วันนี้ไปไหว้เจี่กุง เจี่ยผอ มาครับ ช่วยแปลเจียปี่ให้ไหงหน่อยครับ อยากรู้ว่าเจี่ยกุง เจี่ยผอ มาจากไหนครับ
ถ่ายไกลไปหน่อย ไม่สามารถอ่านได้ครับ อ่านได้อยู่ตัวเดียวว่า อาเจี่ยกุงหงีเซี่ยงจอง ให้ถ่ายมาเฉพาะป้ายเอาแบบไม่เอาวิวชัดๆไม่มีอะไรบดบัง และคราวหน้าไปไหว้ ให้เอากระถางรูปลงมาไว้ชั้นล่าง ตรงที่วางแก้วเหล้า น้ำชา บนแท่นนั้นเขาว่าเป็นที่นั่งของพวกเขา อย่าเอาอะไรไปวาง ของไหว้เยอะดี ลูกหลานก็จะมีความอุดมสมบูรณ์
ไหงได้แก้ไขรูปแล้วน่ะครับ เอารูปที่ถ่ายใกล้ๆลงแล้วครับ ส่วนเรื่องกระถางธูปไหงรู้ว่าต้องวางข้างล่าง แต่ไหงไม่กล้าบอก ไท่คิ้ว ครับ เพราะท่านอายุท่านเกือบ70 แล้วครับ
ซีหมุนงูอ่าย คือ อยู่นอกประตูตะวันตก น่าจะเป็นประตูเมืองเดิมของเมืองเกียดหยองโบราณแต่ตอนนี้เมืองมีความเจริญ เขตแถวๆนี้ก็เกิดเป็นตำบลใหม่ๆ หลายตำบลไปแล้ว ไหงผ่านมาทางนี้สองสามครั้งแล้ว จากหยุกฝู กวนยิมซาน มาเลี่ยวถอง ไถ่เลี้ยง ฝุงหลอปี แล้วก็มาออกที่พักถับ โดยใช้ถนน107 เดือนตุลาก็จะไปแถวนี้อีก พาเพื่อนกลับไปไหว้บรรพชน คนเซี่ยงหวอง มาเลี่ยวถอง ใครที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันนี้ก็ติดต่อขอข้อมูลได้ครับ แถวนี้มีเซี่ยงหวองหลายหมู่บ้าน หมู่บ้านของเจี้ยกุงปิยณัฐ กว้างฝุกหวุย ก็อยู่ไม่ไกลกันกับบ้านของอาจารย์หวองลี่ผิน หลิวสุ้ยปู และบ้านของชิ้นสุ้ยก๊อ ฝุงหลอปี ที่เป็นคนเซี่ยงเจ๊วเหมือนกันกับอาเจี้ยโผปิยณัฐ แต่ไหงได้คุยกับก๊อมะไฟ เขาว่าเจ๊วของอาเจี้ยโผปิยณัฐเป็นเจ๊วไถ่เหลียว เกียดซี อืมกางพู่ ซึ่งอยู่ที่ห้วยกระบอกเป็นส่วนใหญ่ พูดถึงห้วยกระบอก เป็นที่กระจายขักหงินไปทั่วจริงๆ ไถ่คิวเม้ไหงก็เป็นคนมาจากห้วยกระบอก ย้ายลงไปอยู่ทางใต้เป็นคนเซี่ยงผุง ฟุงสุ่นถุงผานหงิน
ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยแปลให้ไหงครับ
สวัสดีก๊ออาคม สบายดีนะครับ
ถ้าเดือนตุลาคมนี้หงีไปช่วยส่งข่าวให้ไหงด้วยเพราะไหงต้องการจะไปด้วย เพราะอยากจะไปบ้านเกิดของอากุ๊งไหง ที่เกียดหยอง ถ้ามีเวลาพอไหงก็อยากจะไปบ้านเกิดของ ฉองหมินหยา ไหงด้วย และ ฝุงหลอปี้ บ้านเกิดอาเจี้ยกุ้ง ไหง ขอเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตไหง ที่ได้ไปถึงบ้านต้นกำเนิดไหง
ปิยณัฐเขายังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย อยู่ที่พนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีอยู่เลยครับ ต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นนี้จะมาให้ความสนใจเกี่ยวกับฮากกานั้นยากมาก ไหง่คุยกับปิยณัฐบ่อยๆในเฟชบุ๊ควิธีการลงรูปปิยณัฐก็ถามไหง่จึงสามารถลงรูปนี้ได้ ไหง่ยังเห็นรูปปิยณัฐแต่งตัวนักเรียนอยู่เลยครับอาก๊อ ปิยณัฐคงเป็นอาก๊อไม่ได้แน่ คงจะเป็นได้แค่โล่เท้ หรืออาจจะเป็นถึงอาไล้ได้เลย ไม่เชื่อไปถามครูอังคณาได้เลยครับ
ฮิตมาถึงเว็ปฮากกาเลยนะ วลีที่ว่า "เดี๋ยวฟ้องครูอังคณาแน่" ต้องยอมรับว่าวี่ฟัดโกตามข่าวสารตลอดเวลา ตามโลกออนไลน์ทุกวินาที เลยทันสมัยตลอด แค่เพียงชั่วข้ามคืน ครูอังคณาก็ดังไปทั้งโลกไซเบอร์แล้ว ถ้าใครยังไม่รู้ที่มาของวลีดังกล่าวก็ไปหาข้อมูลตามข่าวสารเว็ปไซด์อื่นๆนะ เดี๋ยวจะตกเทรนด์เปล่าๆ
ต้องถือว่าเยาวชนฮากกาในไทยนับวันจะสนใจในบรรพชนของตนมากขึ้น ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี ทีแรกไม่คิดเหมือนกันว่าน้องปิยณัฐจะอายุน้อย คือยังเป็นนักเรียนอยู่เลย ก็ขอชื่อนชมและสนับสนุนให้ค้นคว้าหารากเหง้าของตัวเองต่อไปนะ
อากุ๊งทางอาปาไหงก็มาจากเก๊กเอี๊ย หรือจีนกลางว่าเจียหยางเหมือนกัน เท่าที่คุยกับโกอาคมก็คิดว่า อาจจะมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงกันกับอาเจี้ยกุงของน้องปิยณัฐนะ แต่คนละแซ่กัน
ตอนนี้ครูอังคณามาแรงจริงๆครับ ดังไปทุกเว็ปเลยครับบบ
ดีใจจริงๆที่ได้รู้ว่าโกปิยณัฐ มีอาเจี่ยผอ เซี่ยงเจ้ว เซี่ยงเดียวกับไหง
ดีใจเหมือนกันครับ ได้เจอคนเซี่ยงเดียวกับเจี่ยผอ เจี่ยผอไหง เซี่ยงเจ้ว อาแม้บอกว่าเจี่ยผออพยพมาคนเดียวแต่ว่ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่เมืองไทยครับ อีกอย่างไหงยังเป็นเยาวชนอยู่เลยครับ
ข้อมูลหงีอยู่เมืองกาญจน์ ไม่ทราบว่าอยู่ อำเภอไหน งาเตี๋ยไหงเกิดที่แก่งเสี้ยน มาโตที่ท่าม่วง อพยพมากรุงเทพฯคราสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันนี้ยังมีญาติผู้ใหญ่เหลืออยู่ก็เพียงอาซำกู้ไหงที่ท่าม่วง ที่ลูกชายกึ๋อเป็น อบต. วังขนาย และ ลูกที่ลูกน้องไหง (ลูกอาหงี่สุก) ก็อยู่ท่าม่วง เป็นลูกเขยร้านถ่ายรูป เทพศิลป์
ไหงอยู่อำเภอ พนมทวนครับ อาแม้ไหงเป็นคนตลาดเขตครับ
หงีเรียนมัธยมปลายไม่ทราบว่า ม. ไหน
ที่ตลาดเขต ไหงก็มีญาติผู้ใหญ่อยู่หลายคน แต่ขาดการติดต่อตั้งแต่อาเตี้ยไหงเสียเมื่อปี 2526
ส่วนที่พนมทวนไหงรู้จักกับคนสกุล เบญจภาส ซึ่งเป็นลาวซ่ง
ไหงกำลังขึ้นม.6 ครับ ส่วนญาติๆของหงี่ที่อยู่ตลาดเขตไว้ไหงจะถามอาแม้ให้คับ ส่วนคนที่นามสกุล เบญจภาส ไม่น่าจะเขียนแบบนี้น่ะคับ เพราะไหงก็มีเพื่อนนามสกุลนี้หลายคนคับ
ถ้าหงีกำลังขึ้น ม.6 หงีน่าจะเกิดปี 2537 ปี จอ อ่อนกว่าไหง 3 รอบ นามสกุลเบญจภาส ไหงจำไม่ได้ว่าเขียนอย่างไร เพราะมันนานเกือบ 40 ปี แล้ว ที่ไหงเคยชอบสาวนามสกุลนี้
ส่วนที่ตลาดเขต ญาติไหง คือ อาแซ่คิ้วกุ๊ง เซี่ยงฉิน กึ์ มีลูกชายคนเล็กน่าจะอายุ 48 ปี ในปีนี้ แต่ ขาดการติดต่อเกือบ 40 ปีแล้ว
ไหงต้องขอโทษอาปักครับที่เรียกอาปักไม่เหมาะสมครับ
ได้เคยแลกเปลี่ยนกับโก๊อาคมแล้ว ไหงเคยบอกโก๊ว่าเจี้ยโผปิยะณัฐ อาจุ๊ง อยู่เกียดซี เช่นกัน เพราะไหงเคยถามเม้ไหงว่า เซี่ยงเจ๊วห้วยกระบอก ตลาดเขต(ซึึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่อพยพไปจากห้วยกระบอก ไปบุกเบิกเปิดป่าทำไร่ยา ไร่อ้อยในสมัยนานมาแล้ว ) และกลุ่มเซี่ยงเจ๊วในละแวกนี้ เกือบทั้งหมดมาจากไถ่เหลียว ฝุงหลอปี้ มากับเป็นกลุ่มครอบครัวพี่น้องกันส่วนใหญ่ ก็จะแยกไช่กัน เช่น โหวเผียงเถว(บ้านลานตากข้าว)ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันไม่มีชื่อหมู่บ้านนี้แล้ว(ตามที่อาคิ้วไหงไปมาหลายรอบ) ถ้าบอกชื่อหมู่บ้าน รถแท็กซี่พาไปไม่ถูกแล้ว ต้องบอกไปหมู่บ้านอึ้งคังฟู่ ของเซี่ยงเจ๊น เจี๊ยกุ้งไหงมาจากไถ่เหลียวมาแต่งงานกับเจี๊ยโผเซี่ยงเจ๊นที่อึ้งคังพู่ แล้วแยกบ้านมาอยู่ที่ลานตากข้าว เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ เห็นอาคิ้วไหงบอกว่าตอนนี้ถูกรวมไปกับหมู่บ้านอื่น จำไม่ได้ เพราะคิ้วไหงก็เหมือนกับไหงไม่เก่งภาษาจีน พอมาถึงรุ่นเม้ไหงพี่น้องพลัดพรากจากเมืองจีนด้วยกันตั้งแต่เล็ก ก็เลยไม่รู้จะสืบหากันอย่างไง ๘๐ กว่าปีเพ่ิงเจอกันเหมือนเม้ไหงกับสุกปักจื้อโม่ยเซี่ยงเจ๊น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเจอกันน้ำตาท่วมบ้านกัน ในเฟสบุ๊คไหงก็มีภาพประทับใจ เพราะเกิดมาได้ขวบสองขวบก็แยกจากกัน มีแต่คำบอกเล่ากันเท่านั่้นว่าบรรพบุรุษเป็นใคร มีพี่น้องชื่ออะไร กว่าจะตามเจอก็แทบจะตายจากกัน ภาคตะวันตกมีกลุ่มเซี่ยงเจ๊วเป็นสมาคมที่บ้านโป่ง ตามทะเบียนที่มีการบันทึกของกาญจน์ ราชฯ สุพรรณ ก็มีมาจาก๒ ที่คือไถ่เหลียว ฝุงหลอปี้ น่าจะทั้งหมด แต่หมู่บ้านย่อยก็หลากหลาย ซักปี้ของอาม่าไหงก็ทำผิดเรื่องชื่อหมู่บ้าน เราก็ไม่รู้ เพ่ิงจะรู้ว่าผิดเมือชิ้นหมิน ถูเถวสุกกุ๊งบอกชื่อหมู่บ้านผิด สมัยก่อนจ้างทำจากบ้านโป่ง พี่น้องอาม่าไหงซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านทำให้ ก็ทำชื่อหมู่บ้านตัวเองซะ เราก็ไม่รู้เลย บอกผิดมาตลอด
อ่านแล้วต้องเกิดความรู้สึกสะเทือนใจบ้างไม่มากก็น้อย แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ชีวิตคือละครจริง ความขัดแย้ง สงคราม ความทุกข์ยากใดๆอย่าได้มีเลยไม่ว่าที่ใหนในโลกนี้
อ่านแล้วทำให้คิดถึงเรื่องของสองสาวพี่น้องชาวไต้หวันที่โด่งดังมากในประเทศไต้หวันเอง ฮ่องกง และสิงคโปร์เมื่อ 1 - 2 ปีที่ผ่านมา เกิดมาไม่เคยรู้จักกันและมาพบกันอีกครั้งด้วยกาแฟเพียงถ้วยเดียวเมื่อเวลาผ่านไปถึง 40 ปี ..... แล้วจะหาโอกาสแปลเล่าให้อ่านกันต่อไป.....
สมาคมต่างๆ
ด้วยความปราถนาดีจาก www.hakkapeople.com
ปิยณัฐ
ถ่ายไกลไปหน่อย ไม่สามารถอ่านได้ครับ อ่านได้อยู่ตัวเดียวว่า อาเจี่ยกุงหงีเซี่ยงจอง ให้ถ่ายมาเฉพาะป้ายเอาแบบไม่เอาวิวชัดๆไม่มีอะไรบดบัง และคราวหน้าไปไหว้ ให้เอากระถางรูปลงมาไว้ชั้นล่าง ตรงที่วางแก้วเหล้า น้ำชา บนแท่นนั้นเขาว่าเป็นที่นั่งของพวกเขา อย่าเอาอะไรไปวาง ของไหว้เยอะดี ลูกหลานก็จะมีความอุดมสมบูรณ์
ตอบอาปัก อาคม ครับ
ไหงได้แก้ไขรูปแล้วน่ะครับ เอารูปที่ถ่ายใกล้ๆลงแล้วครับ ส่วนเรื่องกระถางธูปไหงรู้ว่าต้องวางข้างล่าง แต่ไหงไม่กล้าบอก ไท่คิ้ว ครับ เพราะท่านอายุท่านเกือบ70 แล้วครับ
เกียดหยอง ซีหมุนงูอ่าย
ซีหมุนงูอ่าย คือ อยู่นอกประตูตะวันตก น่าจะเป็นประตูเมืองเดิมของเมืองเกียดหยองโบราณแต่ตอนนี้เมืองมีความเจริญ เขตแถวๆนี้ก็เกิดเป็นตำบลใหม่ๆ หลายตำบลไปแล้ว ไหงผ่านมาทางนี้สองสามครั้งแล้ว จากหยุกฝู กวนยิมซาน มาเลี่ยวถอง ไถ่เลี้ยง ฝุงหลอปี แล้วก็มาออกที่พักถับ โดยใช้ถนน107 เดือนตุลาก็จะไปแถวนี้อีก พาเพื่อนกลับไปไหว้บรรพชน คนเซี่ยงหวอง มาเลี่ยวถอง ใครที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันนี้ก็ติดต่อขอข้อมูลได้ครับ แถวนี้มีเซี่ยงหวองหลายหมู่บ้าน หมู่บ้านของเจี้ยกุงปิยณัฐ กว้างฝุกหวุย ก็อยู่ไม่ไกลกันกับบ้านของอาจารย์หวองลี่ผิน หลิวสุ้ยปู และบ้านของชิ้นสุ้ยก๊อ ฝุงหลอปี ที่เป็นคนเซี่ยงเจ๊วเหมือนกันกับอาเจี้ยโผปิยณัฐ แต่ไหงได้คุยกับก๊อมะไฟ เขาว่าเจ๊วของอาเจี้ยโผปิยณัฐเป็นเจ๊วไถ่เหลียว เกียดซี อืมกางพู่ ซึ่งอยู่ที่ห้วยกระบอกเป็นส่วนใหญ่ พูดถึงห้วยกระบอก เป็นที่กระจายขักหงินไปทั่วจริงๆ ไถ่คิวเม้ไหงก็เป็นคนมาจากห้วยกระบอก ย้ายลงไปอยู่ทางใต้เป็นคนเซี่ยงผุง ฟุงสุ่นถุงผานหงิน
ตอบอาปัก อาคม 2
ขอบคุณมากๆครับที่ช่วยแปลให้ไหงครับ
ก๊ออาคม
สวัสดีก๊ออาคม สบายดีนะครับ
ถ้าเดือนตุลาคมนี้หงีไปช่วยส่งข่าวให้ไหงด้วยเพราะไหงต้องการจะไปด้วย เพราะอยากจะไปบ้านเกิดของอากุ๊งไหง ที่เกียดหยอง ถ้ามีเวลาพอไหงก็อยากจะไปบ้านเกิดของ ฉองหมินหยา ไหงด้วย และ ฝุงหลอปี้ บ้านเกิดอาเจี้ยกุ้ง ไหง ขอเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตไหง ที่ได้ไปถึงบ้านต้นกำเนิดไหง
เด๋วปิยณัฐไปฟ้องครูอังคณาแน่
ปิยณัฐเขายังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย อยู่ที่พนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีอยู่เลยครับ ต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นนี้จะมาให้ความสนใจเกี่ยวกับฮากกานั้นยากมาก ไหง่คุยกับปิยณัฐบ่อยๆในเฟชบุ๊ควิธีการลงรูปปิยณัฐก็ถามไหง่จึงสามารถลงรูปนี้ได้ ไหง่ยังเห็นรูปปิยณัฐแต่งตัวนักเรียนอยู่เลยครับอาก๊อ ปิยณัฐคงเป็นอาก๊อไม่ได้แน่ คงจะเป็นได้แค่โล่เท้ หรืออาจจะเป็นถึงอาไล้ได้เลย ไม่เชื่อไปถามครูอังคณาได้เลยครับ
ฮิตมาถึงเว็ปฮากกาเลยนะ
ฮิตมาถึงเว็ปฮากกาเลยนะ วลีที่ว่า "เดี๋ยวฟ้องครูอังคณาแน่" ต้องยอมรับว่าวี่ฟัดโกตามข่าวสารตลอดเวลา ตามโลกออนไลน์ทุกวินาที เลยทันสมัยตลอด แค่เพียงชั่วข้ามคืน ครูอังคณาก็ดังไปทั้งโลกไซเบอร์แล้ว ถ้าใครยังไม่รู้ที่มาของวลีดังกล่าวก็ไปหาข้อมูลตามข่าวสารเว็ปไซด์อื่นๆนะ เดี๋ยวจะตกเทรนด์เปล่าๆ
ต้องถือว่าเยาวชนฮากกาในไทยนับวันจะสนใจในบรรพชนของตนมากขึ้น ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี ทีแรกไม่คิดเหมือนกันว่าน้องปิยณัฐจะอายุน้อย คือยังเป็นนักเรียนอยู่เลย ก็ขอชื่อนชมและสนับสนุนให้ค้นคว้าหารากเหง้าของตัวเองต่อไปนะ
อากุ๊งทางอาปาไหงก็มาจากเก๊กเอี๊ย หรือจีนกลางว่าเจียหยางเหมือนกัน เท่าที่คุยกับโกอาคมก็คิดว่า อาจจะมาจากหมู่บ้านใกล้เคียงกันกับอาเจี้ยกุงของน้องปิยณัฐนะ แต่คนละแซ่กัน
ฟ้องครูอังคณา
ตอนนี้ครูอังคณามาแรงจริงๆครับ ดังไปทุกเว็ปเลยครับบบ
ดีใจ
ดีใจจริงๆที่ได้รู้ว่าโกปิยณัฐ มีอาเจี่ยผอ เซี่ยงเจ้ว เซี่ยงเดียวกับไหง
ตอบ เจ้วติ่นเงี๊ยบ
ดีใจเหมือนกันครับ ได้เจอคนเซี่ยงเดียวกับเจี่ยผอ เจี่ยผอไหง เซี่ยงเจ้ว อาแม้บอกว่าเจี่ยผออพยพมาคนเดียวแต่ว่ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่เมืองไทยครับ อีกอย่างไหงยังเป็นเยาวชนอยู่เลยครับ
ปิยณัฐ
ข้อมูลหงีอยู่เมืองกาญจน์ ไม่ทราบว่าอยู่ อำเภอไหน งาเตี๋ยไหงเกิดที่แก่งเสี้ยน มาโตที่ท่าม่วง อพยพมากรุงเทพฯคราสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันนี้ยังมีญาติผู้ใหญ่เหลืออยู่ก็เพียงอาซำกู้ไหงที่ท่าม่วง ที่ลูกชายกึ๋อเป็น อบต. วังขนาย และ ลูกที่ลูกน้องไหง (ลูกอาหงี่สุก) ก็อยู่ท่าม่วง เป็นลูกเขยร้านถ่ายรูป เทพศิลป์
ตอบ เจ้วติ่นเงี๊ยบ 2
ไหงอยู่อำเภอ พนมทวนครับ อาแม้ไหงเป็นคนตลาดเขตครับ
ปิยณัฐ
หงีเรียนมัธยมปลายไม่ทราบว่า ม. ไหน
ที่ตลาดเขต ไหงก็มีญาติผู้ใหญ่อยู่หลายคน แต่ขาดการติดต่อตั้งแต่อาเตี้ยไหงเสียเมื่อปี 2526
ส่วนที่พนมทวนไหงรู้จักกับคนสกุล เบญจภาส ซึ่งเป็นลาวซ่ง
ตอบ เจ้วติ่นเงี๊ยบ 3
ไหงกำลังขึ้นม.6 ครับ ส่วนญาติๆของหงี่ที่อยู่ตลาดเขตไว้ไหงจะถามอาแม้ให้คับ ส่วนคนที่นามสกุล เบญจภาส ไม่น่าจะเขียนแบบนี้น่ะคับ เพราะไหงก็มีเพื่อนนามสกุลนี้หลายคนคับ
ปิยณัฐ
ถ้าหงีกำลังขึ้น ม.6 หงีน่าจะเกิดปี 2537 ปี จอ อ่อนกว่าไหง 3 รอบ นามสกุลเบญจภาส ไหงจำไม่ได้ว่าเขียนอย่างไร เพราะมันนานเกือบ 40 ปี แล้ว ที่ไหงเคยชอบสาวนามสกุลนี้
ส่วนที่ตลาดเขต ญาติไหง คือ อาแซ่คิ้วกุ๊ง เซี่ยงฉิน กึ์ มีลูกชายคนเล็กน่าจะอายุ 48 ปี ในปีนี้ แต่ ขาดการติดต่อเกือบ 40 ปีแล้ว
ตอบ เจ้วติ่นเงี๊ยบ 4
ไหงต้องขอโทษอาปักครับที่เรียกอาปักไม่เหมาะสมครับ
บรรพชนของปิยณัทอยู่ “ไว่กว่างฟูกฮุ่ยเซียง 外广福圚乡”
บรรพชนปิยะณัฐ
ได้เคยแลกเปลี่ยนกับโก๊อาคมแล้ว ไหงเคยบอกโก๊ว่าเจี้ยโผปิยะณัฐ อาจุ๊ง อยู่เกียดซี เช่นกัน เพราะไหงเคยถามเม้ไหงว่า เซี่ยงเจ๊วห้วยกระบอก ตลาดเขต(ซึึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่อพยพไปจากห้วยกระบอก ไปบุกเบิกเปิดป่าทำไร่ยา ไร่อ้อยในสมัยนานมาแล้ว ) และกลุ่มเซี่ยงเจ๊วในละแวกนี้ เกือบทั้งหมดมาจากไถ่เหลียว ฝุงหลอปี้ มากับเป็นกลุ่มครอบครัวพี่น้องกันส่วนใหญ่ ก็จะแยกไช่กัน เช่น โหวเผียงเถว(บ้านลานตากข้าว)ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันไม่มีชื่อหมู่บ้านนี้แล้ว(ตามที่อาคิ้วไหงไปมาหลายรอบ) ถ้าบอกชื่อหมู่บ้าน รถแท็กซี่พาไปไม่ถูกแล้ว ต้องบอกไปหมู่บ้านอึ้งคังฟู่ ของเซี่ยงเจ๊น เจี๊ยกุ้งไหงมาจากไถ่เหลียวมาแต่งงานกับเจี๊ยโผเซี่ยงเจ๊นที่อึ้งคังพู่ แล้วแยกบ้านมาอยู่ที่ลานตากข้าว เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ เห็นอาคิ้วไหงบอกว่าตอนนี้ถูกรวมไปกับหมู่บ้านอื่น จำไม่ได้ เพราะคิ้วไหงก็เหมือนกับไหงไม่เก่งภาษาจีน พอมาถึงรุ่นเม้ไหงพี่น้องพลัดพรากจากเมืองจีนด้วยกันตั้งแต่เล็ก ก็เลยไม่รู้จะสืบหากันอย่างไง ๘๐ กว่าปีเพ่ิงเจอกันเหมือนเม้ไหงกับสุกปักจื้อโม่ยเซี่ยงเจ๊น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเจอกันน้ำตาท่วมบ้านกัน ในเฟสบุ๊คไหงก็มีภาพประทับใจ เพราะเกิดมาได้ขวบสองขวบก็แยกจากกัน มีแต่คำบอกเล่ากันเท่านั่้นว่าบรรพบุรุษเป็นใคร มีพี่น้องชื่ออะไร กว่าจะตามเจอก็แทบจะตายจากกัน ภาคตะวันตกมีกลุ่มเซี่ยงเจ๊วเป็นสมาคมที่บ้านโป่ง ตามทะเบียนที่มีการบันทึกของกาญจน์ ราชฯ สุพรรณ ก็มีมาจาก๒ ที่คือไถ่เหลียว ฝุงหลอปี้ น่าจะทั้งหมด แต่หมู่บ้านย่อยก็หลากหลาย ซักปี้ของอาม่าไหงก็ทำผิดเรื่องชื่อหมู่บ้าน เราก็ไม่รู้ เพ่ิงจะรู้ว่าผิดเมือชิ้นหมิน ถูเถวสุกกุ๊งบอกชื่อหมู่บ้านผิด สมัยก่อนจ้างทำจากบ้านโป่ง พี่น้องอาม่าไหงซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านทำให้ ก็ทำชื่อหมู่บ้านตัวเองซะ เราก็ไม่รู้เลย บอกผิดมาตลอด
ละครจริง
อ่านแล้วต้องเกิดความรู้สึกสะเทือนใจบ้างไม่มากก็น้อย แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ชีวิตคือละครจริง ความขัดแย้ง สงคราม ความทุกข์ยากใดๆอย่าได้มีเลยไม่ว่าที่ใหนในโลกนี้
อ่านแล้วทำให้คิดถึงเรื่องของสองสาวพี่น้องชาวไต้หวันที่โด่งดังมากในประเทศไต้หวันเอง ฮ่องกง และสิงคโปร์เมื่อ 1 - 2 ปีที่ผ่านมา เกิดมาไม่เคยรู้จักกันและมาพบกันอีกครั้งด้วยกาแฟเพียงถ้วยเดียวเมื่อเวลาผ่านไปถึง 40 ปี ..... แล้วจะหาโอกาสแปลเล่าให้อ่านกันต่อไป.....