ซั่งไห่ เดลี่ - เซี่ยงไฮ้กังวล “ภาษาถิ่น” จางหาย หลังเด็กรุ่นใหม่ฟัง-พูดได้น้อยลงเรื่อยๆ ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะใช้คนรุ่นเก่ามาช่วยส่งต่อความรู้ก่อนสายเกิน
สำนักงานสถิติแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผย (8 ก.พ.) ผลการสำรวจ “การใช้ภาษาถิ่น” ของชาวจีนในท้องถิ่น อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000 คน พบว่าส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาจีนแมนดาริน (Mandarin) หรือภาษาจีนกลางได้มากกว่าภาษาถิ่นเซี่ยงไฮ้ โดยภาษาจีนกลางกินสัดส่วน 97 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาษาถิ่นอยู่ที่ 81.4 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนั้นพบอีกว่าทักษะการฟังและพูดภาษาถิ่นของคนเซี่ยงไฮ้รุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น อยู่ในระดับย่ำแย่กว่าผู้ใหญ่ โดยเด็กอายุระหว่าง 13-20 ปี ที่เกิดและเติบโตในเซี่ยงไฮ้ ทำคะแนนการฟังได้เพียง 3.9 จากคะแนนเต็ม 5 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของทุกช่วงอายุอยู่ 0.4 คะแนน ด้านการพูดก็ทำคะแนนได้เพียง 3.1 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 4.1 แต่เกือบครึ่งหนึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และราว 30 เปอร์เซ็นต์ สามารถพูดภาษาถิ่นอื่นๆ ได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสำรวจ 86.7 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุนให้อนุรักษ์ภาษาท้องถิ่นและภาษาชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในจีนไว้ โดยร้อยละ 35.5 เต็มใจจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาถิ่นของตนเอง ด้านกลุ่มที่อยากพัฒนาภาษาจีนกลางอยู่ที่ร้อยละ 28.9 และกลุ่มที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษอยู่ที่ร้อยละ 39.5
ที่ผ่านมาทางการเซี่ยงไฮ้ได้ดำเนินมาตรการขยายการใช้งานภาษาถิ่นในหน่วยงานต่างๆ อาทิ จัดหาหนังสือเรียน เกมส์ เพลงที่เป็นภาษาถิ่นให้กับโรงเรียนอนุบาลและประถม ออกอากาศรายการโทรทัศน์และวิทยุ ตลอดจนประกาศเสียงตามสายบนรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน และโรงพยาบาลบางแห่งด้วยภาษาถิ่น
ขณะที่คณะกรรมการการศึกษาแห่งมหานครเซี่ยงไฮ้ได้ยืนยันอีกเสียงว่าจะส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาท้องถิ่นในโรงเรียน โดยจัดให้เป็นภารกิจหลักประจำปี 2557 นี้
“รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ควรจัดสอนวิชาภาษาถิ่นในโรงเรียนแห่งต่างๆ เพื่อเยียวยาสถานการณ์ปัจจุบันไม่ให้เลวร้ายกว่าเดิม” หลิว เหม่ย อาจารย์สอนภาษาถิ่นเซี่ยงไฮ้ประจำมหาวิทยาลัยถงจี้ (Tongji University) กล่าว
“เนื่องจากคุณครูในเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนท้องถิ่น จึงบีบบังคับให้เด็กๆ ใช้ภาษาจีนกลางสื่อสารแทน ทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าภาษาถิ่นเป็นเรื่องยากและไกลตัว … หากเด็กเล็กๆ พูดภาษาจีนกลางจนเคยชิน พวกเขาก็ไม่เต็มใจจะพูดภาษาถิ่นกับพ่อแม่อีก ส่วนพ่อแม่ที่มักใช้ภาษาจีนกลางในที่ทำงาน ก็มีแนวโน้มพูดภาษาจีนกลางกับที่บ้านมากกว่าด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้หลิวมองว่า ทางการต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะคนใช้ภาษาถิ่นส่วนใหญ่อายุย่างเข้า 50-60 ปีแล้ว ซึ่งโรงเรียนอาจเลือกใช้คนกลุ่มนี้มาช่วยส่งต่อภาษาให้กับเด็กๆ
“เมื่อคนรุ่นเก่าล้มหายตายจากไปหมด ก็จะไม่มีใครมาถ่ายทอดภาษาถิ่นให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้อีกต่อไป”
From http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015877
ภาษาเจ้อเจียง
ภาษาเซี่ยงไฮ้อยู่ในกลุ่มสำเนียงภาษาเจ้อเจียงหรือที่เขาเรียกว่า " เจ้อเจียงฟางเหยียน " เป็นหนึ่งในเจ็ดของสำเนียงภาษาของกลุ่มชาวฮั่นซึ่งภาษาฮากกาของหง่อหมุ่น ( พวกเรา ) ก็เป็นหนึ่งในเจ็ดของฟางเหยียนกับเขาด้วยเหมือนกันเจ้าข้าเอ้ย จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกที่ในแต่ละฟางเหยียน ( สำเนียงภาษา ) ของตนของตนจะต้องลุกขึ้นมาเป่านกหวีด.......เอ้ย ลุกขึ้นมารักษาปกป้องฟางเหยียนของตนของตนนั้นแล
ไหง่เคยไปเซี่ยงไฮ้มาครั้งหนึ่งเมื่อสักเจ็ดแปดปีมาแล้วโดยไม่ได้ไปทัวร์ ( ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเอง ) จึงได้มีโอกาศคลุกคลีกับวิถีชีวิตของคนเซี่ยงไฮ้( ถ้าไปทัวร์จะไม่มีโอกาศแบบนี้ ) กล่าวคือต้องขึ้นรถเมล์รถไฟใต้ดินเอง จึงเคยได้ยินสำเนียงภาษาเจ้อเจียง สำเนียงภาษาเซี่ยงไฮ้ พอได้ยินครั้งแรกๆรู้สึกว่าสำเนียงภาษามันแปลกๆดี ฟังๆไปมันคล้ายๆภาษาญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน เช่นคำว่าฉัน หว่อ ภาษาเจ้อเจียงเขาพูดว่า อาลา
大上海
上海 (市 ) Shànghǎi {Zånhae (ภาษาเซี่ยงไฮ้)}
http://zh.wikipedia.org/wiki/上海话
http://wuu.wikipedia.org/wiki/上海言话
http://th.wikipedia.org/wiki/ภาษาจีนเซี่ยงไฮ้
http://en.wikipedia.org/wiki/Shanghainese
+++++++++++++++++++++++++++
http://zh.wikipedia.org/wiki/大上海
http://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้คนสุดท้าย
http://en.wikipedia.org/wiki/The_Last_Tycoon_(2012_film)
http://et.21cn.com/movie/xinpian/2012/11/23/13763438.shtml