หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

พาแม่ไปท้องคั้ง

เมื่อกลางเดือน มิย 53  ได้เมล์โปร 8888 บาท ไป-กลับ จากสายการบินจีน รีบจองพาแม่ไปลงซัวเถา 2 สาวเหลือน้อยแล้ว ออกจาก ตม.จีนมายืนหน้าประตู  แท็กซี่จีนมาถาม บอกว่าจะไป รร.civil ในเมืองซัวเถา ข้อมูลจากเน็ตบอกกดมิเตอร์ก็ประมาณ 30 หยวน  เขาใช้เรียกราคา 80 หยวน เราส่ายหน้าไม่ไป เขาก็ 70 60 50 เราบอกให้แค่ 40 เลยนั่งไป ความจริงจากประตูเดินไปทางซ้ายสัก 5 นาทีจะเห็นป้ายรถเมล์และแท็กซี่ด้านนอกซุ้มเก็บเงินค่าจอดรถ 5 หยวน เอาน่ะ มีคนแก่เดินไม่ไหวยอมจ่ายแพงหน่อย

ถึง รร.เขาพูดแต่เอี้ย ไม่ค่อยเหมือนแต้จิ๋วในไทย ฟังไม่ค่อยออก มั่วๆ ไปยื่น voucher ที่จองไว้ทางเน็ตให้ดู แหะ แหะ ภาษาอังกฤษเขาดูไม่รู้เรื่อง ม๊ามาช่วยพูดจีนกลางให้ พอได้ค่ะ เก็บข้าวของแล้วก็เดินแถวๆ ใกล้ๆ สำรวจหาก๋วยเตียวทาน เหมือนเส้นเล็กผัดซี่อิ้ว เส้นเขาอร่อยค่ะ 5 หยวน เดินไปอีกนิดเจอร้านผลไม้ ซื้อแอปเปิลตุนไว้ อีกนิดเจอร้านขายยาแบบห้องแถว 1 ห้อง ม๊าซื้อยาแตงโม (ทาแก้ปากเปื่อย ร้อนใน) ทีแรกบอกราคา 7.80 หยวน ต่อขวด  บอกจะเอาทั้งแถวๆ ละ 12 ขวดแล้วเอา 4 แถว ไปฝากญาติๆ ได้ลดเหลือขวดละ 6.50 หยวน สอบถามคนแถวนี้ว่าเรียกแท็กซี่ไปท้องคั้งเท่าไร เขาบอก 150 หยวน ได้ข้อมูลก็กลับ รร.พัก 

รุ่งเช้าเช็คเอาท์บอกให้ช่วยเรียกแท็กซี่ให้ไปท้องคั้ง (ป้าเคยมีประสบการณ์พูดแล้วแท็กซี่ไม่เข้าใจพาไปส่งผิดเมือง เลยเตรียมแผนที่พร้อมชื่อเมืองภาษาจีนและอังกฤษให้พนักงานประกอบการต่อรองราคา) ได้ 200 หยวน  เอา..เพื่อไม่ให้เสียเวลา แพงอีกนิดก็ยอม แท็กซี่วิ่งช้าเขาบอกมีจำกัดความเร็ว ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม  ถึงท้องคั้งไปพัก รร .เทียนเจียง (ที่คุณอาฉี กำลังจะจัดไป) ห้องมี 2 ราคา 168 หยวน ต้องลงไปอาบน้ำแร่ข้างล่างเวลาเข้าก็ต้องจ่ายอีก 30 หยวน กับราคา 198 หยวน มีขึ้นมาบนห้องน้ำเลย  จึงเลือก 198 หยวน เพื่อสะดวกและไม่ต้องเขินใส่ชุดว่ายน้ำและไม่ต้องซื้อที่นั่นเพราะไม่ได้เตรียมไป สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้อง ถั่วลันเตาผัดซีอิี้ว+ข้าวเปล่า 27 หยวน OK ค่ะอร่อย

ลงมาเรียกตุ๊กๆ ที่ใช้มอไซด์ต่อเติมให้พาวนชมตลาดแล้วส่งร้านอาหาร ถามเท่าไร เขาบอกแล้วแต่ให้  ถูกใจค่ะ OK ให้แวะส่งโปสการ์ดให้ที่ไปรษณีย์ใบละ 10 หยวน แล้วต้องเขียนภาษาจีนว่า ไทกั๊ว เพิ่มตรงจ่าหน้าไม่งั้นคนส่งไม่เข้าใจ เลยต้องให้คนขับตุ๊กๆ เขียนให้ เห็นแผงขายท้อสดม๊าชอบกิน แวะซื้อให้คนขายบอกต้องเอานิ่มๆ จะหวาน แต่เราบอกว่าเอากรอบๆ เพราะม๊าชอบกรอบๆ ไม่แพงค่ะ ชั่งตามน้ำหนักจ่ายไปประมาณ 15 หยวน เกือบ 1 กก. จอดทานอาหารแคะ ไก่อบเกลือ ปลานึ่งซีอิ้ว แกงจืดผักอะไรจำชื่อไม่ได้เป็นฝอยๆ เหมือนรากผักชี เขาบอกว่าเก็บจากบนเขากินแล้วดีต่อสุขภาพ แต่เราว่ารสชาดเฝื่อนๆ ฝาดๆ ต้มใส่กระดูกหมู  ผัดผัก ข้าว จ่ายไป 140 หยวน  สำหรับเรา 2 คนแม่ลูกและคนขับตุ๊กๆ  โอ..มื้อนี้แพง กลับ รร.อาบน้ำแร่สบายใจดีกว่า

แวะเคาน์เตอร์ รร.ให้นัดแท๊กซี่พาไปหมู่บ้านตระกูลฉีของม๊า(ลี้หวุกเหลียว) ตระกูลเฟิงของป๊า(ก๊วงฝูฉ่าย/ ก๊วงฝูชุ้น)  ตระกูลจางของอากุ๊ง(เหล่เถ่วซัน) (ตามใจม๊าเลยว่าอยากไปไหน) เขาบอกว่าราคาคิดตามเวลาและระยะทาง 100-200 หยวน อ้อ..ทุกคนที่นี่พูดภาษาจีนแคะกันทั้งนั้น 

เช้าก็มารับ รถ TOYOTA เก่าๆ สัก 20 ปีได้เปิดแอร์นั่งสบาย แวะชมบ่อน้ำแร่สาธารณะของหมู่บ้านที่ตอนนี้กำลังสร้างใหม่ แวะวัดเก่าแก่ในตลาด  มาหมู่บ้านป๊า ความที่ไม่มีญาติอยู่แล้วก็แค่จอดถ่ายรูปกลับมาเท่านั้น พอแวะตระกูลฉีที่ศาลบรรพชนเราก็ถ่ายรูป พอดีเป็นวันไหว้คนแก่หลายคนมาไหว้ เห็นเราถ่ายรูปก็ถามว่ามาจากไหน บอกว่ามาจากเมืองไทย ถามว่าเคยมีญาติอยู่หรือชื่ออะไร ม๊าบอกว่าไม่หวังว่าจะเจอเพราะนานมากแล้วคงไม่เจอ เขาบอกว่าให้บอกชื่อคนแก่ๆ มา  ม๊าบอกชื่อยายไป เผอิญจริงๆ มีคนแก่ที่รู้จัก (ทีแรกไม่เชื่อ กลัวโดนต้ม) เขาไล่ให้ฟังว่าคนนี้มีพี่น้องกี่คน ชื่อนี้ๆๆๆ มีลูกกี่คนชื่อนี้ๆๆ โห..จำแม่นมาก ม๊าน้ำตาซึมด้วยความดีใจ  ถามกลับว่าเธอชื่อไร เขาบอกชื่อปั๊บม๊าจำเขาได้ทันทีเพราะเคยเจอตอน 40 ปีก่อน เขาถามกลับว่าเราเรียกยายว่าอะไร เราบอกเรียก อาโผ เขาถามม๊าว่าเรียกยายว่าอะไร ม๊าบอกเรียกอาเม้  เขาถามว่าม๊าชื่ออะไร  พอบอกไป ก็ตกใจและดีใจแนะนำตัวว่าเป็นญาติข้างไหนๆ แถวนี้มีญาติหลายบ้านชี้ให้ดู แล้วบอกเด็กให้ไปตามญาติสนิทมา พอญาติสนิทที่เป็นน้องสะใภ้ม๊ามาก็ดีใจพาไปบ้านที่อาโผเคยส่งเงินมาให้เขาสร้างใหม่อยู่กัน 3 หลังติดกันหลังศาลเจ้าบรรพชนเยื้องๆ ไปทางขวา ไม่ไกล ซอยแรกติดศาลเจ้าเลย เข้าไปตรงๆ สุดซอย นั่งคุยกัน 2 ชม ต้องขอตัวเพราะคนขัแท๊กซี่รออยู่ ญาติบอกให้เลื่อนวันกลับ ก็บอกว่าไม่ได้ทำใจจะเจอตั๋วจองแล้วเปลี่ยนไม่ได้แต่จะมาอีกพาคิ้วเม้มา เขาบอกอย่านานนะ คราวก่อนก็ 40 ปี ได้เบอร์โทร.มือถือหลานชายมาด้วย คราวนี้ติดต่อได้สะดวกแล้ว แท็กซี่พาแวะศาลเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวบนเขา แล้วกลับ รร.

รุ่งขึ้นให้แท็กซี่ไปส่งซัวเถา 300 หยวน พัก รร. Shantou Oversea สะดวก ใกล้ๆ เป็นห้าง เดินกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา 5 หยวน น้ำแตงโมปั่น 3 หยวน ม๊าซื้อขนมเปี๊ยะกลับมาลองชิมว่าอะไรมั๊ย มองไก่แจ้อบยังไม่กล้าซื้อแต่อยากลองกลับมาเล่าให้ป๊าฟังโดนว่าเลยว่าอยากลองทำไมไม่ซื้อ ไปทั้งที คราวนี้พาคิ้วเม้ไปจะพักที่นี่แล้วเดินไปซื้อไก่แจ้อบทานให้ได้เลย  แค่นี้ค่ะ แค่ไปเดินชมแล้วเผอิญเจอญาติ ไม่ได้ตั้งใจจะไปไหนไกลๆ เพราะม๊าเดินไม่ไหวแล้วไปกันแค่ 2 คน ไม่รู้จักถนนหนทาง

 

  ไปท้องคั้งอีกรอบ  ช่วง 30 สค- 6 กย 53  พาแม่ คิ้วเม้ เซ่คิ้วเม้ กะลุกสาวของทั้ง 2 ท่านไปด้วย รวม 8 คน  คราวนี้ให้ญาติเรียกรถตู้มารับจากสนามบินไปท้องคั้งเลย  พัก รร เฟิงถู คืนละ 168 หยวน อยู่ใจกลางเมืองท้องคั้ง สะดวกมากสำหรับเดินช้อปปิ้งซื้อของเอง  2 วันแรกให้รถพาไปเยี่ยมญาติๆๆๆๆๆ และไหว้สุสานบรรพชนฝ่ายแม่ คือ เซี่ยงฉี  ที่เหล่เถ่วซั้น กะ ไถ่หมุ่นเหลว (เดิมอยู่ที่ ลี้หวุกเหลียว แต่น้ำท่วมชาวบ้านจึงย้ายเขยิบขึ้นไปที่สูงกว่าอีกหน่อย) เอากุ้งแห้งไปฝากคนที่นั่นชอบมากมาย  เขาว่าเมืองเขาตัวเล็กกว่าที่ให้เท่าตัว แล้วก็ราคาแพง  เที่ยววัดจี้กง ห

    เหมารถตู้เที่ยว บ้านดินทรงกลมโบราณ ของตระกูลเซี่ยงฉี สร้างมา 500 กว่าปีแล้ว  ทางขึ้นเขาลัดเลาะไปหลายลูกมาก ถนนยังไม่คอยดี เขากำลังสร้าง  รร บ้านดินโฮมสเตย์ที่นี่คืนละ 120 หยวน ห้องเป็นไม้หนาเนื้อแข็งเก่าแก่แข็งแรง ห้องน้ำปรับเปลี่ยนทันสมัย  แต่ต้องเดินขึ้นเนินเขาไป  คนแก่เดินไม่ไหวเลยจองเหมา รร เล็กๆ ที่อยู่ติดถนนเลยไม่ต้องเดิน  ที่นี่ทุกคนเซี่ยงฉีหมด ไม่ว่าจะร้านอาหาร คนขายของเบ็ดเตล็ด  ใครไปพักมีบัตรประชาชนจีนระบุว่าเซี่ยงฉี เขาให้พักฟรีด้วย  ใจดีกันจัง เป็นตึกแถวกั้นห้องแบ่งให้เช่าเป็นห้องเล็ก เหมือนหอพักมีพัดลม ห้องน้ำรวม ชั้นละ 5 ห้อง เลยเหมาทั้งชั้น 300 หยวน อาหารบนนี้มีไก่กับผัดผักบุ้ง ผัดใบมัน เท่านั้น   รุ่งขึ้นแวะพิพิภัณฑ์ของนายหูเหวินหู่ (ยาหม่องตราเสือ)  รถขับลงมาถึงถนนใหญ่แวะเติมน้ำมัน เราแวะทานก๋วยเตี๋ยวน้ำเป็นเส้นอูด้ง ใส่ลูกชิ้นหมู อร่อยมาก  กลับออกมาเที่ยวเหมยเสี้ยน เหมยโจว พักที่นี่อีกคืน   แวะบ้านญาติที่ทำอาหารเองเลี้ยงพวกเรา อิ่มแล้วรถพากลับไปท้องคั้ง  ค่ารถเหมา 2 วัน 3 คืนนี่ 2300 หยวน

   รุ่งขึ้นให้รถพาไปเที่ยวเจียหยาง ไปเมืองเก่า เดินชมเมือง ไหว้พระ อาหารที่นี่ไม่แพง  ขาออกมาจะนั่งสามล้อถีบวนรอบเมือง คันละ 2 คน/ 20 หยวน  เขาแย่งลูกค้ากันเถียงกันเสียงดังหลายคนช่วยกันฝ่ายใครฝ่ายมัน  เรากลัวลูกหลงเลยไม่นั่งกันแล้ว  เดินหนีไปดีกว่า  ฮะ  ฮะ  อดทั้งคู่  เดินได้ซีกเดียวก็ออกเพราะคนแก่เดินมากไม่ไหว  ชมสะพานตรงข้ามประตูเมือง  ไปไหว้เจ้าแม่หม่าจู เจ้าแม่กวนอิมบนเนินเขา  ผ่านสวนสนุกแบบดรีมเวิร์ลเลยแต่ไม่ได้แวะเพราะมีแต่คนแก่ไม่รู้จะเล่นอะไรได้  กลับท้องคั้ง (ทีแรกว่าจะค้างที่นี่แล้วรุ่งขึ้นไปซัวเถาเลย) แต่คนขับรถบอก ท้องคั้ง- เจียหยาง ใกล้ๆ 30 กม เอง  กลับมานอนท้องคั้งจะได้ไม่ต้องขนกระเป๋าหลายรอบค่อยขนตอนไปซัวเถาทีเดียว  แต่นั่งรถเป็น ชม.กว่าทีเดียว   ไป-กลับ ก็หมดไปครึ่งวันแล้ว

   วันนี้รถพามาซัวเถา  ทานอาหารกันแล้วแวะซื้อครีมบัวหิมะ ขนาด 500 กรัม 198 หยวน  ส่งเราเข้า รร Shantou Oversea คราวก่อนก็เห็น รร นี้มีบัวหิมะเลยแวะเข้าไปถามขนาดเดียวกัน ราคา 180 หยวน  แป่วววว  เย็นออกไปเดินห้างโลตัสซื้อของฝาก เดินถนนคนเดินข้างๆ กลับมาทานอาหารชาวเขาในห้างโลตัส  กลับมาเตรียมตัวแพ็คกระเป๋ากลับเมืองไทยรุ่งเช้า

 

 

 


เที่ยวท้องคั้ง (ต่อค่ะ)

(ร่วมกิจกรรมปีใหม่ 2555)

 ช่วงที่ไปถึงหมู่บ้านฉี  เจอะเจอญาติๆ คุยกัน  ป้าบอกว่าไหนๆ ได้กลับมาถิ่นเก่าบรรพบุรุษจึงขอไหว้บรรพชนรวมๆ ทั้งหมด  ขอให้ญาติที่นี่จัดอาหารต่างๆ โดยพวกเราที่มาจาก กทม จะจ่ายเงินทั้งหมดเอง  กำหนดการอีก 2 วัน  วันนี้จึงให้รถตู้รับจ้างพาไปทานอาหารชั้นเยี่ยมสุดของท้องคั้ง  และเนื่องจากเราอยากทดลองอาหารท้องถิ่นจึงให้ทางร้านจัดจานเยี่ยมยอดมา   ปรากฏว่ายอดสุของเขาคือ ...ผึ้งทอด...พวกเราเห็นแล้ว อ้าปากกันทุกคน เพราะเคยกินแต่น้ำผึ้ง  ไม่เคยกินตัวผึ้ง  แต่ไหนๆ ก็จัดมาแล้วก็เลยทดลองกินดู  รสชาดก็มัน มัน เหมือนที่กินตั๊กแตนทอด ทางเหนือกินรถด่วน  อะไรประมาณนั้นล่ะค่ะ  จานแพงเชียวค่ะเพราะเขาบอกว่าได้วิตามินมากมาย   ส่วนอาหารทะเลที่นี่หายากและตัวเล็กๆ ไม่น่าทานค่ะ  กลับมาทานเมืองไทยจะดีกว่าแยะ

   ถึงวันไหว้บรรพบุรุษก็ไหว้กันที่ศาลบรรพชนของตระกูล  แล้วตั้งโต๊ะทานเลี้ยงกันรวมญาติๆ ประมาณ 30 คน ทานไป คุยไป อร่อยและสนุกมาก  ญาติที่นั่นก็บอกว่าไม่ได้ทานข้าวพร้อมกันทั้งหมดเช่นนี้มาหลายสิบปีแล้ว  ส่วนใหญ่จะบ้านใครบ้านมัน และต้องทำงาน  โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดของพวกเขา  ป้า และ แม่ ปลื้มใจสุดๆ ที่ได้พร้อมหน้าพร้อมตาญาติๆ ที่ไม่เจอกันร่วม 50-60 ปี  ทานแล้วก็ไปไหว้หลุมศพญาติผู้ใหญ่ที่หนุ่มๆ เคยล่องสำเภามาทำงาน กทม พอแก่ก็กลับมาอยู่ท้องคั้ง และเสียชีวิตที่นี่  จึงเป็นการไหว้ครั้งแรกตั้งแต่เสียชีวิตไปเกือบ 20 ปี แล้วได้จ้างให้ชาวบ้านซ่อมแซมหลุมให้สวยงาม  เผากระดาษเงินกระดาษทองเซ่นไหว้อาหาร ผลไม้ สุรา ตามประเพณีเล็กๆ   วันนี้จึงเป็นวันที่พวกเราสบายใจที่สุดที่ได้กราบไหว้บรรพชนทุกรุ่นครบถ้วน  ทำหน้าที่ลูกหลานเหลนเต็มที่และไม่รู้สึกติดค้างในใจที่ร่ำแต่ว่าจะต้องมาท้องคั้งให้ได้ตามหน้าที่  ต่อไปจะเป็นการมาท้องคั้งตามที่ใจอยากมา  เพื่อท่องเที่ยว  เพื่อพบเจอญาติๆ ที่เหลืออยู่

    ช่วงที่จะไปบ้านดิน  ขอเปรียบเทียบบ้านดินที่ลงในเน็ตเป็นมรดกโลกของ UNESCO  เขาเรียก ไถ่ผู่โหล่ว   เราไปไม่ถึงค่ะ  เนื่องจากเริ่มมืดระหว่างทางที่ไปบ้านดินตระกูลฉี  เขาเรียก ฉีผู่โหล่ว  แตกต่างกันที่ความใหญ่โตล่ะค่ะ  ฉีผู่โหล่วมีบ้านดินที่เป็นวงกลมกระจายอยู่ 7-8 วง  การกระจายทำให้ดูไม่เด่น  แต่บ้านดิน ไถ่ผู่โหล่ว  มีวงกลมซ้อนๆ ติดๆ กันมากมายกว่าแยะ  จึงดูสวยกว่า เด่นกว่า  และมีงบการบำรุงรักษาจากรัฐมากกว่าแยะ  เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ  ส่วนบ้านดินตระกูลฉี มีงบน้อยกว่า    โดยทุกบ้านดินจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่รัฐสับเปลี่ยนเฝ้าตลอดเวลาและทุกตระกูลจะใช้บ้านดิน 1 วงกลมทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของตระกูล  ขายตั๋วเข้าชมเพื่อเป็นรายได้และให้เช่าห้องพักนำรายได้มาบำรุงรักษาสถานที่ต่อไป

  ก่อนจะเดินทางไปบ้านดิน   จากท้องคั้งก็ต้องวิ่งขึ้นไปที่เมืองเหมยโจว  เลยแวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์จีนแคะที่นี่ด้วย เข้าชมฟรีค่ะ  ดีจัง  ระหว่างทางที่ไปบ้านดินสภาพถนนจะเป็นกำลังก่อสร้างส่วนนึง ให้วิ่งใช้งานได้แล้วส่วนนึง ไปตลอดทาง  มีจุดที่เป็นหมู่บ้าน ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน   ยังไม่มีร้านขายของที่ระลึกค่ะ  สภาพรถจึงต้องดีและพร้อมเดินทางทรหดนะคะ 

   เย็นที่บ้านดินตระกูลฉี  มีร้านค้าชาวบ้านเป็นร้านอาหาร 2-3 ร้าน  เริ่มปิดร้านกันแล้ว  เหลือ 1 ร้านที่การตลอดยอดมาก  มีการเดินมาบอกว่าเดินทางเหนื่อยๆ เรียกพวกเราให้นั่งกินน้ำชาที่ร้านก่อน  ก็เลยได้ลูกค้าทานอาหารด้วยเลย  แต่เนื่องจากเขาไม่ได้เตรียมรับนักท่องเที่ยว  อาหารที่ตามบ้านมีก็ เป็ด ไก่ ที่เปิดสุ่มจับมา (น่าสงสารจัง  เห็นกะตา ทานไม่ลงเลยค่ะ เลยบอกขอแค่ไก่ 1 ตัวพอแล้ว)  แล้วก็ ผักที่เดินไปเด็นในสวนมาสดๆ  ทานกันได้นิดหน่อยเพื่อไม่ให้ท้องร้อง ทางร้าน งง ที่พวกเราตั้งหลายคนกินอาหารไปไม่ถึงครึ่ง เหลือแยะเลย  อาหารถูกค่ะ แต่ที่แพงคือ เหล้าดอง  ที่คนขับรถสั่งกิน  ชาวบ้านจะดองเหล้ากินกันเอง คืนนั้นชาวบ้านหลับกันเร็ว เงียบสนิท ได้ยินเสียงธารน้ำไหล มองลอดหน้าต่างออกไป มืดสนิทเห็นดาวแสงลิบหรี่ไม่สว่างไสวเลยค่ะ  แปลกถิ่นแปลงที่ก็นอนหลับๆ ตื่นๆ พอได้แรงเดินทางกลับ  สงสารคนแก่ของเรา ป้า และ แม่ ที่ต้องนั่งรถกระเด้งกระดอนตลอดทางไปกับพวกเรา  สาวๆ สนุกค่ะ  แต่คนแก่ไม่ค่อยพูดค่อยจา อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่พามาลำบากแต่ก็นะ ครั้งหนึ่งในชีวิต  แล้วถ้าไม่ไปกับทัวร์ก็คงไม่ได้ไปกันเองอีกแล้วในชีวิตจริงๆ

    กลับ กทม ได้ 1 เดือนแล้ว  พวกเรายังคุยให้ญาติคนอื่นๆ ฟังเรื่องท้องคั้งไม่เบื่อซะที พี่ๆ ที่ไม่เคยเดินทางท่องเที่ยวกันเอง  เคยแต่ไปกับทัวร์ เล่าว่าไม่เคยนึกเลยว่าไปเที่ยวเองจะสนุกอย่างนี้  ได้เที่ยวและทำอะไรต่ออะไรตามใจทุกอย่าง  อยากไปเที่ยวเองอีก   ป้าก็บอกว่าอยากไปเที่ยวอีกแบบนอนอยู่บ้านนานๆ สัก 7 วัน เหมือนอยู่บ้านตัวเอง ทำอาหารกินเอง  นั่งคุยอย่างเดียว  ไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ   เราก็รับปากว่าจะพาป้าและแม่ไปเองอีกแบบไปอยู่บ้านเฉยๆ นั่งคุยกับญาติๆ ให้จุใจ  หลังตรุษจีนไปแล้วนี่ล่ะค่ะ  แต่มาเจอน้ำท่วม กทม ทั้งป้า ทั้งแม่ ทั้งเรา ญาติพี่น้อง   เจอกันถ้วนหน้า  เหนื่อยกับการซ่อมแซมบ้านกันอยู่เลย  จึงไม่รู้ว่าหลังตรุษจีนแล้วจะยังมีอารมณ์ไปเที่ยวท้องคั้งกันอีกหรือเปล่า   ถ้าได้ไป  จะกลับมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ   

    ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านค่ะ

ปล.  อยากได้หนังสือ คือฮากกา คือจีนแคะ  เก็บสะสมไว้ตลอดไปค่ะ  เวลาบอกเล่าให้หลานๆ เหลนๆ ฟัง  ก็จะได้หยิบหนังสือมาเปิดให้ดูประกอบเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ได้อ่ะค่ะ

  (ร่วมกิจกรรมปีใหม่ 2555)

รูปภาพของ webmaster

แล้วจะส่งให้ครับ

ขอบคุณที่ร่วมสนุกกัน

ช่วงหยุดปีใหม่อาจจะถึงช้าหน่อยคงไม่ว่ากันนะ

ได้รับแล้วค่ะ

ได้รับแล้วค่ะ  ขอบคุณมากค่ะ 
เอาไปให้หม่าม๊าไว้ใส่แว่นอ่านระลึกอดีตแล้วค่ะ  ท่านยิ้มชอบใจมากค่ะ  
เพื่อรอยยิ้มหม่าม๊าเท่านี้ล่ะค่ะ  ช่วงน้ำท่วมป่าป๊าอพยพหนีน้ำแล้วเหนื่อย
ทานไม่ได้ นอนไม่หลับ  เสียชีวิตไปแล้ว  ก็เหลือแต่หม่าม๊าที่ลูกๆ
ต้องดูแลให้ดียิ่งกว่าเดิม  ช่วงนี้ซึมๆ เหงาๆ ค่ะ  
เลยรีบหาเพลงจีนที่คุณอาฉีเคยให้มา พร้อมหนังสือเล่มนี้ 
ไปให้เปิดฟังและอ่านแก้เหงา  มีจังหวะก็คุยเล่าที่เคยไปเที่ยวกันมา 
ความสุขเล็กๆ ค่ะ   ขอบคุณคุณอาฉีที่ทำให้หม่าม๊ามีรอยยิ้มค่ะ

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal