หน้าแรก  
HakkaPeople(Thai) ชุมชนชาวฮากกา 泰國客家 Hakka people .  
ที่ใดมีตะวันขึ้น ที่นั้นมีชาวจีน ที่ใดมีชาวจีน ที่นั้นมีเค่อเจียเหริน(客家人) hakkapeople.com

ชนชาติที่ 56 "ฮั่น" ชนชาติที่มีประชากรมากที่สุดในโลกปัจจุบัน

รูปภาพของ YupSinFa

ไท้ก๋าหยิ่น ที่เคารพรักทุกท่าน ดังที่ได้เรียนไปในตอนก่อน ๆ แล้วว่า ชาวจีน ที่เป็นจีนแท้ ๆ อยู่กระจัดกระจายทั่วประเทศจีน และกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ล้วนเรี่ยกตัวเองว่า เป็น "ชนชาติฮั่น" ทำไมถึงต้องเป็นชนชาติ "ฮั่น" เรามาเรียนรู้ไปพร้อมกัน ณ บทเขียน ที่ไหงจะ โม้ ให้ท่านอ่าน กันดังต่อไปนี้ ครับ

ได้เขียนไปแล้วว่า ประชากรจีน ทั้งประเทศ ณ ปัจจุบันนี้ อยู่ที่ประมาณ 1,350,000,000 คน (หนึ่งพันสามร้อยห้าสิบล้านคน) เป็นชนชาติส่วนน้อยเชื้อสายต่าง ๆ เสีย 8% ก็ตกราว ๆ 108,000,000 คน (หนึ่งร้อยแปดล้านคน)

ดังนั้น ประชากรชนชาติฮั่นในประเทศจีน จึงมีอยู่ราว ๆ 1,242,000,000 ล้านคน.....แต่ช้าก่อนครับ อย่าลืมว่า ยังมีชาวจีนโพ้นทะเล และเชื้อสายของพวกเขาซึ่งก็นับว่าเป็นชนชาติฮั่นเช่นเดียวกันด้วย โดยในปัจจุปัน มีชาวจีนฮั่น กระจัดกระจายอาศัยอยู่ทั่วโลก โดยข้อมูลล่าสุด มีดังนี้ ครับ

1. ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 3 ล้านคน

2. แคนาดา จำนวน 2 ล้านคน

3. ทวีปยุโรป จำนวน 15 ล้านคน

4. ทวีปอเมริกาใต้ จำนวน 8 ล้านคน

5. ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ จำนวน 9 ล้านคน

6. ทวีปอาฟริกา จำนวน 9 แสนคน

7. ทวีปเอเชีย จำนวน 45 ล้านคน

(ในประเทศไทย มีจำนวนมากที่สุดที่ ประมาณ 10 ล้านคน รองลงมาคือ อินโดนีเซีย มี 9 ล้านคน มาเลเซีย 8 ล้านคน และสิงคโปร์ 6 ล้านคน/ที่มา....ประวัติศาสตร์จีน โดย ทวีป วรดิลก/วิกิพีเดีย/กระทรวงกิจการชาวจีนโพ้นทะเล ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน)

ท่านทั้งหลาย เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดว่า ประเทศไทย มีพวกเรา ชาวไทยเชื้อสายจีน(ฮั่น) อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก มิน่าล่ะ ประเทศจีนกับประเทศไทย ถึงมีความผูกพันธ์กันอย่างแยกออกจากกันไม่ได้ เวลานี้ และที่ผ่านมา เราก็ได้ประจักษ์แล้วว่า รัฐบาลจีน มีความเอื้อเฟื้อแก่ประเทศไทย เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นประเทศแรก ที่ส่งความช่วยเหลือมาก่อน และเป็นประเทศเดียว ที่จำนวนความช่วยเหลือทั้งปริมาณสิ่งของ และจำนวนเงิน มากที่สุดกว่าทุกประเทศ

เช่นเดียวกัน เวลาประเทศจีนเกิดภัยพิบัตจากธรณีกรรแสง ประเทศไทยก็ร่วมมือร่วมใจจากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งไทยแท้ ไทยเชื้อสายจีน นักธุรกิจ และสูงสุดของพวกเราคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างร่วมใจกันส่งอาหารที่เรามีมากที่สุดในโลก ไปช่วยผู้ประสบภัยในประเทศจีน

นักธุรกิจไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีน ล้วนได้รับความเคารพนับถือและให้เกียรติแก่ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ไปลงทุนที่นั่น เช่นคุณธนินทร์ เจียรวนนท์ และคุณเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ล่วงลับ และอีกหลาย ๆ ท่าน

เรามาเริ่ม อ่านกันเลยครับ ว่า ประชาชาติฮั่น หรือชนชาติฮั่น มีที่มาอย่างไร อ้าว! เกือบลืมไปแล้วว่า ปัจจุบัน ชาวฮั่นทั้งในประเทศจีน และทั่วโลกมีจำนวนประชาชาติฮั่น อยู่ที่ (รวมทั้งหมด) ราว 1,324,900,000 คน ครับพี่น้อง

ในอดีต เมื่อ ห้าพันกว่าปีที่ผ่านมา ณ ที่ราบสูงดินเหลือง (ปัจจุบันอยู่ในมณฑลส่านซี กานสู และหนิงเซี่ย-คนจีนเรียก ย่อ ๆ ว่า.....ส่าน-กาน-หนิง) ด้วยผืนแผ่นดินบริเวณนี้ มีสีเหลือง อย่างเห็นได้ชัด แม้แต่แม่น้ำ ก็เรียกว่า "แม่น้ำเหลือง" (หวงเหอ-ฮวงโห) ได้เกิดมีชนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา ณ บริเวณนี้ อันเป็นแหล่งกำเนิดหรือแหล่งเริ่มต้นของอารยธรรมที่จะมีตามมาทีหลัง......

ชนชาติที่เกิดขึ้นและอาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบสูงดินเหลืองแห่งนี้ มีหัวหน้าของพวกเขา ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ์ เรียกว่า จักรพรรดิ์เหลือง หรือ หวงตี้-(หวงแปลว่าเหลือง ตี้ ก็คือคำในภาษาแต้จิ๋วว่า เต้)


รูปภาพเขียน ของหวงตี้ ที่ชาวจีนทั้งหลายถือว่าตนเองเป็นลูก-หลาน ของหวงตี้


อนุสาวรีย์ของหวงตี้ องค์นี้อยู่ที่มณฑลเหอหนาน เมืองซินเจิ้ง


ภาพเขียนโบราณ อันเป็นภาพของหวงตี้

อย่างไรก็ตาม ในที่ราบสูงดินเหลือง บนแผ่นดิน ส่าน-กาน-หนิง นั้น ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ที่ภาคเหนือของมณฑลส่านซี ที่เรียกว่า ส่านเป่ย อันเป็นจุดที่ชาวจีนทั้งหลาย ถือว่าตนเองเผ่าพันธุ์ของพวกตน ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ มีดินเหลืองให้เพาะปลูกพืชไร่ไว้ดำรงชีวิต มีแม่น้ำเหลือง ให้ได้ใช้บำรุงพืช ดังนั้น ณ "บริเวณชายฝั่งของแม่น้ำเหลืองด้านนอกของนครเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนาน มีประฏิมากรรมสมัยใหม่เป็นรูปสตรีกำลังให้นมทารกในอ้อมอก อันเป็นการแสดงว่าเป็นสัญลักษณ์ของแม่น้ำเหลือง(หวงเหอ)ในฐานะผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงประชาชนชาวฮั่น หรือชาวแผ่นดินเหลืองมาตั้งแต่อดีตกาลไกลโพ้นที่ได้อยู่อาศัยดำรงชีวิตสองฟากฝั่งของแม่น้ำ ซึ่งได้พัฒนาขึ้นมาจาก กลุ่มชน เป็นชนเผ่า เป็นชุมชน เป็นเมือง แล้วแผ่ขยายออกไปเป็นราชอาณาจักรอันกว้างใหญ่.......

โดยแม่น้ำหวงเหอมีน้ำเป็นสีเหลือง ผู้นำของชนเผ่าหรือชุมชนบนสองฝั่งฟากของแม่น้ำหวงเหอ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า "หวงตี้" (กษัตริย์เหลือง-คนละคำกับคำว่าฮ่องแต้ 黄帝 และอีกคำคือ 皇帝 คำนนี้แปลว่าฮ่องเต้ที่ใช้กันในภาพยนต์จีน) น้ำในหวงเหอเป็นสีเหลือง เกิดจากอิทธิพลของสองฝั่งแม่น้ำที่เป็นดินสีเหลือง ชาวจีนปัจจุบันเรียกว่า หวงถู่ (ดินเหลือง) เนื่องจากทรายและฝุ่นทรายจากที่ราบสูงมองโกเลียถูกกระแสลมพัดพามาเป็นหมื่น ๆ ปี ดินที่นี่จึงเป็นดินเหลือง และแม่น้ำก็เป็นแม่น้ำเหลือง ปฐมกษัตริย์ในตำนานของจีนก็จึงเรียกว่า จักรพรรดิ์เหลือง.....ซึ่งชาวจีนยกย่องว่าเป็นบิดาของพวกเราเหล่าชาวจีนทั้งมวล......."----(ดัดแปลงจากประวัติศาสตร์จีน ของ ทวีป วรดิลก)

จุดกำเนิดของอารยธรรมจีน จึงถือกันว่า เกิดจากที่นี่ คือที่ราบสูงดินเหลืองแห่งนี้ ปฐมจักรพรรดิ์ของชาวจีน ก็เรียกว่า หวงตี้ ชาวจีนปัจจุบัน(ตั้งแต่อดีตกาลหลังจากนั้นมา)ต่างเรียกตัวเองว่า ลูก-หลาน ของหวงตี้ และอารยธรรมจีน ถือว่ากำเนิดจากที่ราบสูงดินเหลืองแห่งนี้ โดยถือว่าอารยธรรมและอาณาจักรของตนเองเป็นศูนย์กลางของโลก หรือเรียกว่า จงกว๋อ "อาณาจักรที่อยู่ตรงกลาง(โลก)-หรือศูนย์กลางของโลก"

..............หลังจากนั้นมา อาณาจักรจงกว๋อของหวงตี้ก็มี อารยธรรมสืบต่อกันมา สืบทอดมาถึงยุคต่าง ๆ อันเป็นสมัยบรรพกาลก่อนประวัติศาสตร์ มาถึงราชวงศ์ซาง ราชวงศ์โจวตะวันตก ราชวงศ์โจวตะวันออก ยุค ชุน-ชิว (ใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง) ยุคจ้านกว๋อ(รณรัฐ-สงครามระหว่างรัฐ) เรียกว่า แต่ละยุคในช่วงนี้ เป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์จีน แต่ปัจจุบัน นักโบราณคดีจีน ได้ค้นพบ ว่า มีแหล่งอารยธรรมที่ยืนยันชี้ชัดว่า ราชวงศ์ซาง มีอยู่จริง ไม่ใช่ตำนาน คือมีการค้นพบหลุมฝังศพของจักรพรรดิ์ เครื่องสัมฤทธิ์ ต่าง ๆ


ฮ่องเต้ราชวงศ์ซาง


หลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับราชวงศ์ซาง อันเป็นบทยุติที่ว่า ราชวงศ์ซางเป็นเพียงตำนานหรือประวัติศาสตร์ ปัจจุบันนี้ จากการที่ได้ค้นพบหลักฐานเหล่านี้ ประเทศจีนจึงถือว่า ราชวงศ์ซาง มีอยู่จริง และไม่ใช่ตำนานเแต่เป็นประวัติศาสตร์(แต่ก็ยังไม่สามารถรวมรัฐต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับราชวงศ์ฉิน ของฉินสือหวงตี้-จิ๋นซีฮ่องเต้)

อย่างไรก็ตาม ในยุคเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีฮ่องเต้ (ฮ่องเต้ที่ไม่ใช่หวงตี้) อันเป็นฮ่องเต้เพียงแต่ในนามเท่านั้น ในยุคนั้น อาณาจักรจงกว๋อ ยังไม่ใช่ราชอาณาจักรเดียว แต่มีมากมายหลายรัฐ ตั้งอยู่บนแผนที่ที่เป็นประเทศจีนในปัจจุบันนี้ ราชวงศ์โจว ก็เป็นเพียงฮ่องเต้แต่ในนามเท่านั้น หาได้มีอำนาจหรือมีสิทธิในการปกครอง-สั่งการ รัฐต่าง ๆ ได้


โจวหวาง ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์โจว ผู้อ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากสวรรค-เทียนมิ่ง-อาณัติสวรรค์ แต่ก็ยังเป็นเพียงราชวงศ์แต่ในนามไม่สามารถปกครองรัฐทั้งหลายได้

โบราณวัตถุในสมัยราชวงศ์โจวที่ขุดพบได้

จนมาถึงยุคของสงครามระหว่างรัฐ (รณรัฐ) รัฐฉิน มีความเข้มแข็งแกร่ง เจ้าชายอิ๋งเจิ้ง ได้ขึ้นครองรัฐ โดยการสนับสนุนของ หลี่ปู้เหว่ย อดีตมหาเศรษฐีอัครมหาเสนาบดี ได้ช่วยให้เจ้าชายอิ๋งเจิ้ง ขึ้นครองรัฐได้ดังกล่าว แล้วอิ๋งเจิ้ง ก็ฝึกฝนตนเองจนมีความสามารถ มีอำนาจอันเกรียงไกร สามารถแผ่ขยายอาณาจักรและรัฐฉินของตนเอง โดยตีเมืองรวมรวมรัฐต่าง ๆ ได้ เหลือสองรัฐสุดท้ายคือ รัฐ หาน กับรัฐจ้าว ซึ่งอิ๋งเจิ้ง ก็สามารถตีและยึดได้ในที่สุด


ฉินสื่อหวงตี้ หรือจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมกษัตริย์ราชอาณาจักร "จงกว๋อ" ราชวงศ์ฉิน


ปิงหมาหย่ง หรือสุสานหุ่นทหารม้าที่อารักขาสุสานของฉินสื่อหวงตี้ที่อยู่ภายใต้พื้นดิน ปัจจุบันรัฐบาลจีนยังไม่ตัดสินใจขุดขึ้นมา

รถม้าทองสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์มากที่สุดที่ขุดค้นขึ้นได้เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน

 

ฉินอิ๋งเจิ้ง จึงสถาปนาตนเอง เป็นปฐมกษัตริย์ของราชอาณาจักร "จงกว๋อ" ซึ่งรวมรวมทุกรัฐแล้วรวมเป็นราชอาณาจักรเพียงหนึ่งเดียวได้สำเร็จ เป็นองค์แรก อิ๋งเจิ้ง ได้คิดค้น คำเรียกผู้นำว่าควรจะใช้คำอะไรถึงจะเหมาะสม

ในที่สุดฉินอิ๋งเจิ้ง จึงคิดได้ว่า ควรเอาคำจักรพรรดิ์เหลือง มารวม กับคำว่าอ๋องหรือหวาง กลายมาเป็น หวงตี้ (ฮ่องเต้) หรือจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรจงกว๋อ ราชวงศ์ฉิน

ฉินสื่อหวงตี้ ได้รวมทุกรัฐเข้ามาเป็นราชอาณาจักรจีน ภายใต้ราชวงศ์ฉิน ทรงสั่งเผาตำราของรัฐต่าง ๆ ทุกรัฐ ยกเว้นรัฐฉิน ให้ใช้อักษรของรัฐฉินเพียงอย่างเดียว ถึงแม้ว่าภาษาพูดในแต่ละรัฐจะคนละสำเนียงคนละภาษาแต่ภาษาเขียนสามารถใช้อักษรตัวเดียวกันได้ ในพจนานุกรมคังซี (ราชวงศ์ชิง) ที่ชำระเสร็จเมื่อ ค.ศ.1716 ระบุว่า อักษรฮั่นที่ใช้มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน มีทั้งสิ้น 47,000 ตัว ที่ใช้ในปัจจุบันมีราว ๆ 10,000 ตัว เป็นภาษาเขียน 6,000 ตัว เด็กนักเรียนจีนชั้นประถม รู้ราว ๆ 2-3 พันตัว

ขอออกนอกเรื่องหน่อยนะครับ แต่ก็มีความสำพันธ์กัน กล่าวคือ ทุกวันนี้ในประเทศจีน มีภาษาพูดตามภูมิภาค สำคัญ ๆ อยู่ 8 กลุ่มภาษาด้วยกัน (ฟางเหยียน-8 ฟางเหยียน) ซึ่งได้แก่ จีนเหนือ(เป่ยฟาง ฟางเหยียน) เจียงซู(เจียงซู ฟางเหยียน) เจ้อเจียง(เจ้อเจียงฟางเหยียน) ฮกเกี้ยนเหนือ(ฝูเจี้ยน)-(หมินเป่ย ฟางเหยียน) ฮกเกี้ยนใต้(หมิ่นหนาน ฟางเหยียน) และ กว่างตง (กว่างตง ฟางเหยียน-หรือ ไป๋ฮว่า หรือ เย่หยวี่)

"แล้วยังมีภาษาพูดของชาวเค่อเจีย หรือฮากกา ซึ่งชาวจีนถือเป็นภาษาฮั่นโบราณ ผู้ที่พูดเป็นผู้สืบเชื้อสายชาวจีนเหนือที่อพยพลงมาถึงมณฑลกว่างตงและมณฑลอื่น ๆ เมื่อหลายศตวรรษก่อน จัดอยู่ในกลุ่มภาษาเป่ยฟาง ฟางเหยียน หรือภาษาจีนเหนือ"

***จากประวัติศาสตร์จีน ของ ทวีป วรดิลก หน้า 22 วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน

โปรดติดตามต่อ ตอนที่สอง ซึ่งเป็นตอนจบ รับรอง ตื่นเต้นเร้าใจ และน่าติดตามครับผม

 

หมายเหตุ-เว็ปไซด์หรือหน่วยงานใด นำบทความชิ้นนี้ไปเผยแพร่ สามารถทำได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ ขอเพียงท่าน กรุณาให้เครดิต ว่ามาจากเว็ปไซด์ www.hakkapeople.com โดย Yubsinfa - Klit.Y---ผู้เขียน


รูปภาพของ tee-thaiyai

ขอบคุณครั

ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากมายจริง ขออนุญาตนำไปสอนนักเรียนนะครับ เพราะที่โรงเรียนมีทั้งม้ง ลีซอ มูเซอ ไต

รูปภาพของ YupSinFa

ขอบคุณ คุณtee-thaiyai

       ขอบพระคุณครับ อาจารย์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถส่งหัวข้อมาได้นะครับ ที่ thaichinese.cm@gmail.com

นะครับ พี่น้องชาวไทยภูเขาบ้านเรานั้น ทุกชนชาติที่มีอยู่ล้วนมาจากมณฑลหยุนหนานทั้งนั้นนะครับ ยกเว้น ปะกากะญอ ครับ ที่ไม่มีชนชาตินี้ในประเทศจีน

        ส่วนไทใหญ่ หรือไตโหลง นั้น มีทั้งในรัฐฉาน(มากที่สุด) และในมณฑลหยุนหนานทางตะวันตกของแคว้นสิบสองปันนาที่เรียกว่า เขต เต๋อหง ครับ เขตนี้ มีพี่น้องไทใหญ่อาศัยอยู่ครับ ส่วนสิบสองปันนานั้น แน่นอนที่สุดว่าเป็นเมืองหลวงของไตลื้อ ครับผม

         ส่วนเมืองหลวงของไตยวน (หรือไตโยนก) ในอดีตก็คือเชียงแสน ปัจจุบันก็คงเป็น นครเชียงใหม่ ครับ

รูปภาพของ ฉินเทียน

汉=漢

汉 = 漢 = Hàn

 

 
hakka@hakkapeople.com    คุณความดี แด่บรรพชนและชาวฮากกาที่ฮึกเหิม Hakkapeople.com by Hakka Pakchong Association... Powered by Drupal