หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

10 ยอดชาจีน จัดอันดับโดยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน

รูปภาพของ YupSinFa

 
คืนวันนี้ 5 ธันวาคม พ.ศ.2553 เวลา 21.51 น. เป็นวันมหามงคลของปวงชนชาวไทย เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มหาราช ข้าพระพุทธเจ้า นายKlit.Y หรือในชื่อภาษาจีนฮากกาว่า "ยับสินฝ่า" ผู้ที่บรรพบุรุษพามาเกิดภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันสุดจะประมาณได้ ขออัญเชิญฤทธานุภาพแห่งพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสยามเทวาธิราชและบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ในนามของ ชาวไทยเชื้อสายฮากกา ทุกคน ในผืนแผ่นดินไทย และทั่วโลก ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ฯ

 

ยับสินฝ่า ได้ทำการเรียบเรียงสุดยอดชาจีน 10 อันดัีบ ที่ได้มีการจัดอันดับโดยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2010 นี้ โดยรวมแล้ว 10 ยอดชาจีน ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับไปมากเท่าไหร่ เพียงแต่ ในครั้งนี้เป็นการจัดอันดับที่เป็นทางการ และยับสินฝ่า ได้ตัด สุดยอดชาจีน อันหนึ่ง คือ ชาดอกมะลิ หรือ "ม่อลี่ฮวาฉา" ออกไป แล้วมีชาตัวใหม่ขึ้นมาแทน 10 ยอดชาจีนนั้น จะมีอะไร แล้วมีข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มเติมอย่างไร ขอให้ทุกท่าน โปรดติดตามอ่านได้ในบัดเดี๋ยวนี้เลยครับมาติดตามพร้อมกันครับ

ดังที่ได้กล่าวถึงเรื่องชา ใน "รวมเรื่องชาจีน" มาแล้วเมื่อประมาณเกือบสามปีก่อนพร้อมกับการสถาปนาชุมชนฮากกาแห่งประเทศไทยนี้ัขึ้นมา ยับสินฝ่าได้กล่าวไปแล้วว่า จีน เป็นต้นกำเนิดของใบชา ชาวจีนได้ดื่มชา มาเป็นเวลาติดต่อกันมาไม่ต่ำกว่า 3 พันปี มีปรมาจารย์ด้านชาจีน ในประวัติศาสตร์ชาติจีน นามว่า "หลูอวี้" อันเป็นนักปราชญ์ในสมัยราชวงศ์ถัง ได้เขียนตำรา "ฉาจิง" ขึ้น อันบรรยายถึงความเป็นมาของชาจีนอย่างพิสดาร โดยได้เขียนไปในคราวก่อนหน้านี้แล้ว จึงขอเข้าเรื่องราว เกี่ยวกับ 10 ยอดชาจีน ที่ได้เรียบเรียงขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ทันสมัย เป็นปัจจุบัน เรามาติดตามกันเลยครับว่า 10 ยอดชาจีน ที่ทางการจีนรับรองออกมานี้นั้น มีอะไรกันบ้าง อ้อ! 10 ยอดชาจีนที่ยับสินฝ่า จะเขียนถึงนี้ ไม่ได้เรียงอันดับจากก่อนไปหลัง-มากไปน้อย นะครับ มาดูกันครับ ว่า 10 ยอดชาจีนนั้น มีชาอะไรกันบ้าง

ขอย้อนเอ่ยถึงชนิดของชาจีนกันก่อนนะครับ ว่า ชาจีน มีชนิดใดบ้าง ชาจีนนั้น มี ชนิดของชา โดยแบ่งออกตามสีของน้ำชาที่ได้ รวมถึงกระบวนการผลิต ออกมาเป็นชาพร้อมชงดื่ม ชาจีนจึงมี ชาขาว ชาเขียว ชาแดง ชาเหลืองอำพัน และชาดำ นะครับ ท่านทั้งหลาย ทีนี้เมื่อทราบถึงชนิดของชาจีนกันแล้ว ว่า มี 5 ชนิด มาดูกันเลยครับว่า สุดยอดชาจีนทั้ง 10 นั้น มีชาอะไรบ้าง

1. หลงจิ่งลวี้ฉา หรือ "ชาเขียวหลงจิ่ง"

