เกาะไหหลำและไต้หวัน
แม้ว่าชาวแคะจะมีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างเฉพาะตัวจากประชากรโดยรอบ แต่ชาวแคะก็ไม่ถูกจัดว่าเป็นชนกลุ่มน้อย และยังคงถูกจัดว่าเป็นชาวจีนฮั่น ในความขัดแย้งนี้ ชนกลุ่มเดิมถือว่าชาวแคะไม่ใช่คนจีนอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าจากการสืบรากเหง้าซึ่งพบว่ามีบรรพบุรุษสายเดียวกัน ชาวแคะจึงเป็นชาวจีนเหมือนเพื่อนบ้านของพวกเขา ชาวจีนแคะยังมีบทบาทในการกบฎไท่ผิงซึ่งนำโดย หงซิ่วฉวนผู้ที่คิดว่าตนเองคือน้องชายของพระเยซู และเป็นผู้นำสาวกซึ่งก่อตั้งอาณาจักรแห่งสวรรค์ไท่ผิง (ไท่ ผิง เทียน กั๋ว)
ชาวแคะในมณฑลฮกเกี้ยน
ชาวแคะที่ตั้งถิ่นฐานอยู่มนมณฑลฝูเจี้ยน (หรือคนไทยรู้จักในนามมณฑลฮกเกี้ยน) ได้พัฒนาสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรียกว่า ถู่โหลว ซึ่งแปลว่าสิ่งก่อสร้างที่ทำจากดิน ด้วยเหตุผลที่ว่าชาวแคะเป็นผู้ที่มาอยู่ใหม่ ต้องตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตภูเขา และเพื่อป้องกันจากพวกขโมย และปล้นสะดม
ถู่โหลว มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือวงกลม ออกแบบให้เป็นได้ทั้งป้อมค่ายและอาคารคล้ายอพาร์ตเมนต์ในเวลาเดียวกัน มีแต่ประตูทางเข้าออก ไม่มีหน้าต่างในระดับพื้นดิน แต่ละชั้นก็จะมีหน้าที่แตกต่างกัน ชั้นแรกเป็นชั้นไว้สำหรับเลี้ยงสัตว์ ชั้นสองเอาไว้สำหรับเก็บอาหาร และชั้นสามเป็นที่อยู่อาศัย
แผนที่เขตเหมยโจว มณฑลกวางตุ้ง
ชาวแคะในมณฑลกวางตุ้ง
ส่วนมากชาวแคะในมณฑลนี้จะอาศัยอยู่ทางตะวันออกของมณฑล โดยเฉพาะในเขตซิ่งหนิง-เหมยเสี้ยน (ตัวเต็ม: 興寧-梅縣, ตัวย่อ: 兴宁-梅县) เช่นเดียวกับญาติของพวกเขาในมณฑลฮกเกี้ยน ชาวแคะก็มีสถาปัตยกรรมเป็นของตน เรียกว่า เหวยหลงวู (ตัวเต็ม: 圍龍屋, ตัวย่อ: 围龙屋, wéilóngwū) และ ซื่อเจี่ยวโหลว (四角楼 sìjǐaolóu)
ชาวแคะนอกดินแดนสาธารณรัฐประชาชนจีน
ชาวแคะส่วนมากที่อาศัยอยู่นอกแผ่นดินใหญ่จะอาศัยอยู่ที่มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) และติมอร์ตะวันออก
นอกจากนี้ชาวแคะก็ได้อพยพไปที่อื่น ๆ ด้วย เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี และ เนเธอร์แลนด์ และยังพบชาวแคะในแอฟริกาใต้ มอริเชียส และหมู่เกาะแคริบเบียนโดยเฉพาะในจาเมก้า ชาวแคะพลัดถิ่นในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่มีความเกี่ยวดองกับฮ่องกง และน่าจะอพยพออกมาเมื่อครั้งฮ่องกงยังเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร
ในไต้หวัน ประชากรราวร้อยละ 15 เป็นชาวแคะ ดังนั้นจึงเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความสำคัญ ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 เกิดความขัดแย้งถึงขั้นใช้อาวุธเข้าปะทะกันระหว่างชาวแคะและชาวฝูเหล่า (福佬) ขึ้นหลายครั้ง บางครั้งเกิดจากสาเหตุทางเศรษฐกิจ บ้างก็จากการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันระหว่างชน 2 กลุ่มนี้มาเป็นระยะเวลานาน แต่อย่างไรก็ตามชนทั้ง 2 กลุ่มก็ยังมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
บุคคลสำคัญที่เป็นชาวแคะ
ถึงแม้ประชากรชาวแคะจะมีจำนวนน้อย แต่ก็มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ของชาวจีนและของชาวจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะในเรื่องของการปฏิวัติและผู้นำทางการเมือง และก็ยังคงเป็นจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของจีนซึ่งผู้นำจีนที่มีชื่อเสียงหลายคนเป็นชาวแคะ ระหว่างช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 ชาวจีนแคะที่มีชื่อเสียงถึง 3 ท่านได้ครองอำนาจทางการเมืองพร้อมๆกันใน 3 ประเทศซึ่งมีชาวจีนเป็นชนส่วนใหญ่ อันได้แก่ เติ้งเสี่ยวผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หลี่เติงฮุยแห่งสาธารณรัฐจีน และลีกวนยูแห่งสิงคโปร์
นอกจากนี้ ทั้งดร.ซุนยัดเซ็น เติ้งเสี่ยวผิง และลีกวนยู ซึ่งต่างก็เป็นชาวแคะ และยังเป็น 3 คนในชาวจีน 4 คนซึ่งนิตยสารไทม์ (Time Magazine) จัดอันดับให้เป็นชาวเอเชียที่ทรงอิทธิพลที่สุด 20 อันดับแรกในศตวรรษที่ 20 ส่วนอันดับ 4 คือ เหมาเจ๋อตุง
คนhakka, เชื่อสาย Hakka ที่สำคัญ
คนhakka, เชื่อสาย Hakka ที่สำคัญ
Government officials
[edit] Entrepreneurs and corporate figures
[edit] Literary figures, artists, academics and scientists
[edit] Actors, musicians and entertainers
[edit] Sportspersons
[edit] Religion
[edit] Others
น้อมคารวะหว่องซินซาง(สำเนาเรียน-เว็ปมาสเตอร์)
คุณหวงเว่ยหมิง - หว่ิองซินซางครับ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของชาวฮากกาที่หงีนำมาลง สุดยอดเยี่ยมที่สุดเลยครับ ครบ ทุกยุค ทุกสมัย ละเอียดทุกขั้นตอน มีพ่อ-ลูก และคนในครอบครัวหรือตระกูลนั้น ๆ ที่มีชื่อเสียงพร้อมสรรพ นับตั้งแต่ฮ่องเต้หงซิ่วฉวน และขุนศึกคนสำคัญของท่าน ในสมัยไท่ผิงเทียนกว๋อ ซึ่งเป็นกบฏที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติจีน สามารถยึดครองจีนได้ถึงครึ่งราชอาณาจักรต้าชิง (ทฤษฎีตามความน่าจะเป็นของไหง่-ถ้าหงซิ่วฉวนสามารถล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จ-ไหงว่าทุกวันนี้ภาษาจีนกลางคงเป็นภาษาฮากกาแทนภาษาปักกิ่งซึ่งเป็นภาษาจีนกลางอยู่้ในทุกวันนี้)
ประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญของคนฮากกา นับเริ่มจากสมัยหงซิ่วฉวนเป็นบุคคลสำคัญคนแรกนั้น ถูกต้องที่สุดแล้วครับ เ้พราะย้อนจากสมัยหงซิ่วฉวนคงไม่อาจจะทราบได้ว่ามีท่านใดเป็นชาวฮากกาบ้าง ประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญของชาวฮากกาจึงเริ่มนับตั้งแต่ฮ่องเต้หงซิ่วฉวนและคณะลงมาจนถึงบุคคลสำคัญในราชวงศ์ชิงตอนปลาย แล้วเป็นสาธารณรัฐ และต่อด้วยประเทศจีนใหม่ จีนโพ้นทะเล ทั้งนักการเมือง-ผู้นำประเทศ และนักธุรกิจ ในประเทศต่าง ๆ
ลำดับบุคคลสำคัญของชาวฮากกาที่คุณหว่องซินซางนำมาลงนั้น ถือว่าเป็นรายงานชื่อเสียงเรียงนามของคนฮากกาที่โด่งดังที่มีความละเอียดมากที่สุด ที่คุณหว่องซินซางนำมาลงนั้น มีท่านที่ไหงทราบว่าเป็นชาวฮากกาอยู่ทั้ังหมด แต่ที่เป็นของแถมคือ ยังมีอีกหลายท่านที่ไหงหรือไท้ก๋าหยิ่นยังไม่ทราบ ที่สำคัญ ยังแบ่งออกเป็นครอบครัว แจกแจงให้ทราบ บอกถึงยุคสมัยและระยะเวลาที่บุคคลท่านนั้นดำรงชีวิตอยู่ ฯลฯ
ไหงจะทำสำเนาเอกสารชิ้นนี้เก็บไว้เพื่ออ้างอิงครับ เพราะไหงถือว่้ามันเป็นประโยชน์กับไหงมาก ๆ เพราะไหงคิดว่าไหงจะต้องใช้มันตลอดชีวิตของไหง ในการอ้างอิงในด้านวิชาการในอนาคต
ขอขอบพระคุณหว่องซินซางโก เป็นอย่างยิ่งครับ
ขอเรียนเว็ปมาสเตอร์ว่า ไหง ขอออกความเห็นว่า เก็บรายงานที่ท่านหว่องซินซางนำมาลงนี้ไว้ เป็นเนื้อหาเฉพาะของชุมชนของเราเลยนะครับ เพราะมีประโยชน์มาก ๆ ไม้ต้องไปสืบค้นที่ไหนอีกแล้ว เพราะของท่านหว่องซินซางนี้ ละเอียดมากจริง ๆ
อั้นโตเซี้ย
ขอความกรุณาด้วย
อาสุก หว่อง ครับ ข้อมูล ที่สุกเอามาลงมีแปลเป็น ภาษาไทยให้อ่านใหมครับ ถ้าไม่มีจะหาใด้ที่ใหน ขอบคุณครับ
อยากรู้ตรงถามไหงมาได้จ้ะ
ข้อความเหล่านี้อยากรู้ตรงไหนถามไหงได้จะแปลให้ หากมีเวลาไหงจะแปลทั้งหมดเป็นภาษาไทยให้
อากอ Huang
การประชุมตัวแทนชาวHakka โลก World Hakka Congress
World Hakka Congress การประชุมตัวแทนชาวHakka โลกครั้งที่ 24 ปี 2011
จะจัดที่ เมือง Beihai, มณทล กวางสี Guangxi ปรเทศจีนครับ
北海-เป๋ยไห่-กว่างซี และชาวจ้วง
เมืองเป๋่ยไห่ มณฑลกว่างซี (เหลี่ยงกว่าง-กว่างตง-กว่างซี) ปัจจุบันมณฑลกว่างซี ถูกรัฐบาลซินหวา ให้เป็นเขตปกครองตนเอง ในระดับมณฑล มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทย ว่า "เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงแห่งกว่างซี" ถึงแม้ว่า กว่างซี จะอยู่ติดกับกว่างตง เป็นดินแดนของคนจีน ที่พูดภาษาเย่ หรือภาษากวางตุ้ง (มีสองสำเนียงคือ ซานเย่ กับ ซื่อเย่-ซ้ามยับ ซี้ยับ) คนจีนในกว่างซีจึงพูดภาษายับหรือภาษาเย่เหมือนกับคนจีนกว่างตง ในอดีต ประวัติศาสตร์จีน ถ้าพูดถึงสองมณฑลนี้ มักจะพูดว่า เหลี่ยงกว่าง อันหมายถึงมณฑล กว่างทั้งสองคือกวางตุ้ง กับ กวางสี (กว่างตง กว่างซี) กว่าง แปลเป็นไทย ตรงตัวว่า "กว้าง" มณฑล กว่างตง ก็เป็นมณฑล(พื้นที่)กว้าง ทางตะวันออก กว่างซี ก็เป็นมณฑลกว้างทางตะวันตก
คำว่า กว้างขวาง ในภาษาไทย น่าประหลาด มันตรงกับคำว่า "กว่างขว้อ" ของภาษาจีนกลาง ซึ่งแปลตรงตัวว่า "กว้างขวาง" เหมือนกันเด๊ะเลย
มณฑลกว่างซีมีชนชาติส่วนน้อยของจีน ที่มีจำนวนประชากรของชนชาติส่วนน้อยมากที่สุดในประเทศจีน นั่นก็คือ ชนชาติ "จ้วง" ซึ่งมีมากที่สุดในกว่างซี อาศัยอยู่แถบทางภาคตะวันตกของกว่างซี และทางเหนือกับตะวันตกเฉียงใต้ของ กว่างซี ซึ่งอยู่ติดเวียตนาม ส่วนทางตะวันออกของกว่างซี ก็เป็นที่อยู่ของพวก เย่ หรือ ชาวกว่าง ที่พูดภาษาเย่-ยับ และบริเวณแถบนี้ก็มีชาวฮากกา อาศัยอยู่หลายพื้นที่
เมืองเป๋ยไห่ ที่อาจารย์หว่อง พูดถึงว่าจะมีการประชุมฮากกาโลกในปีหน้านี้ อยู่ปลายแหลมสุดของกว่างซี ครับ คิดว่าน่าไปร่วมประชุมถ้าสามารถไปได้นะ ไหงคิดว่า เสร็จการประชุม ก็สามารถไปเที่ยวเมืองกุ้ยหลิน ชมทัศนียภาพของแม่น้ำหลีเจียงที่ใสดั่งกระจกแสนสวยงามมากครับ กุ้ยหลินเป็นเมืองที่ทิวสวยน้ำใส คู่แข่งกับ ซูโจว-หางโจวครับ แล้วก็ออกไปทางตะวันตก ไปเที่ยวชมเมืองของชาวจ้วง ญาติสนิทของคนไทย ครับ
เพลงรักชาวเรือ ภาพยนต์เพลงที่โด่งดังในอดีตก็อาศัยฉากของหลีเจียงกุ้ยหลิน และ ถิ่นของชาวจ้วงนี่แหละครับเป็นฉาก หลิวซานเจ่ หรือ มีสหลิว ก็เป็นชาวจ้วง ครับ ชาวจ้วง รับเอาวัฒนธรรมของชาวฮั่นไปมากเลยครับ ดังนั้น ปัจจุบัน ภาษาและการแต่งกายก็มาทางฮั่นครับ
แต่ภาษาดั้งเดิมของชาวจ้วง ถึงแม้ว่าคนไทยอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาพูดเป็นประโยค แต่ ถ้าแปล ศัพท์เป็นคำ ๆ แล้ว เราจะรู้ครับว่ามันตรงกัน เช่น ฉัน(เก๋า-กู-คำคำนี้ทางบ้านของคุณประนอมภรรยาไหง สุภาพสตรีบางคนเขายังใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า เก๋า เหมือนกันครับ) เธอ (เหมิง-มึง-เห็นไหมครับว่าเป็นคำไทยโบราณ) น้ำ(หนำ) ข้าว(เขา) ไป(เมอ-ตรงกับภาษาไทลื้อ-ไทขึน-ไทใหญ่และไทยล้านนาออกเสียงว่า เมือ ครับ)
อันนี้ได้มาจากเพื่อนชาวจ้วงที่เคยเจอกันในเชียงรายครับพี่น้อง
เป็นความรู้ที่ดีจากหงี
ได้เกร็ดความรู้จากอากอ ยับสินฝ่า ผู้ปราดเปรื่อง นับถือ นับถือครับ
เซืยะ เซียะ หนี
ยินดีต้อนรับ
ยินดีต้อนรับครับท่านอาจารย์
ยินดีต้อนรับครับ
สวัสดีครับ หล่อซือหว่องหวุ่ยหมิน ก่อนอื่นไหงว่าพวกเราเรียกพวกเรากันเองว่าฮากกาหงิน หรือขักหงินจะดีกว่าครับ คำว่าจีนแคะเป็นคำไทยปนแต้จิ๋ว แคะแต้จิ๋วแปลเป็นไทยว่าแขกผู้มาเยือนแต่ที่อาจารย์เขียนมาเป็นจีนแคระก็คือคนตัวจิ๋วๆ อย่างคนแคระทั้งเจ็ดของsnowwhiteครับ อาจารย์เซี่ยงหว่อง ที่เมืองจีนอยู่ที่ไหนครับ
ยินดีต้อนรับครับหวุ่ยหมินซินซัง
ไหงกิ่มหมิ่นครับ แช่เเเช่เดียวกันกับซินซังครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับที่แนะนำ ควรเขียนว่าแคะ ถึงจะถูก พ่อแม่ไหงบอกว่า มาจากเมืองฮงสุน หรือจีนกลางเรียกว่าเฟิงซุนครับ
อาจารย์ paul
สวัสดีครับ อาจารย์ไม่ทราบว่าอาจารย์ทราบชื่อหมู่บ้านของพ่อแม่ที่ฟุงซุนมั้ยครับ ไหงมีญาติและเพื่อนเซี่ยงหว่องหลายคนครับ อาจจะเป็นญาติกันกับพวกเขาก็เป็นได้ครับ
ขอบคุณมากครับที่แนะนำ
ไหงไม่ทราบเหมือนกันว่าอยู่หมู่บ้านอะไร แต๋รู้ว่าอยู่ที่ เฟิงชุน(ฮงสุน)ครับ อย่างไรก็ตาม พวกเราก็เหมือนญาติกันนะ
ยินดีต้อนรับครับ
ยินดีต้อนรับครับ หวองซินซ้าง.
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ใช่หงี่อุ้ย
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
อาจารย์
认识您很高兴
老师好,大家好!
我来介绍一下,我叫 廖诗雅 。我家在叻丕府,我也是客家人。但是我的客家话太差了,所以用普通话来介绍哟。 如果那个句话说得不正确的话,请大家介绍一下儿。
认识您们很高兴啊。
สวัสดีอาจารย์,สมาชิกทุกท่านค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวหน่อยนะค่ะ ดิฉันชื่อจีน廖诗雅 อยู่จังหวัดราชบุรีค่ะ เป็นฮากกาหงิ่นเช่นกันค่ะ. แต่พูดฮากกาไม่ค่อยได้ ฟังได้นิดหน่อยค่ะ ดังนั้นดิฉันขออนุญาติใช้จีนกลางนะค่ะ หากว่ามีประโยคไหนพูดไม่ถูกต้อง ขอให้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วยค่ะ.
ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณ廖诗雅
ขอโทษที่ถามนะครับ คุณ廖诗雅 เป็นญาติกับ ก๊อสมจิต (mrsomjit) หรือเปล่าครับ เพราะเห็นว่าแซ่เดียวกัน.
จํองหยิ่นฮยุ่งเข้าใจถูกแล้วหละ
เลี่ยวซือยาก็คือลูกสาวของก๊อสมจิตรนั่นเอง พวกเราต่างเป็นกลุ่มผึ้งงานทำงานให้กับสมาคมอย่างเสียสละให้กับสมาคมฮากการาชบุรีตลอดมา ก็เนื่องจากมีความรักในความเป็นฮากกา และไม่เคยลืมกำพืดของความเป็นฮากกาของพวกเรา จนบัดนี้สมาคมฮากการาชบุรี ได้รับคำชมจากคนราชบุรีทั่วไปถึงความรักสามัคคีของพวกเรา แม้แต่กลุ่มคนแต้จิ๋วในจังหวัดราชบุรีที่มีมากกว่าคนฮากกาหลายสิบเท่าก็ยังยกย่องพวกเรา ปัญหาของสมาคมจีนในปัจจุบันไม่มีคนรุ่นใหม่ๆมาสืบทอดที่ยังทำงานล้วนแต่เกินกว่า 70 แต่สมาคมฮากกาไม่เป็นเช่นนั้นมีคนรุ่นใหม่ๆที่มีอายุระหว่าง 40-50 ปีอยู่มากมายที่เข้ามาสืบทอดเจตนารมณ์ของคนรุ่น อาปัก อาสุข
แต่เลี่ยวซิอยาคนนี้แหละที่มีอายุไม่ถึง 30 จะเป็นอนาคตของสมาคมฮากการาชบุรี ว่าสมาคมของเราคงมีคนสืบทอดรุ่นต่อรุ่น เลี่ยงซือยาสนใจภาษาจีนและมีความสามารถภาษาจีน กี่เคยไปอยู่หมอยแย้นกับพี่ชายอาก๊อสมจิตรครั้งละเป็นเดือนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไหงอยากจะทำบ้างแต่ไม่มีเวลาที่จอยู่นานขนาดนั้น
ดังนั้นไหงจึงอยากจะขอให้บรรดาไท้กาหงิ่นช่วยแนะนำหลานไหงคนนี้ด้วย
ไหงจะรับเลี่ยวซือยาเป็นหลานอีกคนนะวี่ฟัดโก
คุณเลี่ยวซือหยา หรือ เหลี่ยวซือยา อายุยังไม่ถึง 30 แสดงว่ากี๋น่าจะ สัก 26-29 วัยเดียวกันกับ เจียงหงยิง หลานสาวไหง ที่จะมาไทย ถึงกรุงเ้ทพ วันที่ 29 กันยายนนี้พอดี ไหงอยากให้สองคนนี้รู้จักกัน จังเลย เห็นว่า อาซือยาได้ไปอยู่หมอยเย้น บ่อย ๆ ไหงอิจฉาจังเลย ต่อไปอยากให้ อาซือยาติดต่อไหงบ้า่ง ไหงแสดงความเห็นถึงกี๋ แล้ว กี๋ยังไม่ตอบมาเลย
อาหงยิงคงจะได้ไปเที่ยวกรุงเทพด้วย อยากนัดให้ซือยา กับหงยิงได้เจอกัน เพราะต่อไป เธอจะมาไทยบ่อย ๆ แล้วไหงก็จะไปหมอยเย้นบ่อย ๆ ด้วยเช่นกัน บางทีอยากให้ซือยาช่วยไหงเรื่องภาษาบ้า่ง ไม่ทราบว่าตอนนี้กี๋ทำงานอะไรอยู่ที่ราชบุรี หรือว่าช่วยกิจการธุรกิจส่วนตัวของปา-แม ที่นั่น
หากหนูเลี่ยวซือยา มาอ่านเห็น กรุณาติดต่อไหงด้่วย morakot.alfalfa@gmail.com
ขอโทษที่ตอบกลับช้าค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณอายับสินฝ่า
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ที่ไหงตอบจดหมายช้า เพราะสองสามวันมานี้ไหงไม่มีเวลาเข้าเน็ตเลยค่ะ ไหงเพิ่งจะเข้ามาอ่านข้อความก็วันนี้เองค่ะ.
รายละเอียดของไหงได้ตอบกลับทางเมลล์แล้วนะค่ะ
ใช่ค่ะ
ใช่ค่ะ เป็นอาปาของไหงเองค่ะ
คุณเหลี่ยวเสี่ยวเจ่แห่งราชบุรี
ชาวฮากการาชบุรีกำลังทำแต้มนำฮากกาทุกจังหวัด ไหงว่าเป็นผลงานที่น่ายกย่องของอาวี่ฟัดโก ที่ช่วยแนะนำบอกต่้อบรรดาเพื่อน พ้อง น้อง พี่ ฮากการาชบุรี จึงมีชาวไทยฮากกาแห่งราชบุรีเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกชุมชนของเรามากมายหลายท่าน น่าชื่นชมจริง ๆ
ยินดีที่ได้รู้จักกับ คุณ เหลี่ยวเสียวเจ่ ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่หมาด ๆ ของเรา ไหงว่า ภาษาจีนกลางที่หงีใช้ได้ดี คงจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนของเราและสมาชิกที่ไม่ค่อยเก่งภาษาอย่างไหง
ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้เปิดซินหวาจื้อเตี่ยน เพราะตอนนี้กำลังปวดหัวและตาลาย จึงไม่ทราบว่า เซี้ยง เหลี่ยว ออกเสียงจีนกลางว่าอย่างไร ขอรบกวน หงี ช่วยตอบให้ไหงหน่อย ว่า ชื่อของหงี พินยิน สะกดอย่างไร ต่อไปหากเขียนถึงหงี จะได้พิมพ์ชื่อ-แซ่ ได้ถูก
ไหงยับสินฝ่า ครับ 叶 新 华 อยู่เชียงใหม่ คงเป็นอาโก หรือ อาสุก ของหงีนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ตอบความเห็นนี้ด้วยนะครับ
廖 诗 雅 小 姐
คุณเลี่ยวซือยา ครับ ออกเสียงอย่างนี้ถูกต้องไหมครับ นึกขึ้นมาได้ว่า เซี้ยงเหลี่ยว ผู่้ทงฮว่า ออกเสียงว่า เลี่ยว จึงเปิดซินหวาจื้อเตี่ยน ออกดูชื่อของคุณอีกสองตัว จึงได้พิมพ์ขึ้นมา ช่วยบอกสมาชิกด้วยนะครับว่า ชื่อของคุณออกเสียงอย่างไหน เพราะการที่ล๊อคอินเข้ามาเป็นอักษรจีน ข้อเสียคือสมาชิกที่อ่านจีนไม่ได้ เขียนจีนไม่ได้ จะไม่สามารถสื่อสารถึงคุณได้เลย ถ้าเปลี่ยนเป็นอักษรโรมัน หรือ เป็นอักษรไทย ทับศัพท์ชื่อจีน ว่า เลี่ยวซือยา อย่างนี้จะสามารถทำให้สมาชิกทุกท่าน เขี่ยนถึงคุณได้ครับ
ในบรรดาคนจีนฮากกาแซ่เลี่ยวหรือเซี้ยงเหลี่ยว ที่มีคุณูปการต่อประเทศจีนในยุคใกล้ หรือยุคปลายราชวงศ์ชิง ต่อด้วยยุคสาธารณรัฐ และตอนต้นของประเทศจีนใหม่ ที่มีชื่อเสียงและคุณูปการ คือ ท่านเลี่ยวจ้งไข่ เพื่อนสนิทและสหายร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติซินไฮ่้ ของท่านด๊อกเตอร์ซุนจงซาน ซึ่งก็เป็นชาวฮากกาเหมือนกัน ท่านเลี่ยวจ้งไข่ เป็นเพื่อนสนิทและมือขวาของท่านด๊อกเตอร์ซุนที่ร่วมอุดมการณ์ปฏิวัติมาด้วยกันและท่านก็เป็นผู้นำปีกซ้ายของพรรคกว๋อหมินต่าง ภายหลังจากการอสัญกรรมของท่านด๊อกเตอร์ซุน ท่านถูกลอบสังหารจากพวกแก๊งชิงปัง ซึ่งในภายหลัง ประวัติศาสตร์จีนได้สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือการสั่งการของจอมพลเจี่ยงเจี้ยสือ หรือเจี่ยงไก้เส็ก หรือเจียงไคเช็ค บุตรชายของท่าน คือ เลี่ยวจ้งไข่ ซึ่งเปรียบเป็นบุตรบุญธรรมของท่านด๊อกเตอร์ซุนจงซาน ภายหลังได้เป็นแกนนำรองในหมู่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนรุ่นแรก ภรรยาของท่านเลี่ยวจ้งไข่ หรือมารดาของท่านเลี่ยวเฉิงจื้อ เป็นแกนนำของปีกซ้ายพรรคกว๋อหมินต่าง ซึ่งคัดค้านการนำของเจี่ยงเจี้ยสือ และเป็นพันธมิตรที่ดีมากกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือจงกว๋อก้งฉานต่าง คู่กันกับท่านซ่งชิ่งหลิง ภริยาหม้ายของท่านด๊อกเตอร์ซุน ท่านเลี่ยวเฉิงจื้อ มีตำแหน่งทางการบริหารประเทศจีนใหม่ เป็น รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีัน ภายหลังในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ท่านถูกเรดการ์ด และแก๊งสี่คนทำร้าย ในฐานะที่ท่านถูกใส่ความว่า เป็นผู้มีแนวทางความคิดด้านทุนนิยม เพราะสาเหตุที่ท่านเก่งภาษาอังกฤษ และท่านเป็นฝ่ายของเติ้งเสี่ยวผิงและท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล
ท่านเลี่ยวเฉิงจื้อยังมีส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์จีน-ไทย คือท่านได้เป็นผู้ดูแล ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลให้เป็นพ่อบุญธรรมและดูแลอุปการะ สองพี่น้อง ที่ทางรัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพล ป. พิบูลสงคราม คือ ท่าน วรรณไว และ ท่านสิรินทร์ พัฒโนทัย สองพี่น้อง บุตรของ นายสังข์ พัฒโนทัย คนสนิทและที่ปรึกษาของท่านจอมพล ป. ที่ถูกส่งไปเป็นฑูตลับ ๆ ของไทย แก่ประเทศจีน ประวัติศาสตร์ จีน-ไทย ในตอนนี้ไม่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ แต่มีหนังสือ ที่ท่านสิรินทร์ ได้เขียนไว้ เรื่อง "มุกมังกร" และยังได้ ถูกรัฐบาลจีนนำมาสร้างเป็นภาพยนต์โทรทัศน์ เมื่อสิบกว่าปีก่อน ออกอากาศทาง ช่อง 9 อสมท. เอาไว้จะเขียนเรื่องราวเรื่องนี้ให้ไท้ก๋าหยิ่นอ่านในภายหลัง
สรุปก็คือ คนเซี้ยง เหลี่ยว หรือ เลี่ยว ชาวฮากกาที่โด่งดัง คือ ท่านเลี่ยวจ้งไข่ และ เลี่ยวเฉิงจื้อ สองพ่อลูก นี้เอง
ยินดีครับ
ยินดีตัอนรับครับ และขอถือโอกาสนี้ ต้อนรับ ไถ่ก๊าหยิน ที่สมัครเข้ามาเป็น
สมาชิก ในชุมชนเราทุกวัน ทุก ๆ ท่านครับ.
你好!叶新华叔叔
你好!叶新华叔叔
我的姓名 可以用拼音这样读 liao4(廖) shi1(诗) ya3(雅)
我是廖文轩的女儿 。认识您很高兴啊。
สวัสดีค่ะ คุณอา ยับสินฝ่า, ชื่อของไหงออกเสียงจีนกลางว่า liao shi ya .ไหงเป็นลูกสาวของ คุณ mrsomjit (สมจิตร),ยินดีที่ได้รักกับคุณอาเช่นกันค่ะ
สวัสดีครั
สวัสดีครับและยินดีด้วยกับสมาชิกใหม่แซ่เลี่ยวและ
แซ่หว่องครับ จากคนแซ่หว่อง หวางฮ่านเสียง นนทบูรี