สวัสดีหนีห่าวค่ะไท้กา วันนี้ไปไหว้เจ้าขอพรที่ศาลเจ้าโรงเกือกกันนะคะ เป็นศาล1ใน6ของฮากกา
ศาลเจ้าโรงเกือก (เกือก=รองเท้า)
ศาลเจ้าโรงเกือก ตรง ซ.วานิช 2 แขวงตลาดน้อย ทางเข้าศาลเจ้าจะอยู่ก่อนสุดซอยเล็กน้อย ทางฝั่งขวามือ ศาลเจ้าที่นี่มีอายุร้อยกว่าปีแล้วค่ะ คนจีนแคะเป็นผู้สร้างขึ้น ในวันตรุษจีน จะมีคนมาไหว้ศาลเจ้าเยอะมาก เพราะที่นี่มีเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ ที่ถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ และปกติวันตรุษจีนจะมีการตั้งโต๊ะไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะกันอยู่แล้ว ใครสนใจที่จะมาไหว้ก็ซื้อของไหว้รวมไปถึงกระดาษเงิน ทองมาไหว้ด้วย พอไหว้เสร็จก็จะเอากระดาษลงมาเผาที่เตาด้านล่าง หากใครมีโอกาสไม่ต้องเป็นวันตรุษจีนก็ได้ค่ะ มากราบขอพรสักครั้งเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองก็ดีนะคะเพราะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วจ้า
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เยาวราชที่รัก บายเซี่ยงไฮ้แมนชั่น และ
ย่านจีนถิ่นบางกอก-Bangkok Chinatown
ภูมิหลังของเทพโชคลาภ
財神爺背景 = ภูมิหลังของเทพโชคลาภ
นำมาจากนิตยสารรายสัปดาห์
理財周刊 │ 2011/11/1 │
ศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุ๊ง อีกชื่อของ ศาลเจ้าโรงเกือก ครับ
ศาลเจ้าฯ แห่งนี้ มีที่ดินติด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับ กรมการขนส่งทางน้ำ หรือ กรมเจ้าท่า โดย สมาคมฮากกาฯ กทม. ให้การดูแลและรักษา ให้คงอยู่ ท่ามกลางการพัฒนาของเมือง
ปัจจุบัน ศาลเจ้าฯ ไม่สง่างามเหมือนเมื่อไหง ยังเป็นเด็ก ซึ่งสมัยก่อน จะมีให้เห็นการฝึกมวยจีน และอาวุธ การต่อสู้แบบจีน รวมทั้งพิธีกรรมทางจีนอื่นๆ
漢王廟 - 漢王宮
นิราศศาลเจ้าโรงเกือก
ตอเชี้ยอาจองกว๊านหมิ่นกอ และอาไทฉินเทียน ที่มาร่่วแจมทั้งภาพและข้อมูล ที่ไหง่สนใจศาลเจ้าแห่งนี้ก็เพราะคำว่า "เกือก" จึงอยากรู้ที่มา และวันนี้ไหง่ได้คำตอบจากกนิราศของนายบุศย์ซึ่งแต่งขี้นในสมัยรัชกาลที่6 {นิราศหมายถึงบทประพันธ์ประเภทหนึ่งที่แต่งขึ้นเพื่อบรรยายถึงสภาพการเดินทางหรือภูมิประเทศที่พบเห็น โดยมากมีการโยงเข้ากับคนรัก}
.... ถึงศาลเจ้าโรงเกือกเป็นชื่อตรอก
ถามเขาบอกให้ฟังคิดกังขา
ไหนองค์อารักษ์อันศักดา
มีสมญารองเท้าเป็นเจ้านาย
พอนึกได้เขาบอกว่าตรอกนี้
เดิมโรงมีแถวเทือกเย็บเกือกขาย
จึงตั้งชื่อลืออยู่ไม่รู้วาย
ถึงหยาบคายเป็นนามตามตำบล
องค์ไทยด้าวอารักษ์ที่ศักดิ์สิทธิ์
ฉันอุทิศขอถวายฝ่ายกุศล
ช่วยคุ้มครองป้องกันพาลประจญ
อย่าให้คน .............
มังกรคาบแก้วบนหลังคาศาลเจ้าโรงเกือก
เจ้าแม่กวนอิมในศาลเจ้าโรงเกือก
ข้อมูลจาก ศาลเจ้าโรงเกือก The Hakka association of thailand
นิราศชมตลาดสำเพ็ง นายบุศย์ แต่งเมื่อต้นสมัยรัชกาลที่ ๖
เกือกใครคิดว่าไม่สำคัญ
สวัสดีค่ะป้าจิ้
ยังไม่เคยไปศาลเจ้าแห่งนี้ แต่คิดว่ามีโอกาสไปเยาวราช จะต้องแวะไปสักหน่อยแล้ว
ฉินซิ่วฉุก
ทริปตลาดน้อย/ฉินซิ่วฉุก
ยินดีมากค่ะที่อาจี้ฉินซิ่วฉุกจะไปขอพรจากศาลเจ้าโรงเกือก ไหง่ว่าเกือกหรือรองเท้าที่ทำในสมัยร.5 น่าจะเป็นเกี๊ยะหรือเปล่าน่ะ การที่คนทำรองเท้าได้ตั้งศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมาก็แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูรู้คุณต่อผู้ที่มีพระคุณ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของคนฮากกาโดยแท้ นอกจากศาลฮากกาแห่งนี้แล้วยังมีสถานที่ที่น่าสนใจเช่น 1.วัดแม่ลูกประคำ(วัดคริสต์กาลหว่าร์) 2.รร.กุหลาบวิทยาลัย(เทียนจู้เจี้ยวเหมยกุ้ยเซี๊ยะเสี้ยว) 3.ธ.ไทยพานิชย์(อาคารเก่าแห่งแรกของธนาคารรูปแบบคลาสสิก) 4.กรมเจ้าท่า(กรมการขนส่งทางน้ำและพานิชย์นาวี) 5ศาลเจ้าโจวซือกง(ของชาวจีนฮกเกี้ยนเป็นสถานที่กินเจชื่อดังแห่งหนึ่ง) 6.ศาลเจ้าจี้จินเกาะ 7.และศาลเจ้าเซียงกง ซึ่งตลอดเส้นทางมีอาหารอร่อยขึ้นชื่อให้เลือกกินมากมาย อาจี้ฉินซิ่วฉุกลองดูเวปข้างล่างนี้เพื่อเป็นไกด์นำทางก่อนที่จะไปจริงนะคะ ไหง่เองก็จะหาโอกาสไปเช่นกัน ไหง่ขออนุญาตกว๊านหมิ่นกอที่แนะนำข้อมูลจากพันทิพย์ เรื่อง"เที่ยวไปกินไป@ตลาดน้อยมาวางไว้ตรงนี้นะคะ เพื่อให้คนที่สนใจสะดวกในการเข้าชม ขอบคุณค่ะ
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/08/D6876761/D6876761.html
เรื่องเล่าคนตลาดน้อย
สวัสดีหนีห่าวค่ะไท้กา ช่วงเดือนเมษานี้อากาศร้อนมากๆ เรามาคลายร้อนฟังเรื่องเล่าคนตลาดน้อยกันนะคะ
จากอาเจ็กขำนาญ เกียรติ์กำใจ ผู้อาวุโสของตลาดน้อย(ตัวจริงเสียงจริง)ของย่านจีนถิ่นบางกอก มาฟังกันว่าเมื่อ80-90ปีที่แล้วตลาดน้อยมีสภาพเป็นอย่างไรนะคะ
เรื่องเล่านี้มีค่ามากครับ
คนจีน ย่านตลาดน้อย ค่อยๆหายไป ในกาลเวลา หาลูกหลานเหลนโหลนลือ ซึ่งจิตสำนึกกตัญญู มีหรือไม่
ประเทศ ขอบขันธสีมา อาณาจักรรัตนโกสินทร์ กำลัง จะหายไป ในกระแสความเป็นประเทศไทย ( ดีแต่กู้ )
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีสักกี่คนที่ทราบว่า พระองค์ท่านมาจากที่ใด พระราชบิดา นามว่า อะไร (คนปัจจุบันรู้แต่ว่าเป็นจีนมาจาก อ.ไหฮอง ) และ พระราชมารดา นามว่าอะไร ( ไหง ไปฟังคนจีนพูดกันว่า "ฮกเกี้ยน" ไม่ใช่ "นกเอี้ยง" ) ทำไมจึงเก่งกล้าในการศึกสงคราม แล้วทำไม ทางการจีน จึงไว้วางใจให้ยืมทหารหาญ และอาวุธยุทธภัณฑ์มาเพื่อการศึกสงคราม แล้วใครกันแน่ที่แย่งราชบัลลังก์ ( พระยาสรรค์ แย่งราชบังลังก์ )
ราชวงศ์จักรี มีสัมพันธ์ไมตรี ที่ดีต่อจีน อย่างไร ให้ประจักษ์มาถึงปัจจุบันนี้ พ.ศ.๒๕๕๖ http://hakkapeople.com/node/3630
ใคร ใส่ร้าย ให้หมายมั่น ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนให้แตกแยก มันน่าจะเป็นคนถ่อย อย่างแน่แท้ หรือไม่ครับ
財神宫 = 财神宫
เทพเจ้าประทานลาภ = 財神宫 = 财神宫 = Cáishén gōng
ประทับอยู่ในศาลเจ้าทรงหกเหลี่ยมแบบ 2 ชั้น สร้างด้วยอิฐปูนและหลังคาทรงกระเบื้องจีนโครงประกอบไม้ศิลปะจีนฮั่น อยู่ด้านหน้าศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุ๊ง และอยู่ภายในบริวณพื้นที่ลานกว้างด้านนอกศาลเจ้าฮ้อนหว่อง ใกล้ท่าน้ำศาลเจ้าโรงเกือก ครับ
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/08/D6876761/D6876761.html
สถานที่นี้ลมพัดเย็นสบายดี
ศาลเจ้าแห่งนี้ร่มรื่นเย็นสบายอยู่ติดแม่นำ้เจ้าพระยา อาผ่อของไหง่พาไปไหว้เจ้าบ่อยๆตั้งแต่ไหง่ยังเด็กๆ(ตอนนี้เกษียรแล้ว) ยังจำได้ว่าเคยไปยืนดูชาวบ้านลงไปงมกุ้งได้ตัวใหญ่ๆที่ท่านำ้หน้าศาลเจ้านี้ แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว
廟王漢=汉王庙
ประวัติศาลเจ้าฮ้อนหว่อง ซึ่งนายสุชาติ และ นางศิริพร พรชัยวิเศษกุล ได้เรียบเรียงและจัดพิมพ์ ถวายมีข้อความว่า “จากข้อมูลบนป้ายศิลาภายในศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุงซึ่งบันทึก เมื่อรัชสมัยจักรพรรดิกวางสู ปีที่ 15 ตรงกับปี พ.ศ.2432 กล่าวว่า พ่อค้าชาวจีนฮากกา (จีนแคะ) ได้เชิญองค์เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง จากเมืองจีนมาประดิษฐานบูชาในประเทศไทยเป็นเวลากว่า หนึ่งร้อยปีก่อนที่จะมีการสร้างศาลเจ้าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันแล้วโดยศาลเจ้าหลังเดิมตั้งอยู่บริเวณด้านขวามือ ต่อมาเมื่อมีการจัดงานแห่เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุงขึ้น ผู้ที่มาร่วมพิธีแห่เจ้า เห็นว่าสถานที่ของศาลเจ้าหลังเดิมคับแคบไม่เหมาะสมแก่การประกอบพิธีกรรม ใน ปี พ.ศ.2431 คณะกรรมการศาลเจ้าซี่งเป็นกลุ่มพ่อค้าชาวจีนฮากกา ประกอบด้วย นายหลิ่วเขี่ยนฮิน นายหยี่จงซึ้น นายอึ้งเมี่ยวเหงี่ยน นายฉึ่นไท้เหงี่ยน นายจูกว้องยี้ นายหลิ่วเขี่ยนซุ้น นายเลี้ยวเหงี่ยนซุ้น นายเท้นวั้นฮับ และนายไล้หยิ่นจี๊ เป็นต้น ได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินซื้อที่ดินด้านซ้ายของศาลเจ้าหลังเดิม ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะนั้นยังมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านไม้หลังคาจาก จากเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นข้าราชการไทย เป็นเงินจำนวน 2,400 บาท เมื่อสร้างศาลเจ้าหลังใหม่แล้วเสร็จได้ใช้พื้นที่บริเวณด้านหน้าจัดให้มีการประมูลภาษีอากรประจำปีขึ้น รายได้จากการประมูลและเงินที่เหลือจากการเรี่ยไรซื้อที่ดิน ได้มอบให้เป็นเงินทุนสะสมของคณะกรรมการศาลเจ้า ไว้ใช้ในงานแห่เจ้า และบริหารงานของศาลเจ้าต่อไป ในอดีตศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง จะจัดงานแห่เจ้าฮ้อนหว่องกุง ขึ้นทุก 3 ปีครั้งหนึ่ง แต่ในปัจจุบันจะจัดเพียงงานประจำปี เนื่องในโอกาสวันประสูติของเจ้าพ่อประทานลาภ (เจ้าพ่อฉ่อยสึ่นหย่า) ในวันที่ 22 เดือน 7 ตามปฎิทินทางจันทรคติของจีน หรือประมาณเดือน สิงหาคม และ เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง ในวันที่ 12 เดือน 9 ตามปฎิทินทางจันทรคติของจีน หรือประมาณเดือน ตุลาคมของทุกปี”
http://www.car.chula.ac.th/cop/profile/2149/
https://www.facebook.com/profile.php?id=100003018442151