ชาหลงจิ่ง ตั้งชื่อตามบ่อน้ำหลงจิ่ง หรือ "บ่อมังกร" แห่งทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ชาหลงจิ่งเป็นชาเขียวที่ถือว่ามีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศจีนและในโลก ถ้าพูดกันถึงเรื่องชาเขียว ก็ต้องยกให้ชาเขียวหลงจิ่ง มาเป็นอันดับ 1 ชาเขียวหลงจิ่งนี้ มีประวัติอันยาวนานกว่า 1 พัน 2 ร้อย กว่าปี มีกลิ่นหอมหวลชวนดื่มมาก สีของน้ำชาหลงจิ่งมีสีเขียวมรกต ชาหลงจิ่งหรือบ่อมังกร หรือ สระมังกร นั้น ว่ากันว่า มีอยู่ 3 บ่อ ด้วยกัน คือ 1.ซีหูหลงจิ่ง หรือบ่อมังกรแห่งทะเลสาบซีหู 2.เฉียนถางหลงจิ่ง คือบ่อมังกรแห่งหมู่บ้านเฉียนถาง และ 3.ยวี้โจว หลงจิ่ง หรือบ่อมังกรแห่งเมืองยวี้โจว ซึ่งทั้งหมดอยู่รายรอบทะเลสาบซีหู เมืองหางโจว ดินแดนแผ่นดินที่สุดแสนสวยงามแห่งเจียงหนาน ของประเทศจีน ชาเขียวหลงจิ่งนี้ จึงเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีนมาเป็นเวลานาน ในสมัยราชวงศ์หมิง ชาเขียวหลงจิ่งนี้ถูกจัดให้เป็นเครื่องราชบรรณาการแด่ราชสำนักในกรุงปักกิ่ง 

ความเป็นมาของชาเขียวหลงจิ่งนี้ มีกำเนิดมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง การเก็บใบชามาทำชาเขียวหลงจิ่ง ชาวเมืองหางโจวนิยมเก็บยอดใบชาในช่วงก่อนเทศกาลชิงหมิง(เชงเม้ง) ชารุ่นนี้จะถูกเรียกว่าชาก่อนชิงหมิง อันเป็นชาหลงจิ่งที่ถือว่าเป็นชาที่ดีมาก ๆ อีกครั้งหนึ่งในรอบปี คือ เก็บในช่วงก่อนเทศกาล "กู๋หยวี่" (เทศกาลกู๋หยวี่คือช่วงที่มีการทำพิธีกรรมบูชาฟ้าดินเพื่อการเตรียมตัวเพาะปลูกของชาวไร่ชาวนาจีน เปรียบเหมือนกับของไทยคือพิธีแรกนาขวัญนั่นเอง) 

ขอบอกเล่าเรื่องราวของความเป็นมาของบ่อมังกรหรือสระมังกรแห่งทะเลสาบซีหู เมืองหางโจวสักเล็กน้อย สระมังกร หรือหลงจิ่ง ถูกขุดสร้างในสมัยราชวงศ์โฮ่วฮั่น หรือฮั่นหลัง 949 ปี ก่อนคริสตศักราช และคงอยู่ยืนยาวมาจนถึงกระทั่งในปัจจุบันนี้ รวมแล้วประมาณกาลได้ 2 พัน 9 ร้อย กว่าปี

2. ผูเอ่อร์ ฉา หรือ "ชาผูเอ่อร์" 

ชาผูเอ่อร์ ถูกจัดเป็นชาดำ เพราะเป็นชาที่ต้องใช้กระบวนการหมัก และมีการหมักอย่างยาวนานเป็นสิบ ๆ ปี จนถูกกล่าวขานกันว่า เป็นชาที่ผลิตในรุ่นของปู่ แล้วนำออกขายได้ในรุ่นของหลาน  ชาผูเอ่อร์ นี้ มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ไม่มีชาจีนในมณฑลไหนเหมือน และไม่เหมือนชาของมณฑลอื่น กล่าวคือเป็นชาจีนเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ที่ผลิตโดย "ชนชาติหยี" อันเป็นชนชาติส่วนน้อยของประเทศจีน 1 ใน 56 ชนชาติ ชาผูเอ่อร์มีแหล่งเพาะปลูกและผลิตในเขตจังหวัดปกครองตนเองชนชาติหยีแห่งผูเอ่อร์ ขึ้นกับแคว้นปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนาน นับว่าเป็นชาชนิดเดียวของมณฑลหยุนหนาน ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ยอดชาจีน

ชาผูเอ่อร์เป็นชาที่ถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการหมัก แล้วนำมาอัดเป็นก้อนกลม ๆ เป็นแผ่นวงกลม และเป็นเส้น ๆ ชาผูเอ่อร์จึงมี 3 แบบด้วยกัน สีของน้ำชาผูเอ่อร์นี้จะเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ เนื่องจากผ่านกระบวนการหมักบ่มมานานเป็นสิบ ๆ ปี กลิ่นของชาผูเอ่อร์นี้จะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ว่ากันว่า ผู้ใดได้ดื่มชาผูเอ่อร์เป็นครั้งแรก จะทำหน้าเจื่อน ๆ เพราะมีกลิ่นเหมือนฉี่เด็ก อันนี้คนจีนเขาว่ากันนะ แต่เมื่อได้ลองลิ้มรสที่ละเมียดละไมเข้าไปเป็นครั้งที่สองแล้ว เมื่อนั้น จะหลงไหลในเสน่ห์และรสชาติที่หอมหวานติดปากติดคอของชาผูเอ่อร์ให้จนได้ในที่สุด รสชาติของชาผูเอ่อร์จะออกอมหวานนิด ๆ ชาผูเอ่อร์นับว่าเป็นชาน้องใหม่ไฟแรงของชาจีน เพราะมีอายุการผลิตและการมีชื่อเสียงที่เป็นน้องใหม่ล่าสุดของชาจีน แต่กลับมาแรงแซงโค้งมีการปั่นราคาและเพิ่มมูลค่าของชาจนถูกเรียกว่าเป็นชาที่มีราคาแพงดุจดั่งทองคำ ชาผูเอ่อร์นี้ ยิ่งเก่าเก็บเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคุณค่า และราคาที่พุ่งขึ้นสูงตามไปด้วย จนชาผูเอ่อร์นี้ ถูกตั้งฉายาว่า "ของโบราณที่ืดื่มได้"

โดยทั่วไป ชาจีนนั้น ยิ่งใหม่เท่าไร ก็ยิ่งหอมเท่านั้น แต่ชาผูเอ่อร์ กลับตรงกันข้าม คือยิ่งเก่าเท่าไร ก็ยิ่งหอมมากขึ้นเท่านั้นและราคาก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบันนี้ มีชาผูเอ่อร์ที่แพงที่สุด ถึง 5 แสนบาทไทย เป็นชาที่มีอายุกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ยังหาชาที่มีอายุกว่าร้อยปีไม่ได้ ถึงถ้ามีก็คงมีราคาที่ประเมินค่าไม่ได้ ท่านจะเป็นอีกสักคนหนึ่งไหม? ที่จะซื้อชาผูเอ่อร์มาประดับตู้โชว์ที่บ้าน เหมือนกับที่มหาเศรษฐีใหม่ของจีน เขานิยมเอามาตั้งโชว์อวดความรวยกัน???

3. ปี้หลัวชุน ฉา หรือ "ชาปี้หลัวชุน" 

ชาปี้หลัวชุน เป็นชาเขียวอีกชนิดหนึ่งของจีนที่ติดอันดับ 1 ใน 10 สุดยอดชาจีน มีถิ่นกำเนิดและผลิตในแถบภูเขา "ต้งถิง" เมืองไท่หู มณฑลเจียงซู ที่ซึ่งมีอากาศและสภาพดินที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของต้นชา ชาปี้หลัวชุนเป็นชาที่ถูกปลูกร่วมกับต้นไม้ผลชนิดต่าง ๆ ของจีน ได้แก่ต้นสาลี่ ท้อ บ๊วย พลับ ส้มจีน ไป๋กว๋อ  และทับทิม ดังนั้น ชาปี้หลัวชุน จึงมีกลิ่นหอมหวลของดอกไม้ผลเหล่านั้นติดมากับใบชาด้วย นับว่าเป็นความโดดเด่นของชาปี้หลัวชุน

ชาปี้หลัวชุนมีประวัติยาวนานมากว่า 1 พันปี มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย ถัง และ ซ่ง ในสมัยราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายของจีน จักรพรรดิ์คังซี จึงทรงตั้งชื่อชานี้ว่า "ปี้หลัวชุน" อันมีความหมายว่า "ชาเขียวรูปก้นหอยแห่งฤดูใบไม้ผลิ" เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ์คังซีมาก ใบชาปี้หลัวชุนมีสีเขียวสด กลิ่นหอม  รูปร่างของใบชามีความสวยงามม้วนเหมือนกับก้นหอย รสชาติหวานหอม ถือกันว่าช่วยแก้ร้อนในได้ดีนัก แล.

เช่นเดียวกัน ชาปี้หลัวชุนนี้ ก็ต้องถูกจัดเป็นเครื่องราชบรรณาการที่ขุนนางของเจียงซูจะต้องส่งเข้าไปในพระราชวังหลวงทุกปี

4. เถี่ยกวนยิน ฉา "ชาเที้ยะกวนอิม" 

เถี่ยกวนยิน หรือเที้ยะกวนอิม เป็นชากึ่งหมัก ถือเป็นชาเหลืองอำพัน ซึ่งอยู่ในระหว่างชาแดงและชาเขียว คุณลักษณะของใบชาเที้ยะกวนอิมนี้ใบชามีความหนา เรียว รี ก้านใบแข็ง ปริมาณการเก็บได้ในแต่ละปีมีจำนวนน้อยมาก ชาวจีนว่ากันต่อ ๆ มาว่า ถ้าจะดื่มชา จะต้องดื่มชากังฟู และถ้าจะดื่มชากังฟู ก็ต้องดื่มชา เที้ยะกวนอิม และชาเที้ยะกวนอิม ก็จะต้องเป็นชาของอำเภอ"อานซี" มณฑลฝูเจี้ยนหรือฮกเกี้ยน 

ความเป็นมาของชาเที้ยะกวนอิม ว่ากันว่าในยุคปลาย คริสตศัตวรรษที่ 18 ในหมู่บ้านหนานเหยียน อำเภออานซี มีบัณฑิตของตระกูลหวาง คนหนึ่ง ที่บังเอิญได้พบกับต้นชาที่มีลักษณะแปลกตาอยู่ต้นหนึ่งบนภูเขา จึงรู้สึกประหลาดใจจนต้องย้ายเอาต้นชานั้นมาปลูกที่หลังบ้านของตัวเอง ทำการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เมื่อเก็บใบอ่อนมาทำเป็นใบชาชงดื่มแล้ว พบว่ามีกลิ่นหอมชื่นใจ ต่อมาบัณฑิตหวางผู้นั้นได้มีโอกาสนำชานี้ขึ้นถวายจักรพรรดิ์เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิง เมื่อเฉียนหลงทรงดื่มชานี้แล้ว ทรงชื่นชอบยิ่งนัก ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าลักษณะชาที่มีสีดำมันเงาหนักแน่นดังราวกับเหล็ก (เถี่ย-เที้ยะ) และมีรสชาติหอมกรุ่นนุ่มนวลราวกับ "พระโพธิสัตว์กวนอิม" จึงทรงพระราชทานนามของชานี้ว่า "เที้ยะกวนอิม"-กวนอิมเหล็ก

ปัจจุบัน อำเภออานซี ซึ่งได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นเมืองอานซีแล้ว มีสมญาที่ชาวเมืองเองตั้งสมญานามของเมืองอานซีของตัวเองว่า "อานซีนั้น คือแดนสวรรค์ ของคนรักชา"

5. อู่อี๋หยาน ฉา หรือ อูหลงฉา - ชาอูหลง ชาซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก

ชาอูหลง หรือมังกรดำ เป็นอีกชาหนึ่ง ที่เป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีน ที่ปลูกและผลิตในมณฑลฮกเกี้ยนหรือฝูเจี้ยน จัดเป็นชาเหลืองอำพัน เพราะเป็นชา กึ่งหมัก เช่นเดียวกันกับชาเที้ยะกวนอิม ที่เรียกว่า อู่อี๋หยาน ฉา ก็เพราะว่าเป็นชาที่เพาะปลูกในบริเวณภูเขาอู่อี๋ซาน  กรรมวิธีการผลิตชาอูหลงนี้มีถึง 5 ขั้นตอน คือ เก็บชา ตากชา นวดชา หมักชา และคั่วชา ชาอูหลงเป็นชาที่ผลิตขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิ์หย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง ชาอูหลงนี้เมื่อดื่มแล้วจะมีกลิ่นหอมติดปากติดคอ ชาอูหลงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีมากในบรรดาชาวจีนโพ้นทะเล เนื่องจากมีชาวฮกเกี้ยน อพยพโยกย้ายออกไปอาศัยยังเกาะไต้หวัน จึงนำเอาวิธีการผลิตชาอูหลงไปทำที่ไต้หวันด้วย รวมถึงชาวฮกเกี้ยนที่อพยพไปยังประเทศต่าง ๆ ทางแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีปยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น จึงมีการนำชาอูหลงออกไปจำหน่ายยังประเทศเหล่านั้น ในประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน ชาอูหลงเป็นที่รู้จักของคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีชาวไทยเชื้อสายฮกเกี้ยนและชาวจีนหยุนหนานที่ได้รับกรรมวิธีการผลิตชาอูหลงชั้นเยี่ยมมาจากไต้หวัน ก่อเกิดเป็นสุดยอดชาไทยขึ้นมา

ชาอูหลง และ ชาเที้ยะกวนอิม ถูกยกย่องว่า เป็น 2 ไข่มุกงามแห่งฮกเกี้ยน 

6. เหมาเฟิง ฉา หรือ ชาเหมาเฟิง

ชาเหมาเฟิงเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีนที่มีชื่อเสียงสุดยอดของมณฑลเจ้อเจียง และโด่งดังเป็นพลุแตกทั่วทั้งราชอาณาจักรจงกว๋อ หรือประเทศจีนและยังโด่งดังไปไกลถึงดินแดนแผ่นดินที่ชาวจีนโพ้นทะเลออกไปตั้งถิ่นพำนักพักอาศัยยังต่างประเทศ  ชาเหมาเฟิงนี้มีชื่อเล่นหรือนิกเนมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เหมาเจียน" ลักษณะของชาเหมาเฟิงจะเป็นเส้นเล็ก ๆ ฝอย มีกลิ่นหอมตามแบบฉบับของชาจีน ใบชาเหมาเฟิงนี้มี 2 ชนิด คือ แบบใบใหญ่ และ แบบใบเล็กซึ่งจะมีสีเขียวอ่อนส่วนใบใหญ่จะมีความหนามีสีเขียวเข้มออกเหลือง 

ชาเหมาเฟิงที่เป็นแบบสีเขียวอ่อนใบเล็กถือกันว่าเป็นเหมาเฟิงชนิดดีเยี่ยมยอด ส่วนแบบใบใหญ่สีเขียวเข้มออกเหลืองนั้นจัดว่าเป็นระดับรองลงมา กลิ่น สี และรสชาติของชาเหมาเฟิงมีความหอม ดื่มแล้วสดชื่นแจ่มใส ชาเหมาเฟิงจัดเป็นชาเขียวอีกชนิดหนึ่งของจีน คุณสมบัติของชาเหมาเฟิงที่นอกเหนือจากชาชนิดอื่น ๆ คือมีโปรตีนสูง วิตะมินและเกลือแร่มีสูงมากกว่าชาชนิดอื่น ๆ อันทำให้ชาเหมาเฟิงเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีน ชาวจีนที่ต้องการบำรุงร่างกายด้วยน้ำชาจีนจึงมักจะนิยมดื่มชาเหมาเฟิงกัน ซึ่งว่ากันว่าชาเหมาเฟิงมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายถึง 3 ร้อยกว่าชนิด.

7. ลิ่วอานกวาเพี่ยน ฉา หรือ ชาลิ่วอานกวาเพี่ยน

ลิ่วอานกวาเพี่ยนเป็นชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชื่อเล่นเช่นกัน คือ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เพี่ยนฉา" ซึ่งมาจากชื่อท้ายคือ เพี่ยน นั่นเอง ลิ่วอานกวาเพี่ยน เป็นชาเขียวสุดยอดของจีน อีกชนิดหนึ่ง ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 สุดยอดชาจีน เรียกได้ว่าเป็นชาเขียวชนิดพิเศษ เพราะใบชามีกลีบเหมือนดอกทานตะวัน ลิ่วอานกวาเพี่ยน เป็นสุดยอดชาจีนจึงถูกจัดให้เป็นเครื่องจิ้มก้องส่งไปยังราชสำนัก หรือเครื่องราชบรรณาการ ไปยังวังหลวง ณ กรุงปักกิ่ง ว่ากันว่า พระนางชูศรี หรือซูสีไทเฮา ทรงโปรดปราณชาลิ่วอานกวาเพี่ยนนี้เป็นพิเศษ ทรงดูงิ้วไป จิบชาลิ่วอานกวาเพี่ยนไป 

ชาลิ่วอานกวาเพี่ยน มีแหล่งเพาะปลูกและผลิตที่ภูเขา "ต้าเปียซาน" มณฑลอานฮุย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอากาศดี ในอดีตสมัยสงครามกลางเมือง ประธานเหมาเจ๋อตง ได้นำทัพไปตั้งศูนย์การนำที่ภูเขาต้าเปียซานนี้ จึงได้มีโอกาสลิ้มรสชาติชาลิ่วอานกวาเพี่ยนนี้ เมื่อสามารถยึดประเทศจีนได้จากรัฐบาลของจอมพลเจียงไคเช็ค สถาปนาประเทศจีนใหม่แล้ว จึงสั่งชา ลิ่วอานกวาเพี่ยนของภูเขาต้าเปียซาน มณฑลอานฮุย เข้าไปดื่มในทำเนียบจงหนานไห่ ว่ากันว่า ท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล อันเป็นที่รักยิ่งของชาวจีน และประธานเหมาเจ๋อตง ชื่นชอบและหลงไหลในรสชาติของชาลิ่วอานกวาเพี่ยนเป็นพิเศษ เพราะเป็นชาที่ดื่มในระหว่างการสู้รบ เมื่อเข้าไปบริหารประเทศในทำเนียบจงหนานไห่ แล้ว จึงดื่มลิ่วอานกวาเพี่ยนเป็นประจำ "ฮ่อเจี๊ยะ" 

8. ไป๋หาวหยินเจิน ฉา หรือ ชาไป๋หาวหยินเจิน

ชานี้จัดเป็นชาขาวและที่มาของชื่อชานี้เปรียบมาจาก สี่สุดยอดหญิงงามในประวัติศาสตร์จีน คือหวางเจาจวิน ไซซี หยางกุ้ยเฟย และ เตียวเสี้ยน

ไป๋หาวหยินเจินถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีนมาช้านาน ชาชนิดนี้จัดเป็นชาขาว  การเก็บเกี่ยวมาทำเป็นใบชาพร้อมชงจะใช้เฉพาะหน่อของยอดชา ซึ่งมีลักษณะเหมือนเข็มเย็บผ้า มีสีเงินวาววับ ความยาวของตาใบชาประมาณ 3 เซ็นติเมตร เมื่อนำมาชงดื่มจะพบว่ามีกลิ่นหอม หวาน ชุ่มคอ น้ำชาที่อยู่ในแก้วจะสดใสสวยสด ไป๋หาวหยินเจินเป็นชาในมณฑลฮกเกี้ยนอีกแล้วครับท่าน จากเมืองฝูเจิ้ง อำเภอฝูติ่ง ในอดีตสมัยราชวงศ์ชิง จักรพรรดิ์เฉียนหลงได้เสด็จประพาสต้นมายังฝูติ่ง ทรงเสวยน้ำชานี้ทรงติดอกติดใจมาก

น้ำของชาไป๋หาวหยินเจินเป็นสีขาวอมเหลือง นับว่าเป็นหนึ่งในชาฝูเจี้ยนหรือฮกเกี้ยนที่เป็นสิบสุดยอดชาจีนซึ่งฮกเกี้ยนครองเจ้าอันดับที่มีชาสุดยอดมากที่สุดในจีน

9. ฉีเหมิน ฉา หรือ "ชาฉีเหมิน"

ชาฉีเหมินเป็นชาแดง มีแหล่งผลิตหรือต้นกำเนิดที่เมือง "ฉีเหมิน" มณฑลอานฮุย ดินแดนแผ่นดินถิ่นเจียงหนาน อันสวยงามของประเทศจีน เจียงหนาน เป็นดินแดนแถบตะวันออกทางตอนใต้ของแม่น้ำฉางเจียงหรือแยงซีเกียง ชาวจีนถือกันว่า เจียงหนานนั้นเป็นดินแดนแสนงาม วัฒนธรรมสง่า สตรีสวยสด ธรรมชาติ บ้านเรือน สวยงาม เจียงหนานประกอบด้วยมณฑล อานฮุย เจียงซู เจ้อเจียง

ชาฉีเหมินนี้ เป็นชาแดงที่ชาวปักกิ่งเมืองหลวงชื่นชอบกันหนักหนา อาหารจีนภาคเหนือจืดชืด และมัน ชาฉีเหมินซึ่งเป็นชาแดงจึงช่วยขจัดความมันเลี่ยนของอาหารได้ดี ว่ากันว่า เวลาดื่มชาฉีเหมินนี้แล้วจะทำให้รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย แก้ง่วงเหงาสัปงก บำรุงสมอง ลดอาการความจำเสื่อม ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยขับเหงื่อขับปัสสาวะ ล้างและขับไล่สารพิษในร่างกาย

ชาฉีเหมินจึงโดดเด่นในเรื่องที่ว่า เป็นชาแดง ที่มีสีแดงสวยงามดั่งเลือดนก และมีคุณสมบัติทางสมุนไพรช่วยบำรุงอวัยวะภายในร่างกายนั่นเอง จึงถูกจัดเป็น 1 ใน 10 สุดยอดชาจีนเสมอมา.

10. จวินซานหยินเจิน ฉา หรือ "ชาจวินซานเหยินเจิน"

ชาชนิดนี้จัดเป็นชาเหลือง มีจุดเริ่มต้นในสมัยราชวงศ์ถัง และยืนยาวต่อมาถึงในสมัยราชวงศ์ชิง ได้ถูกจัดให้เป็นเครื่องราชบรรณาการแก่วังหลวง จวินซานหยินเจิน ชา นี้เป็นผลิตภัณฑ์ชาที่เพาะปลูกบนเกาะ ที่อยู่ในทะเลสาบ "ต้งถิง" อำเภอเยว่หยาง มณฑลหูหนาน นับว่าเป็นชาของภาคกลางเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับทำเนียบจงหนานไห่เอ๊ย 10 สุดยอดชาจีนในขณะนี้ ทะเลสาบต้งถิง เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดทางตอนกลางของประเทศจีน เกาะในทะเลสาบต้งถิงหูมีคุณสมบัติที่เหมาะแก่การปลูกต้นชา เพราะมีอากาศดีมาก อุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ 16-17 องศาเซนเซียส เมื่ออากาศเหมาะสม ดินดำ น้ำดี จึงได้ต้นชาที่ดีสามารถนำมาผลิตชาชั้นดีในชื่อ จวินซานหยินเจิน ได้ อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญและส่งผลเกื้อกูลให้ต้นชาตามเกาะต่าง ๆ ของทะเลสาบต้งถิงคือมีความอุดมสมบูรณ์ของไม้ยืนต้นนานาพันธุ์

จวินซานหยินเจินชาถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชาอ่อน และ ชาใบขน น้ำชาที่ได้เป็นสีเหลืองอ่อน ในการเก็บเกี่ยวใบชาที่จะนำมาผลิตเป็นจวินซานหยินเจินมักจะเก็บในช่วง 3  วันก่อนที่จะถึงเทศกาลเชงเม้ง ที่มาถึงในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมต้นเดือนเมษายน ของทุกปี

มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับชาจวินซานหยินเจินว่า...นานมาแล้วมีเจ้าหญิงแสนสวยองค์หนึ่งได้นำเมล็ดชาที่มีรูปร่างแปลกประหลาดเข้ามาปลูกในพระตำหนัก จนกระทั่งจักรพรรดิ์ถังหมิงจง(หลี่ซื่อหยวน) ในสมัยราชวงศ์ถัง ได้ลิ้มรสชาติของชาที่เจ้าหญิงได้นำขึ้นถวาย เมื่อครั้นถังหมิงจงกำลังจะยกถ้วยชาจวินซานหยินเจินขึ้นดื่ม ปรากฏว่า ได้มีไอของชาพุ่งขึ้นมากลายเป็นนกกระเรียนขาว พร้อมกับผงกหัวให้แก่ถังหมิงจงฮ่องเต้ แล้วก็บินหายไป เมื่อถังหมิงจงฮ่องเต้ทรงมองลงไปในถ้วยชา ปรากฏว่าใบชาในถ้วยมีลักษณะบานเหมือนเกสรดอกไม้ เป็นที่ถูกอกถูกใจแก่ถังหมิงจงยิ่งนัก.

10 ยอดชาจีน ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ วันต่อไป เรามาอ่านกันถึง "สุดยอดชาไทย" ที่ตอนนี้มีทายาทรุ่นใหม่ จบจากการศึกษาเล่าเรียนแล้วมาช่วยพ่อแม่ดำเนินกิจการต่อ นับว่าเป็นศักราชยุคใหม่ของชาไทย สุดยอดของเชียงราย ยับสินฝ่าจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับดินแดนสวิสเซอร์แลนด์ตะวันออกอันมีนามว่าเชียงรายเหนือสุดยอดในสยาม ในเรื่อง เชียงรายวันนี้-ชาไทยวันนี้ โปรดติดตามกันต่อไป.

ภาคผนวก:  ชาอบดอกไม้ ความนิยมชมชอบของชาวจีนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ในช่วงฤดู "ชุนเทียน" หรือฤดูใบไม้ผลินั้น ชาวจีนถือกันว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสบาย เพราะมีอากาศดี สดชื่น แจ่มใส จึงมักจะมีอาการง่วงเหงาหาวนอน ง่าย ไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเหมือนอากาศที่สดใส ชาวจีนเรียกอาการเช่นนี้ว่า "โรคอ่อนเพลียของฤดูใบไม้ผลิ" ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอาการอ่อนเพลีย ง่วงเหงาหนาวนอน (หนาวนอน อิอิ.) จึงหันมาดื่มชาจีนที่อบดอกไม้ชนิดต่าง ๆ เชื่อกันว่าจะสามารถกระตุ้นต่อมให้ร่างกายมีความสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาได้ในที่สุด

ชาอบดอกไม้ที่เป็นที่นิยมชมชอบของชาวจีน โดยเฉพาะชาวจีนภาคเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น มักชื่นชอบชาอบดอกไม้เป็นพิเศษ เรามาดูกันว่า ชาอบดอกไม้ที่นิยม และคุณสมบัติำพิเศษของชาอบดอกไม้ชนิดต่าง ๆ มีอะไรกันบ้าง

1. ชาเขียวอบดอกมะลิ หรือ ม่อลี่ฮวาเชียงฉา เป็นชาเขียวหรือ ชาชนิดต่าง ๆ นำมาอบกับดอกมะลิ ส่วนใหญ่นิยมใช้ชาเขียว กับชาอูหลง นำมาอบกับดอกมะลิ ชาวจีนในภาคเหนือ หลงไหลในกลิ่นของดอกมะลิเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่า กลิ่นของดอกมะลิที่ชาวจีนชื่นชอบที่สุด จะต้อง เป็น "ดอกมะลิจากประเทศไทยเท่านั้น" ถึงจะมีกลิ่นหอมสดชื่นถึงอกถึงใจ คนจีนจึงยกย่องดอกมะลิว่าเป็นตัวแทนของความขาวสะอาดบริสุทธิ์ ดุจดั่งชาวไทยยกย่องดอกมะลิว่าเป็นสัญญลักษณ์ของ "แม่" อันยิ่งใหญ่นั่นเอง

2. ชามะนาวกลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้คึกคักตื่นตัว กลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์เป็นที่ชื่นชอบกันทั่วไปในบรรดาหนุ่มสาวชาวจีน ดอกลาเวนเดอร์ชาวจีนเชื่อว่า มีฤทธิ์ในการบำรุงร่างกายให้ผ่อนคลาย ลดความดันโลหิต มะนาวช่วยให้ร่างกายขับปัสสาวะ กระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบการไหลเวียนโลหิต ลดอาการปวดศรีษะ 

3. ชาโสมดอกเก๊กฮวย ช่วยขจัดความเหนื่อยล้า ในโสม มีสาร "จินเซนโนไซด์" (ginsenosides) และวิตามินหลายชนิด มีคุณสมบัติช่วยในการปรับสมดุลระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ดอกเก็กฮวยช่วยในการแก้ร้อนใน บำรุงสายตา ช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

4. ชามิ้นต์ และ ชากุหลาบ ช่วยระบายความร้อนให้ออกจากร่างกาย แก้ร้อนใน สดชื่น ช่วยให้อารมณ์ที่ผันผวนปรวนแปร ผ่อนคลายลงได้ ดอกกุหลาบช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีและลดการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ช่วยย่อยอาหาร คลายความเครียด ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยลดอาหารเหงือกอักเสบได้ดีด้วย

5. ชาอบสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ช่วยบำรุงสมอง สมุนไพรหลากหลายชนิด ทั้งตังกุย เก๋ากี้ โป๋ยกั๊ก ฯลฯ ช่วยลดความร้อน แก้ร้อนใน ขับสารพิษให้ออกจากร่างกาย บำรุงโลหิตและแก้ธาตุแปรปรวน บำรุงตับ ม้่าม และสายตา บำรุงสมอง ช่วยให้ร่างกายสดชื่นมีชีวิตชีวา

ชาอบดอกไม้และสมุนไพรต่าง ๆ นี้ ทุก ทุก ท่านไม่ต้องดั้นด้นไปหาซื้อไกลถึงประเทศจีน เพราะในประเทศไทยของเรานี้เอง ที่จังหวัดเชียงราย เหนือสุดยอดในสยาม ได้เป็นที่ยอมรับและรู้จักกันมากแล้วว่า "สุดยอดชาจีน" ซึ่งเป็น "สุดยอดของสุดยอดชาไทย" อยู่ในประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงรายของเรานี้เอง โดยผู้ประกอบการชาไทย ในเชียงราย ที่เป็นสุดยอดของสุดยอด คือ "ฉุยฟง" , "สุวิรุฬห์ชาไทย" , "ใบชาโชคจำเริญ" , "ชาวังพุดตาล" และ "ชา 101" ถือกันว่าเป็นสุดยอดชาไทย ที่มีผลิตภัณฑ์ชาที่มากมายหลากหลาย ผู้ประกอบการทั้ง 5 รายสุดยอดของไทย นี้ ต่างได้คิดค้นพัฒนาชาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จากใบชา ที่สุดยอดมากมายหลายอย่างหลายชนิด จนชาวจีนทั้ง จีนใหญ่ จีนจิ๋ว จีนเล็ก และชาวจีนทั่วโลก ต่าง ทึ่ง อึ้ง ในความสุดยอดของชาไทยเชียงราย ซึ่ง ทุกราย ใน 5 ราย จากหลายสิบราย ในเชียงราย ต่างได้รางวัลชาระดับเหรียญทอง ในการประกวดใบชา น้ำชา ทั้งในประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาทุกราย 

ดังนั้น เราชาวไทยเชื้อสายจีน หรือพวกเราชาวไทยในจังหวัดต่าง ๆ ไม่ต้องอยู่ใกล้เกลือแล้วกินด่างอีกต่อไป เพราะว่าสุดยอดชาจีนอันเป็นสุดยอดชาไทย อยู่ในประเทศไทยเรานี้เอง โดยเฉพาะใบชาของสุดยอด 5 รายของจังหวัดเชียงราย ได้ผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน และไต้หวัน เพื่อให้จีนและไต้หวันนำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ของตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นชาจีน ชาไต้หวัน เราคนไทยกากี่นั้ง ก็พากันไปซื้่อที่ไต้หวันหรือจีนใหญ่ กลับมาบ้านด้วยความภูมิใจว่าได้ชาดีมา หารู้ไม่ว่าข้างในนั้น "เมดอินไทยแลนด์แลนด์แดนสยามของเรานี้เอง อิอิอิ. (ขอบคุณเฮีัยแอ๊ด คาราบาว ชาวไทยเชื้อสายแต้จิ๋วแห่งเมืองสุพรรณของป๋าเติ้ง 5 สั้นนั่นเอง)

ท่านใดมีความสนใจอยากเที่ยวชมไร่ชาที่สุดแสนสวยงามพาโนรามา และชิมชาที่หอมกรุ่นละมุนละไม บนภูเขาดอยตุง ดอยแม่สลอง เทอดไท แห่งเชียงราย รวมถึงดอยช้าง ดอยวาวี ของเชียงราย "ยับสินฝ่า" ยินดีนำเที่ยวด้วยตัวเองครับ หลายวันก่อนได้พาคณะสำรวจกิจการชา จากกรุงเทพ ขึ้นไปเที่ยวชมเยี่ยมคารวะผู้ประกอบการสุดยอดชาไทย 5 รายดังกล่าว พวกเราทุกคน เกือบไม่ยอมกลับบ้านกันเลยละ.

ขอขอบพระคุณข้อมูลในต้นฉบับอักษรจีนจาก อาโก จองหยิ่นฮยุ๋ง และนิตยสาร "แม่น้ำโขง" ของมณฑลหยุนหนาน.


 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal