หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ทำไม ถึงอยากเป็นหนึ่งในตองอู

รูปภาพของ วี่ฟัด

ทำไม ถึงอยากเป็นหนึ่งในตองอู

ผู้ชนะสิบทิศ - ชรินทร์ นันทนาคร 


รูปภาพของ วี่ฟัด

สำนวนพูดแต้จิ๋ว " เจี่ยป้าบ่อสื่อ "

เดี๋ยวตัดช่องน้ยแต่พอตัวปิดกระทู้ซะเลย ไหง่มันคนว่างงานมากที่คนแต้จิ๋วเขาเรียกว่า " เจี่ยป้าบ่อสื่อ " กินอิ่มแล้วว่างงานไม่มีอะไรทำ

     

      สวัสดีครับวีฟัดโก๊ความจริงไหงอยากแจมกะทู้นี้นะ แต่เนื่องจากว่าไหงเป็นคนคิดช้า ตัดสินใจช้า และปฏิบัติก็ช้าด้วย กว่าจะปลุกอารมณ์ขึ้นมาได้ กว่าจะคิดและเรียบเรียงพิมพ์มาได้ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน
      คำพูดที่ว่าข้าก็หนึ่งในตองอูของยาขอบ ถึงแม้จะฟังดูยโสโอหังและนักเลงไปหน่อย แต่ไหงมองในแง่ว่าเรื่องความต้องการจะเป็นหนึ่งไม่เป็นสอง เป็นเลิศไม่เป็นรอง มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะ ไม่เฉพาะชาวฮักกาเท่านั้น ในโลกตะวันตก ในสังคมของประเทศที่เจริญ เขาจะเน้นในเรื่องของความเป็นเลิศ การพัฒนาให้ดียิ่งยิ่งขึ้น ไม่หยุดอยู่กับที่ เหมือนสำนวนจีนที่ว่า在精益求精 ดังนั้นความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ แม้แต่ในแวดวงวรรณกรรม ภาพยนตร์ และดนตรีเพลง ก็เป็นของประเทศเหล่านี้ ถ้าไม่มีความคิดที่จะพัฒนาไม่หยุดนิ่ง ไม่มีคนเสียสละสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างไม่หยุดยั้ง โลกเราคงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างที่เราได้เสพสุขอยู่ทุกวันนี้
        ความต้องการจะเป็นหนึ่งเป็นดาบสองคม ที่มีคุณอนันต์และโทษมหันต์ เพราะทุกคนในโลกนี้ล้วนมีความเย่อหยิ่งจองหอง มักจะประเมินผู้อื่นต่ำกว่าตนเอง คิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งไม่เป็นรองใครเสมอ แม้แต่คนที่โง่ที่สุด คนที่สอบได้ที่โหล่ของห้อง ก็ยังหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเองเสมอ เช่นคิดว่าตัวเองไม่มีโอกาสได้เรียนพิเศษเหมือนคนที่สอบได้ที่หนึ่งบ้าง ไม่มีเวลาอ่านหนังสือบ้าง หรือถ้าไม่มีเหตุผลอะไรจะแก้ตัว ก็แก้ตัวว่าก็เพราะกูขี้เกียจอ่านหนังสือ แต่จะไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองโง่กว่าคนอื่น หรือด้อยกว่าคนอื่น เหมือนตัวละคร R.Q. ในนิยายเรื่องของเอกของหลู่ซิ่น ซึ่งสรุปรวมเอาความคิดที่เย่อหยิ่งจองหอง โง่และอวดฉลาด ของคนจีนทั้งหมดรวมอยู่ในตัวของ R.Q.  อย่างไรก็ตามความต้องการจะเป็นหนึ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าหากใช้ความมานะพยายาม และตั้งอยู่ในหนทางสัมมาทิฐิ ความเลวร้ายอยู่ในมิจฉาทิฐิของคน เพราะการจะสร้างความเป็นหนึ่งนั้นหนทางยาวไกล ต้องใช้ความพยายามสูง จึงมีคนมักจะหาทางลัดเพื่อบรรลุเป้าหมาย แม้กระทั่งใช้วิธีฉ้อโกง ทำลายเพื่อนทำลายประเทศชาติก็มี 
รูปภาพของ นายวีรพนธ์

บุเรงนองลั่นกลองรบ

ขอสักดอก!

        ขอแจมด้วยสักจ้อย ประสาผู้ด้อยปัญญา เคยแค่สอบได้ที่ 1 อยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า " ไม่เป็นรองใคร! " อย่างน้อยต้องเป็นรองครูบาอาจารย์ที่ให้คะแนน ออกมาเป็นเถ้าแก่ เป็นเบอร์ 1 ของร้านค้า แต่ยิ่งต้องอ่อนน้อมถ่อมตนต่อลูกค้า ต้องให้ลูกค้าคิดว่าเราเป็นรองเขาเสมอ จึงค้าขายกันได้ยาวนาน

        ถ้าถามว่าเคยเย่อหยิ่งจองหองหรือไม่? เรื่องนี้คงต้องแยกแยะ ถ้าเย่อหยิ่งแบบที่ว่าถือตัวถือตนว่าเป็นหนึ่งไม่เป็นรองใคร อย่างนี้ไม่เคย แต่ถ้าว่าหยิ่งในเกียรติในศักดิ์ศรีอย่างนี้เคย(นานๆครั้ง) เพราะโดยสายเลือดคนจีน(ไม่เฉพาะขักหงิ่น) " งั้งเกี่ยง " หรือคอแข็ง เมื่อถูกสบประมาททั้งนั้น  โดยวิสัยขักหงิ่นที่มีการศึกษา มีแต่อ่อนน้อมถ่อมตน เพราะรู้อยู่ว่า เก่งหรือรวยแค่ไหน? ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสังคม

         สมัยหนุ่มๆ เคยอ่านเรื่องของซีซาร์ ที่เคยพูดเป็นวาทะคมคายว่า " เป็น 1 ในกระท่อม ดีกว่าเป็นที่ 2 ในวังทอง! " ก็ไม่ได้เห็นตาม เพราะการเป็นที่ 1 ต้องให้ผู้อื่นยอมรับจึงเป็นได้ ไม่ใช่ถือตัวถือตนเก่งกว่าใคร และการยอมรับของผู้อื่นนั้น คนที่ว่าเป็น 1 ในตองอู แท้จริงต้องแบกคนทั้งตองอูให้อยู่ดีมีสุข จึงเป็น 1 ในตองอูได้

         สังคมตะวันตก ดูเสมือนสอนให้คนท้าทาย ไม่เชื่อทฤษฎีเก่าๆ ให้ค้นคว้าเพื่อเป็นคนแรกคิดอะไรแปลกใหม่ขึ้นมา แต่เมื่อเจาะลงไปลึกๆ ไม่ว่าไอสไตย์ หรือนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบิลทุกคน ล้วนต้องศึกษาผลงานของนักวิทยาศาสตร์ร่นเก่ามาโชก  โชนทั้งนั้น ไม่ได้คิดเอาเองทั้งดุ่นเลย แต่การที่เขายกให้เป็นที่ 1 แท้จริงต้องแบกรับสร้างประโยชน์ให้สังคมได้ ซึ่งว่าที่จริง มันก็ไม่ได้แตกต่างกว่าสังคมตะวันออกในเรื่องผลลัพธ์ แต่ต่างเพียงวิธีการเท่านั้น ยกตัวอย่างเรื่องขําๆ

        ในงานศพคนจีน มีฝรั่งมาวางช่อดอกไม้ไว้อาลัยคนตาย ฝรั่งอยากเย้ยความเชื่ออย่างงมงายของคนจีน ฝรั่งจึงถาม " จัดข้าวปลาไว้หน้าโลง แล้วเมื่อไหร่เขาจะลุกขึ้นมากิน? "

         คนจีนยิ้มก่อนตอบ.." ก็ตอนที่เขาลุกขึ้นมาดมดอกไม้ของยูไง! !"

                                                                     ...อ า ห งิ่ ว (ไอ้ควาย)...

      

รูปภาพของ วี่ฟัด

ทำไมคนฮากกาถึงมีความต้องการเป็นหนึ่งในตองอู

              ที่จริงบร๊อกนี้ไหง่ตั้งชื่อแบบนี้ ประเด็นนี้มันเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารร้านอาหารหว่องหมิ่นชันบนสุด ( ชั้นเดียวกับโรงภาพยนต์ ) ของห้างเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า มีไหง่ กั้วเค่อโก ดอกเตอร์ และอาคมโก หลังจากที่ได้ไปดูคอนเสริตการร้องเพลงประสานเสียงของคณะนักร้องประสานเสียงของมณฑลหูหนาน และคณะนักร้องประสานเสียงกรุงเทพ ซึ่งก็คือสมาคมนักเรียนเก่าตาลู่ ณ. หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2556

             ประเด็นในการสนทนาที่ไม่เคยพลาดสักครั้งเดียวในการสนทนาของกลุ่มคนชุมชนคนฮากกาคือประเด็นปั้นชิม ถือว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญที่หากการสนทนาไม่ได้หยิบยกประเด็นนี้มาสนทนากันแล้วจะทำให้การสนทนาจืดชืดเลยที่เดียวเชียว จึงได้ยกหลายๆประเด็นดังกล่าวมาพูดและไม่พลาดแม้แต่ประเด็น " หลำ่เถียน " ที่ไหง่อยากเรียกประเด็นนี้ว่าปรัเด็น " โอละพ่อ " ไหง่จึงสรุปในวงสนทนาว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะชาวฮากกาทุกๆสำเนียง " อยากเป็นหนึ่งในตองอู " นั่นเอง แต่กั้วเค่อโก ก็แย้งในวงสนทนาในวันนันว่า " ไม่น่าใช่ "

            ด้วยอารมณ์คันๆตามสไตย์ไหง่ที่วันใหนไม่ได้แซวใคร ไม่ได้แหย่ใครมันหงุดหงิดยังไงชอบกล และไหง่มันชอบซาดิสด้วย มีใครด่าแล้วชื่นใจกินอิ่มนอนหลับ จนมีคนหลงมาด่าโอ้ยชื่นใจเหมือนอมฮอลส์เลยตัวเอง

รูปภาพของ จองกว๊านหมิ่น

สวัสดีครับอาหงิ่วโก

 
สวัสดีครับอาหงิ่วโก ไม่ได้พบกันนาน ออกมาทียังคมกริบเหมือนเดิม  臥龍 ยังไงยังงั้น คนเก่งย่อมถ่อมตัว คนมั่วย่อมโอ้อวด ชอบใจคำว่าเคยสอบได้ที่หนึ่ง ไม่เป็นสองรองใคร แต่ยังไงก็เป็นรองครูบาอาจารย์ ลึกซึ้งๆ สรุปแล้วไม่มีใครเก่งที่แท้จริงหรอก เก่งแค่เป็นพักๆ เดี๋ยวก็ม้วยกลับบ้านเก่า
 
เป็นหนึ่งในกระท่อม ดีกว่าเป็นที่สองในวังทอง ซึ่งความหมายเหมือนคำพังเพยของไทยที่ว่า เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์ กล่าวคือ แม้เป็นหัวหมาก็มีมันสมองไว้คิดเองทำเองได้ แต่เป็นหางของราชสีห์ แม้ดูยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องกระดิกตามหัว หัวไปที่ไหน หางก็ต้องตามไปที่นั่น ฉะนั้นการเป็นหัวหมา  จึงดีกว่าเป็นหางของราชสีห์ชัวร์ แต่อย่าเผลอไปเป็นหางหมาก็แล้วกัน หมดกันพอดี 
 
คำพังเพยของจีน เคยอ่านเจอที่ไหนนึกไม่ออก  林中無鳥 麻雀為王 หากในป่าไม่มีนก กระจอกน้อยอย่างข้าก็เป็นราชาปักษา ที่ใดไม่มีคนเก่ง ที่นั้นข้าย่อมเป็นปราชญ์ สำนวนนี้ให้ข้อคิดดีดีอะไรหลายอย่างเหมือนกัน
 
อีกคำหนึ่งคืองั้งเกี่ยง ทีแรกที่อ่านรู้สึกคุ้นๆว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน นั่งนึกอยู่นาน ในที่สุดก็นึกออก คือคำที่อาป่ะเพื่อนบ้านสมัยยังเด็กด่าลูกชายของแกนั้นเอง ที่ถูกด่าเป็นเพราะชอบทำอะไรแผลงๆ ประเภททำไม่ได้ก็ฝืนจะทำ เรียกว่าดันทุรัง  你真係硬頸个人 唔像話 แปลว่า แกมันชอบดันทุรัง ไม่ได้เรื่อง
 
ที่จริง ไหง่ชอบคนอย่างอาหงิ่วโก เพราะเป็นคนเปิดเผยเฮฮา พูดเสียงดังฟังชัด ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ตรงไปตรงมาไม่ถือตัว ใครได้คุยด้วยจะรู้สึกสนุกสนาน อาหงิ่วโกอย่าหาว่าไหง่เกินไปเลยนะ มันเป็นความรู้สึกนิยมชมชอบจริงๆ

คนใหญ่ตามพื้นที่?

               อื้มฝ่าถือเป็นอําเภอใหญ่ที่สุดของหม่อยจู กว่างหมิ่นโกสืบสายมาจากคนที่นี่ ความคิดจิตใจจึงใหญ่เหมือนพื้นที่ ไม่เสียแรงที่เรียกโกว่าอาจารย์แต่แรก เพราะโกเป็นเกินกว่านั้นเสียอีก เพราะจีนก็ได้อังกฤษก็เป็นไทยก็เก่ง ซึ่งความสามารถแบบนี้มีไม่มาก ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ยกยอกันเองแน่นอน

              สิ่งที่กระทํา ความสามารถที่แสดงออกมันบอกชัด มีแต่คนภายนอกที่ไม่รู้จริง คิดว่าคนในเวปนี้ยกยอชมกันเอง ความจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น และคนในเวปนี้ไม่มีการยกยอ มีแต่ของแท้ก็ว่าตามเนื้อผ้านะพี่ รู้ไว้ด้วย

              ไหง่ขอขอบคุณที่กว่างหมิ่นโกไม่รังเกียจคนเซ่อๆซ่าๆอย่างไหง่ ถ้ามีอะไรผิดพลั้งไปก็ขออโหสิด้วยละกัน และคํานี้ไหง่ขอกับทุกคน

รูปภาพของ 曾绍华

คนจีนทุกคนเป็นมังกร 个个都是龍

เราคงเคยได้ยินเค้าว่าไว้ว่า   "คนจีน  แต่ละคนเป็นมังกร"  ในขณะที่คนญี่ปุ่น  จะเป็นมังกรได้ต้องรวมตัวกันเท่านั้น!

จึงสามารถพูดได้เต็มปากว่าคนจีนแต่ละคนมีความหยิ่งผยองในตัวโดยธรรมชาติ 

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal